ที่มาบทความ : บันทึกการลงทุน หมอมือใหม่
หลังวิกฤตกลุ่มcommodityจะเด้งกลับมาเป็นสปริงเสมอ
เพราะกลุ่มนี้ตอนวิกฤตราคาจะตกแรงกว่าvalue เนื่องจากขาดทุนได้มหาศาลมาก
แล้วเวลาเป็นขาขึ้นตลาดจะเล่นกันราคาovervalueได้มากๆ เพราะคาดหวังกำไรมหาศาลช่วงขาขึ้น
VI จะไม่ซื้อหุ้นเหล็กจากราคาเหล็กพีค
เพราะตลาดรับรู้กันหมดแล้วใช้เก็งกำไรมากกว่า
แต่จะดูจากdamand-supplyมากกว่า
โดยจะให้ความสำคัญdamand70%
supply30%
เพราะบางครั้งการที่supplyลด
อาจเป็นleading indicatorว่าdemandในตลาดมันกำลังลดลง (พี่มี่เจ็บมาแล้ว)
โดยcommodityสินค้ามันไม่ได้ขาด มันแค่มีปัจจัยมาทำให้imbalanceระหว่างdemand-supply
เหล็กโลก
พี่มีได้ข่าวนโยบายจีนว่าจะปลอดcarbonปี2560ทำให้
โรงงานเหล็กที่ปล่อยมลพิษปิด(โรงถลุงเหล็กที่ใช้พลังงานไฟฟ้ายังเปิดได้)
และได้ข่าวการเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจจีนหลังCovidเมื่อพ.ค 2520 ก็เห็นภาพdemandเหล็กโลกฟื้นแน่
จึงเข้าซื้อหลายเดือนแล้ว
ส่วนเหล็กไทย
รัฐบาลออกนโยบายให้เน้นใช้เหล็กในประเทศ90%ยิ่งทำให้damandพุ่ง
โดยเหล็กในไทยไม่ได้ขาด
supplyในไทย10ล้านตันตอนนี้ใช้แค่4ล้านตันเอง
พี่มี่มองว่า
คือนโยบายBidenเร่งกระตุ้นInfrastructureมหาศาล
ตอนนี้เหล็กคงเหลือแค่เก็งกำไรเท่านั้น
เพราะเมื่อไหร่ที่ราคาเหล็กสูงจนคุ้มทุน
โรงงานเหล็กทั้งในเกาหลี ญี่ปุ่น ยุโรป และไทย
ที่ปิดตัวไปจะถึงจุดคุ้มทุนที่กลับมาดำเนินงานได้
การลงทุนในหุ้นcommodityให้ดูที่P/BV
ถ้าP/BVน้อยกว่า 1 ก็น่าลงทุน
และระวังอย่าซื้อตอนPEถูก ปันผลสูง เพราะอาจเป็นจุดจบรอบของcommodity