โบรกฯคาดหุ้นไทยดิ่ง

โบรกฯคาดหุ้นไทยดิ่ง 1,520 จุด หวั่นเศรษฐกิจชะลอ แนะ 4 หุ้นได้ผลดีรับราคาน้ำตาลพุ่งสูงในรอบ 11 ปี

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้  คาด SET อ่อนตัวแนวรับ 1,530 / 1,520 จุด จากความกังวลเศรษฐกิจชะลอตัวหลังคาดการณ์ว่า FED , BoE และ ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ค. นอกจากนี้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐที่ปรับตัวลง รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงจะเป็นแรงกดดันต่อภาวะการลงทุนช่วงนี้ ดังนั้นยังคงแนะนำ Selective buy หุ้นที่มีข่าวเฉพาะตัวต่อไป


สำหรับกลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy  KSL BRR KBS KTIS อานิสงส์ราคาน้ำตาลพุ่งสูงสุดในรอบ 11 ปี รวมทั้งAMATA WHA ROJNA NYT อานิสงส์ค่ายรถ EV ตั้งฐานการผลิตในไทย และADVANC INTUCH BCH WHAUP CPALL SISB ICHI คาดการณ์งบไตรมาสแรก เติบโตขึ้น


หุ้นแนะนำวันนี้ BCH (ปิด 21.80 ซื้อ/เป้า 26.5 บาท) ได้ประโยชน์จากสถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 ที่กลับมาระบาดใหม่อีกครั้ง โดยเฉพาะการตรวจพบสายพันธ์ใหม่ (XBB.1.16 และ XBB.1.1) และได้ประโยชน์จากประกันสังคมปรับเพิ่มค่ารักษาฯ รายหัวเพิ่ม 10% 


CPALL (ปิด 63.75 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 72.75 บาท) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 1/66 เพิ่มขึ้นทั้งช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อนจาก SSSG ที่เพิ่ม โดยเฉพาะสาขาในหัวเมืองท่องเที่ยว แนวโน้มไตรมาส 2 โตต่อจากการจับจ่ายที่เพิ่มขึ้นในช่วงสงกรานต์และเลือกตั้ง


ประเด็นสำคัญวันนี้ ยอดผลิตและส่งออกรถยนต์เดือน มี.ค. โตดี แต่ยอดขายในประเทศชะลอตัว: โดยมียอดผลิตที่ 179,848 คันเพิ่มขึ้น 8.6%จากเดือนก่อน และ 4.16%ช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นบวกกับ AH SAT และ STANLY, ยอดส่งออก 98,381 คันเพิ่มขึ้น 4.84%จากเดือนก่อน และ 11.1%ช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นบวกกับ NYT ส่วนยอดขายในประเทศอยู่ที่ 79,943 คัน เพิ่มขึ้น 11.7%mom แต่ลดลง 8.37%yoy เป็นลบกับ TISCO KKP 


ขณะที่กระทรวงการคลังมองลบลดคาดการณ์ GDP ไทยปี 66 โต 3.6% จาก 3.8%: สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของไทยปีนี้เหลือโต 3.6% จากเดิมคาด 3.8% สะท้อนภาพ ศก.โลกที่ชะลอตัวจึงปรับสมมติฐานของภาคส่งออกเป็นหดตัว 0.5% จากเดิมคาดขยายตัวเล็กน้อย 


ด้านครม. ตั้งงบกลาง 1.1 หมื่นล้านบาทช่วยเหลือค่าไฟฟ้าให้ประชาชน: แบ่งเป็น 1) ส่วนลดค่าไฟฟ้าสำหรับบ้านที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วย จำนวน 18.4 ล้านรายคิดเป็งวงเงิน 7.6 พันล้านบาท ระยะเวลา 4 เดือน คือ พ.ค.- ส.ค. และ 2) ให้ส่วน 150 บาทต่อรายเฉพาะรอบบิลเดือน พ.ค. สำหรับผู้ใช้ในพื้นที่การไฟฟ้านครหลวง จำนวน 23.4 ล้านรายมูลค่า 3,510 ล้านบาท