ห้องเม่าปีกเหล็ก

เปิดสถิติหุ้นร่วงรับภัยพิบัติ

โดย BeArt
เผยแพร่ :
132 views

โบรกเปิดสถิติหุ้นร่วงรับภัยพิบัติ จับตากระทบอสังหา-ท่องเที่ยว

บล.พายเปิดสถิติหุ้นไทยหลังเกิดภัยพิบัติร่วงหนักทันที เช่นเดียวกับตลาดหุ้นญี่ปุ่น คาดผลกระทบ 6% ต่อGDP จับตาอุปสงค์อสังหาฯกระทบ -ต่างชาติชะลอท่องเที่ยว

 

 

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) พายประเมิน สถานการณ์แผ่นดินไหวและผลกระทบจากการศึกษาผลกระทบภัยธรรมชาติ (แผ่นดินไหว) ในอดีตของประเทศไทยผ่านเหตุการณ์ สึนามิในช่วงปลายปี 2004 พบว่าหลังจากเปิดทำการตลาดหุ้นไทยปรับลง 2.2% และใช้ระยะเวลาเพียง 4 วันทำการกลับมา ณ ระดับก่อนเกิดสึนามิ

ในช่วงเวลาดังกล่าวพบว่าหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกจะได้แก่กลุ่ม Defensive (BDMS) กลุ่มก่อสร้าง (SCC) กลุ่มส่งออก (TU) แต่หุ้นที่ Underperform ได้แก่โรงแรม (MINT -5%) กลุ่มธนาคาร (BBL -3.7% KBANK -3%) 

 


ขณะที่กรณีศึกษาของญี่ปุ่นพบว่าในช่วงปี 2011 ญี่ปุ่นได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 9 ริกเตอร์ ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นตึกถล่มราว 1.2 แสนตึกและความเสียหายรวม 9.8 แสนหลังคาเรือนสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจราว 3.5 แสนล้านบาท สำหรับผลกระทบต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่นพบว่าใน 1 สัปดาห์ปรับลง 16% โดยกลุ่มที่รับผลกระทบได้แก่อสังหา ค้าปลีก สายการบิน ขณะที่กลุ่มก่อสร้าง Outperform และใช้ระยะเวลากว่า 21 เดือนในการกลับมาจุดเดิมก่อนเกิดเหตุการณ์ 

สำหรับรอบที่ 2 เกิดในช่วงต้นปี 2024 เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวเขย่าจังหวัดอิชิคาระวะทำให้ถนนหลายสายเกิดรอยแตกร้าว อาคารบ้านเรือนถล่ม แต่อย่างไรก็ตามกับตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับลงราว 2.6% และใช้ระยะเวลาเพียง 2 วันทำการกลับขึ้นไปก่อนระดับเดิม โดยสรุปก็คือผลกระทบต่อตลาดหุ้นจะมากหรือน้อยขึ้นกับความแรงต่อเศรษฐกิจ 

กลับมาที่ตลาดหุ้นไทยผลกระทบจากแผ่นดินไหวยังค่อนข้างจำกัดต่ออาคารสิ่งปลูกสร้างอย่างน้อยก็ยังไม่ได้เห็นอาคารสิ่งปลูกสร้างในกรุงเทพพังทลายลงมาก อาจมีบ้างเช่นสำนักการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)

ส่วนที่เหลือยังค่อนข้างปกติ แต่คอนโดต่างๆเผชิญกับปัญหารอยแตกร้าวและเสียความเชื่อมั่นจากผู้อาศัย ซึ่งจะกระทบกับอุปสงค์ในอนาคต โดยเฉพาะอสังหาฯที่มีคอนโดเป็นส่วนประกอบเยอะอย่าง (ORI)

จากข้อมูลพบว่ามูลค่าเศรษฐกิจไทยอยู่ที่ 18 ล้านล้านบาท โดยที่ตลาดอสังหามูลค่าอยู่ที่ 1.1 ล้านล้านบาท ก็อาจพอคำนวนคร่าวๆได้ว่าคิดเป็น 6% ของ GDP หากพิจารณาในเบื้องต้นก็อาจสร้าง Downside ต่อเศรษฐกิจมิได้มากนัก 

อย่างไรก็ตามกลุ่มท่องเที่ยวก็มองเป็นจิตวิทยาเชิงลบและมีผลต่อเศรษฐกิจไทย ด้วยเดิมทีความน่าสนใจของประเทศไทยถูกลดเสน่ห์ลงไปบ้างสะท้อนผ่านการมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่น้อยลง YTD ขยายตัวเพียง 3% จากปีก่อน 15% และนักท่องเที่ยวจีนกลับเดินทางไปญี่ปุ่นมากกว่าระดับก่อน COVID-19 สวนทางกับไทยที่ยังต่ำกว่าช่วงก่อน COVID-19 เมื่อประกอบกับแผ่นดินไหวอาจทำให้นักท่องเที่ยวบางส่วนชะลอการมาท่องเที่ยวไทย อย่างไรก็ตามหากเหตุการณ์แผ่นดินไหวมิได้เกิดขึ้นอีกเราก็เชื่อว่าจะกระทบกับการท่องเที่ยวระยะสั้น แต่การจะเติบโตข้างหน้าเป็นอีกปัจจัย 

ดังนั้นการลงทุนกลุ่มได้ประโยชน์อาจมองไปที่ ค้าปลีกที่เกี่ยวข้องกับซ่อมแซมบ้าน (HMPRO GLOBAL DOHOME) ปูน (SCCC) รวมไปถึงกลุ่มที่ผลกระทบจำกัดอย่างโรงพยาบาล (BDMS) สื่อสาร (ADVANC TRUE) และควรระมัดระวังในหุ้นอสังหา (ผลกระทบหนักสุด) และล่าสุดกระทรวงการคลังได้เตรียมออกมาตรการมารองรับและยังยืนยันว่าเศรษฐกิจไทยยังมีความแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพ

 

ที่มา https://www.bangkokbiznews.com/finance/stock/1173410

 


BeArt