ถอดรหัส อนาคต BANPU

ถอดรหัส อนาคต BANPU

                สรุปข้อมูลจากบทสัมภาษณ์พิเศษคุณสมฤดี ชัยมงคล ซีอีโอ บมจ.บ้านปู (BANPU) ผู้ผลิตและส่งออกถ่านหินรายใหญ่ระดับภูมิภาคเอเซีย จะมาเล่าถึงอนาคตของธุรกิจถ่านหิน ที่ ส่วนด้านธุรกิจไฟฟ้า ,เชลล์แก็ส จะสร้างผลกำไรให้กับบริษัทฯได้อย่างไร ? คุณสมฤดี แย้มว่าปีนี้จะเป็นปีที่ดีของ BANPU จะมีการลงทุนต่อยอดธุรกิจในหลากหลายรูปแบบ

                ปัจจุบันโรงสร้างธุรกิจของ BANPU รายได้หลักเป็นธุรกิจ ถ่านหิน และธุรกิจ ไฟฟ้า โดยที่ผ่านมาได้ปรับโครงสร้างใหม่เพื่อให้แต่ละธุรกิจเติบโตและสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน แบ่งแยกเป็น ธุรกิจต้นน้ำ,กลางน้ำ,และปลายน้ำ

               ธุรกิจต้นน้ำอันดับแรกคือ ถ่านหิน บริษัทฯมีเหมืองผลิตถ่านหินจากประเทศอินโดนีเซีย,จีน,ออสเตรเลีย และล่าสุดได้เพิ่มธุรกิจใหม่ต้นน้ำคือ ธุรกิจแหล่งผลิตเชลล์แก๊สในสหรัฐฯ ส่วนธุรกิจกลางน้ำ คือ ธุรกิจด้านขนส่งถ่านหิน,ผสมถ่านหิน,การส่งออกถ่านหิน รวมทั้งซื้อถ่านหินจากแหล่งต่างๆมาเพื่อจำหน่ายต่อ เพื่อส่งให้ลูกค้าทั่วไปในต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น ไต้หวั่น เกาหลี จีน       

               นอกจากนี้ยังได้จัดตั้งบริษัทเทรดดิ้ง ร่วมกับรัฐวิสาหกิจของจีนเพื่อขนส่งถ่านหินจากแหล่งผลิตในอินโดนีเซียและออสเตรเลีย ผ่านท่าเรือขนาดใหญ่ทางตอนใต้ของจีน มาที่ธุรกิจปลายน้ำ คือ ธุรกิจไฟฟ้า โดยปัจจุบันบริษัทฯมีโรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งสิ้น 2 แห่ง ได้แก่ โรงไฟฟ้า BLCP จังหวัดระยอง มีกำลังการผลิตรวม 1,434 เมกะวัตต์  และโรงไฟฟ้าหงสา ในสปป.ลาว กำลังการผลิตรวม 1,878 เมกะวัตต์ โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าวจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) นอกเหนือจากธุรกิจเดิมที่มีตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำแล้ว BANPU เล็งเห็นธุรกิจใหม่ๆต่อยอดโดยตลอด สิ่งที่บ้านปูกำลังจะเพิ่มเข้า คือธุรกิจที่เป็น เอ็นเนอยี่ เทคโนโลยี เป็นรูปแบบการจัดทำระบบผลิตไฟฟ้าส่งตรงถึงมือลูกค้าทันที จากเดิมบ้านปูผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายให้กับหน่วยงาน บริษัทฯจะเข้าไปใช้เทคโนโลยีเพื่อให้ลูกค้าใช้ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิและมีต้นทุนที่ต่ำลงด้วย

                ปัจจุบันภาพรวมอุตสาหกรรมถ่านหิน ผ่านจุดต่ำสุดของราคาถ่านหิน ซักพักใหญ่ๆแล้ว สะท้อนได้จากดัชนีราคาถ่านหินของออสเตรเลียปีที่แล้วอยู่ระดับกว่า 60 เหรียญต่อตันเท่านั้น แต่ปีนี้เริ่มปรับตัวขึ้นมา แต่ถึงแม้ราคาถ่านหินจะปรับตัวสูงขึ้นแต่บ้านปูยังคงวางกลยุทธ์ล็อคราคาขายล่วงหน้าเพื่อความปลอดภัยในปีนี้บริษัทฯคาดปริมาณการขายรวมจะทำได้ 45-46 ล้านตันจะใกล้เคียงกับปีที่แล้ว แต่จะได้อานิสงส์ราคาถ่านเพิ่มขึ้นอย่างน้อยเฉลี่ย 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน ราคาถ่านหินยังทรงตัวสูงอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ส่งตรงถึงมือลูกค้าเลยไม่ต้องล็อราคาขายล่วงหน้า ส่วนเหมืองในออสเตรเลีย 90% ล็อกราคาขายล่วงหน้าไปหมดแล้ว

บ้านปู ยังมีนโยบายซื้อกิจการต่อยอด 3 ธุรกิจ (ถ่านหิน,โรงไฟฟ้า,เชลล์แก๊ส)

                สำหรับธุรกิจไฟฟ้า มีแผนขยายพลังงานทดแทนมากขึ้นคาดชัดเจนใน 1-2 ปี โดยอยู่ระหว่างศึกษาเข้าร่วมทุนหรือซื้อกิจการโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่นและจีนเพิ่มเติม ที่ปัจจุบันในญี่ปุ่นมีขนาดกำลังผลิตในมือ 200 เมกกะวัตต์ แต่มีโอกสเพิ่มขึ้นเป็น 300 เมกะวัตต์ ส่วนในจีนปัจจุบันมีในมือ 150 เมกะวัตต์ ก็มีโอกาสขึ้นแตะ 300 เมกะวัตต์เช่นเดียวกัน

                กลุ่มธุรกิจเชลล์แก๊สปัจจุบันลงทุนไปแล้ว 207 ล้านเหรียญสหรัฐฯวางแผนว่าภายปีนี้จนถึงปีหน้าจะลงทุนซื้อกิจการเพิ่มอีก 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้เงินลงทุนในสหรัฐฯเพิ่มขึ้นมาเป็น 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้วยเงินลงทุนดังกล่าวจะทำให้กำลังการผลิตเชลแก็ส 78 ลูกบาศก์ฟุตต่อวันภายในปี 2020 แต่ถ้าสามารถซื้อสินทรัพย์ได้เร็วขึ้นกำลังการผลิตจะมาได้เร็วกว่าแผนจากปัจจุบันบริษัทฯมีกำลังผลิต 46 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันเกินกว่า 50% ของเป้าหมายแล้ว ขณะที่เงินลงทุนใช้ไปเพียง 40% ของเป้าหมาย ตอนนี้บริษัทฯซื้อไป 4 ครั้งแล้ว คงจะมีครั้งที่ 5และ 6 ตามมา

                ส่วนธุรกิจถ่านหิน "บ้านปู" ให้ความสำคัญในเหมืองอินโดนีเซีย มีเป้าหมายซื้อสินทรัพย์เข้ามาเพิ่ม ตั้งเป้าให้มีปริมาณสำรองเพิ่มขึ้นเป็น 15 ปี ถ้าเทียบกับปริมาณขายปัจจุบัน 25 ล้านตันต่อปี จะต้องซื้อเหมืองถ่านหินเพิ่มเข้ามาอีก 375 ล้านตัน โดยโครงการใหม่ระบุได้แล้วคือเชลล์เเก็สที่ตอนนี้เตรียมไว้แล้ว 300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ  

                สำหรับคดีความโครงการหงสาที่ปัจจุบันอยู่ในชั้นศาลฎีกา กระบวนการยุติธรรมก็ดำเนินต่อไป แต่ทุกอย่างต้องรอฟังผลศาลฎีกาเป็นครั้งสุดท้ายในส่วนของนโยบายจัดสรรกระแสเงินสด ภายในระยะหนึ่งปีจะจัดสรรเงินเพื่อนำไปจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นปีละ 2 ครั้ง ทำสม่ำเสมอในทุกๆปี ส่วนที่สองคือการจ่ายคืนเงินกู้ที่ครบกำหนด ส่วนที่สามคือใช้ขยายลงทุนในแต่ละธุรกิจเพิ่มมูลค่ากับบริษัทฯในระยะยาว  ส่วนการซื้อหุ้นคืนนั้น ปัจจุบันยังไม่ได้มีแนวคิดเพราะ มีโครงการที่พร้อมจะลงทุนในอนาคต ดังนั้น จึงอยากจัดสรรไว้ใช้เพื่อการลงทุนในโครงการไปก่อน

                กระแสเงินสดในปีนี้จะเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วอย่างมีนัยสำคัญมากๆ เพราะด้วยราคาถ่านหินปรับตัวดีขึ้น โรงไฟฟ้าหงสา จำหน่ายไฟฟ้าได้เต็มกำลังผลิตมากกว่าปีที่แล้ว ดังนั้น ภาพของฐานะการเงินจึงแข็งแรงเมื่อเทียบกับทุกๆปีที่ผ่านมา ส่วนอนาคตธุรกิจระยะยาว ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ จะสอดคล้องกับนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม การเติบโตของภูมิภาคเอเซียและโลก เชื่อว่าการลงทุนแต่ละโครงการของ บ้านปู จะสามารถสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้นระยะยาวและมีความยั่งยืน

- Yoo -

สามารถติดตามบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่  http://www.moneychannel.co.th/news_detail/17904/ถอดคำต่อคำ%20ไขความลับบทสัมภาษณ์ร้อนๆกับ%20CEO