"สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง"ควัก 110 ล้าน ซื้อบิ๊กล็อต WP 5.0% ขยับถืออันดับ 3
"สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง" ซื้อบิ๊กล็อตหุ้น WP จาก ITOCHU ENEX จำนวน 25.92 ล้านหุ้น ( 5.00 %) หุ้นละ 4.27 บาท มูลค่ารวม 110.70 ล้านบาท ขยับถือหุ้นใหญ่ขึ้นอันดับ 3 สัดส่วน 10.99%
จากข้อมูลสำนักงาน ก.ล.ต.ตามแบบรายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์ฯของกิจการ (แบบ 246-2) ระบุว่า เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2566 พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง แจ้งการได้มาหุ้นของบริษัทดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ WP จำนวน 25,925,000 หุ้น หรือสัดส่วน 5.00% โดยเป็นการซื้อหุ้นบิ๊กล็อตจาก ITOCHU ENEX CO., LTD. ในตลาดหลักทรัพย์ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส
ภายหลังการได้มาดังกล่าว ทำให้พล.ต.อ.สมยศ ถือหุ้น WP เพิ่มเป็น 57,034,014 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 10.9998% ( โดยถือหุ้นใหญ่ WP เป็นอันดับ 3 ) จากเดิมที่ถือหุ้นจำนวน 31,109,014 หุ้น สัดส่วน 5.9998%
ขณะที่ข้อมูลซื้อขายบิ๊กล็อตในตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2566 พบว่ามีรายการบิ๊กล็อตหุ้น WP จำนวน 25,925,000 ล้านบาท ระบุราคาซื้อขายเฉลี่ยหุ้นละ 4.27 บาท มูลค่ารวม 110,699.75 บาท
ทั้งนี้โครงสร้างผู้ถือหุ้น 10 อันดับแรก ( วันที่ 10 พ.ค.2566 ) พบว่า พล.ต.อ.สมยศ ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 5 จำนวน 31,043,914 หุ้น สัดส่วน 5.99% ขณะที่ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ได้แก่นางสาวชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง (บุตรสาวนายสมยศ) ถือหุ้นจำนวน 93,156,847 หุ้น หรือ 17.97% และ ITOCHU ENEX CO.,LTD ถือหุ้นใหญ่อันดับ 6 จำนวน 25,925,000 หุ้น หรือสัดส่วน 5.00% รายละเอียดดังนี้
ผู้ถือหุ้น 10 รายแรก ข้อมูล ณ วันที่ 10 พ.ค. 2566
- น.ส.ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง 93,156,847 หุ้น สัดส่วน 17.97%
- นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา 84,998,404 หุ้น สัดส่วน 16.39%
- นายชัชวาลย์ เจียรวนนท์ 37,312,408 หุ้น สัดส่วน 7.20%
- นายรชต พุ่มพันธุ์ม่วง 35,097,517 หุ้น สัดส่วน 6.77%
- พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง 31,043,914 หุ้น สัดส่วน 5.99%
- ITOCHU ENEX CO.,LTD. 25,925,000 หุ้น สัดส่วน5.00%
- ธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน) 24,325,570 หุ้น สัดส่วน 4.69%
- VERWALTUNGS-UND PRIVAT-BANK AKTIENGESELLSCHAFT 17,281,471 หุ้น สัดส่วน 3.33%
- น.ส.อภิรดี โอภาสเอี่ยมลิขิต 12,000,000 หุ้น สัดส่วน 2.31%
- น.ส.มนตร์ลดา พงษ์พานิช 9,228,000 หุ้น สัดส่วน 1.78%
การเคลื่อนไหวราคาหุ้น WP เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 66 ปิดที่ 4.16 บาท มูลค่าการซื้อขาย 110.72 ล้านบาท โดยราคาปิดสูงสุดระหว่างวันที่ 4.18 บาท และต่ำสุดที่ 4.16 บาท
ขณะราคาปิดเมื่อ 30 มิ.ย.66 อยู่ที่ 4.16 บาท มูลค่าซื้อขายราว 1 หมื่นบาท ราคาปิดสูงสุด 4.18 บาทและต่ำสุด 4.16 บาท