ส่องการเติบโตอาณาจักร GULF
กลุ่มทุนธุรกิจรายใหญ่ของไทย
.
GULF หรือ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เจ้าของโรงไฟฟ้ารายใหญ่ของไทย ในช่วงที่ผ่านมาโดนแรงกดดันจากความกังวลของนโยบายแกนนำรัฐบาลที่จะปรับลดค่าไฟฟ้า โดยในวันนี้ทาง Wealthy Thai จึงได้ทำรวบรวมความหุ้นในกลุ่ม GULF มาฝากนักลงทุน ที่รวมทั้ง INTUCH, ADVANC และ THCOM ซึ่งทั้งหมดนี้จะมีเทรนด์การเติบโตได้แค่ไหน
.
GULF กำไรไตรมาส 2/66 ทำนิวไฮ
มาเริ่มกันที่ GULF โดยนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาราคาหุ้นปรับตัวลง หลังพรรคฝ่ายที่ได้รับเสียงข้างมากจากการเลือกตั้งมีนโยบายในการปรับลดค่าไฟฟ้าลง รวมถึงนโยบายการปรับรูปแบบการรับซื้อไฟฟ้าของภาครัฐ
.
อีกทั้งทำให้ตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าในอนาคต (GULF เป็นหนึ่งในผู้นำของอุตสาหกรรม) โดยคาดประเด็นดังกล่าวจะเป็น Overhang ต่อราคาหุ้นในระยะสั้น-กลาง (รอความชัดเจนเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลและทิศทางนโยบายของรัฐบาลใหม่)
.
ทั้งนี้คงราคาเหมาะสมที่ 59.50 บาท คงแนะนำ “ซื้อ” แต่ในเชิงกลยุทธ์ มองว่ายังไม่ต้องรีบเข้าลงทุน โดยนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยอาจพิจารณาเข้าลงทุนหลังการจัดตั้งรัฐบาลและทิศทางนโยบายมีความชัดเจนแล้ว (คาดภายในช่วงไตรมาส 3/66)
.
ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานเบื้องต้นคาดกำไรปกติไตรมาส 2/66 จะสามารถทำ New High ได้เป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกันแม้มีการปรับลดค่า Ft งวด พ.ค. - ส.ค. และออกจากช่วง High Season ของโรงไฟฟ้าพลังงานลมในไทยและต่างประเทศ เพราะ 1.ต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่มีแนวโน้มลดลงจะสามารถชดเชยผลกระทบจากการปรับค่า Ft ได้
.
2.GULF จะเริ่มรับรู้รายได้จากหน่วยที่ 1 ของโรงไฟฟ้า GPD ขนาด 662.5 MW (COD 31 มี.ค. 2566) และ 3.การรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้า Jackson ในสหรัฐฯแบบเต็มไตรมาส (คาดพลิกเป็นกำไรในไตรมาส 2/66 หลังราคาก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯมีเสถียรภาพมากขึ้น) โดยคาดภาพพรวมทั้งปี 66 จะมีกำไร 17,453 ล้านบาท โต 52% จากปีก่อนอยู่ที่ 11,417 ล้านบาท
.
INTUCH หุ้นปันผล 4% ต่อปี
มาต่อกันที่ INTUCH นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า แนะนำ Trading Buy มีราคาเป้าหมายปี 66 ที่ 81 บาท แม้ชอบ INTUCH ในฐานะหุ้นปันผล 4% ต่อปี คิดเป็นผลตอบแทนสูงสุดในกลุ่มมือถือ แต่ upside ที่เหลือแค่ 4% (vs ADVANC +15%) และปัจจุบันซื้อขายต่ำกว่ามูลค่า NAV ที่ถือใน ADVANC และ Invent เพียง -5% น้อยกว่า 1-2 ปี ย้อนหลังที่ -9% จึงแนะนำเพียง “รอซื้อเมื่ออ่อนตัว” เพื่อรับปันผล โดยครึ่งแรกปี 66 คาดจ่าย 1.3-1.4 บาท/หุ้น
.
ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2/66 แม้คาดส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจมือถือจะโตต่อทั้งจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสแรก ตามการแข่งขันราคาน้อยลงเต็มไตรมาสกับสัดส่วนผู้ใช้ 5G ที่สูงขึ้นจาก 16% ในไตรมาสแรก และต้นทุนค่าไฟต่อหน่วยจะลง -12%จากไตรมาสแรก ตั้งแต่พ.ค.66 ขึ้นไป
.
อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คาดการเติบโตถูกลดทอนด้วย ไม่มีบันทึกกำไรจาก THCOM เหมือนไตรมาส 2/66 ที่ 127 ล้านบาทแล้ว ทั้งนี้คาดประเด็นดังกล่าวจะน้อยลงในครึ่งหลังปี 66 จึงคาดกำไร INTUCH ในครึ่งหลังปี 66 เร่งตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคงประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 66 ที่ 1.13 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 7%จากปีก่อน
.
ADVANC กำไรขาขึ้น
ADVANC นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) มีความเห็นว่า คาดว่าโมเมนตัมของกำไรในไตรมาส 2/66 จะเร่งตัวขึ้นจากไตรมาสแรก เนื่องจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นเพราะจำนวนผู้ใช้บริการใหม่เร่งตัวขึ้น และ ARPU ดีขึ้นเนื่องจากแพ็คเกจใช้งานแบบไม่จำกัดหมดอายุลง โดยยังคงคาดว่ากำไรในปีนี้ที่ 28,405 ล้านบาท เติบโต 9% จากปีก่อน
.
สำหรับดีลการควบรวม 3BB ประเมินแบบอนุรักษ์นิยมว่าดีลน่าจะจบได้ภายในสิ้นปีนี้ ในขณะที่บริษัทคาดว่าดีลน่าจะจบได้ในเดือนกรกฎาคม ทั้งนี้ เนื่องจากมองว่า 3BB จะส่งผลขาดทุนมาที่ ADVANC ปีละ 1.2 พันล้านบาท ดังนั้น การรวม 3BB เข้ามาในงบรวมภายในเดือนกรกฎาคมจะทำให้กำไรของ ADVANC ในปี 66 ลดลงไป 1.8% (หรือประมาณ 500 ล้านบาท)
.
ดังนั้นยังคงคำแนะนำ ซื้อ และคงราคาเป้าหมายเอาไว้ที่ 250 บาท โดยธีมการลงทุนคือการแข่งขันด้านราคาที่ลดลงจะทำให้กำไรขาลงพลิกกลับมาเป็นขาขึ้นได้ตั้งแต่ปี 66 เป็นต้นไป
.
THCOM ปีนี้กำไรโตกระฉูด
สุดท้าย THCOM นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า กำไรปกติไตรมาส 1/66 คิดเป็น 27% ของประมาณการกำไรปกติทั้งปี 66 ที่ 426 ล้านบาท โต 261% จากปีก่อน อย่างไรก็ดีในช่วงถัดจากนี้ THCOM จะมีความท้าทายมากขึ้นในการรักษาฐานรายได้เดิมในดาวเทียมบรอดแบนด์เพราะดาวเทียมใกล้หมดอายุการใช้งานทำให้มี
.
โอกาสที่กำไรครึ่งหลังปี 66 จะด้อยกว่าครึ่งปีแรก 66 ดังนั้นประมาณการทั้งปี 66 จึงสมเหตุสมผล
.
โดยคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 18.90 บาท ในเชิงพื้นฐานหาก THCOM ยิงดาวเทียมดวงใหม่ และเติมลูกค้าได้สำเร็จ ราคาหุ้นปัจจุบันที่ P/BV เพียง 1.4 เท่า ไม่แพงเทียบกับศักยภาพที่อาจเกิดขึ้น ทำให้ราคาหุ้นที่ปรับลดลงมาเริ่มน่าสนใจ
.
ดังนั้นเชิงกลยุทธ์ ความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกถดถอยโดยเฉพาะครึ่งหลังปี 66 ส่งผลให้หุ้นที่อยู่บนความ คาดหวังโครงการขนาดใหญ่ที่ยังไม่เกิดขึ้นจะถูกตลาดมองข้าม เพราะตลาดจะมองหาความมั่นคงของกระแสเงินสด ณ ปัจจุบันมากกว่าการให้น้ำหนักกับผลลัพธ์ของการลงทุนในอนาคต
.
อย่างไรก็ดีหากสถานการณ์เกิดขึ้นตามคาด มองเป็นโอกาสดีที่จะเข้าสะสมหุ้น ในช่วงครึ่งหลังปี 66 ที่ตลาดเพิ่มความกลัวเข้าไปในราคาหุ้น ส่วนจุดเปลี่ยนสำคัญในเชิงพื้นฐานที่จะทำให้หุ้นกลับมาน่าสนใจคือความคืบหน้าของการขาย Presale ดาวเทียมดวงใหม่ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วง 6-12 เดือนจากนี้
