
รถยนต์ไฟฟ้ายังคงเป็นกระแสที่แรงอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่าไม่ใช่เฉพาะการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่เท่านั้นที่ผู้บริโภคให้ความสนใจ เพราะค่าประกันภัยก็ยังเป็นเรื่องที่น่าสงสัยไม่แพ้กัน
.
TNN Wealth ได้รวบรวมราคาประกันภัยแบบตัวเลขกลม ๆ มาให้ลองตัดสินใจกันว่า จะซื้อรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่กำลังได้รับความนิยมทั้งที จ่ายค่าประกันเท่านี้ครอบคลุมการซ่อมเท่าไร
.
เริ่มตั้งแต่แบรนด์หรูอย่าง BMW ix3 ที่หากต้องการได้ทุนประกัน 3,170,000 บาท ก็ต้องเสียค่าประกันปีแรก 92,300 บาท หรือหากต้องการลดราคาประกันลงสักนิดในราคา 85,000 บาท ก็จะได้ทุนประกันที่ 2,500,000 บาท
.
ต่อมาก็เป็น วอลโว่ แบรนด์พรีเมียมจากแดนไวกิ้ง ที่ต้องจ่ายค่าประกันให้กับ Volvo XC 40 Pure Electtric ในราคา 76,100 สำหรับทุนประกัน 2,200,000 บาท และ 53,000 บาท สำหรับทุนประกัน 1,800,000 บาท
.
รุ่นต่อมาเป็นรุ่นที่สร้างความฮือฮาให้กับตลาดได้มาก เพราะกวาดยอดจองไปแล้วถึง 10,000 คัน กับ BYD ATTO 3 ทีมีราคาประกันเรตสูงสุดที่ 42,000 บาท เพื่อแลกมากับทุนประกับตัวรถที่ 960,000 บาท
.
ส่วนรุ่นที่กระแสแรงตั้งแต่เปิดตัวและมีข่าวคราวอย่างต่อเนื่องกับ ORA Good Cat ซึ่งหากต้องการทุนประกันที่ 840,000 บาท ต้องจ่ายค่าประกันชั้น 1 ที่ 28,900 บาท หรือจ่าย 26,400 บาท กับทุนประกัน 750,000 บาท
.
และอีกรุ่นที่ยอดฮิตและนับเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรก ๆ ที่เข้ามาจำหน่ายอย่างจริงจัง ภายใต้แบรนด์ที่เชื่อถือได้อย่าง MG กับ MG ZS EV ที่มาพร้อมทุนประกัน 1,010,000 บาท สำหรับค่าประกันที่ 33,000 บาท และทุนประกัน 610,000 บาท กับการจ่ายค่าประกันที่ 25,400 บาท
.
เช่นเดียวกับรถแวนรูปทรงเตะตาและภายในสวยงามแบบรถเครื่องยนต์สันดาปอย่าง MG EP กับทุนประกับสูงสุดที่ 840,000 บาท โดยต้องจ่ายค่าประกันที่ 29,200 บาท หรือจะจ่ายน้อยลงมาหน่อยในราคา 21,700 บาทกับทุนประกันที่ 660,000 บาท
.
ปิดท้ายกันที่แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่ผู้มาจากผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ในประเทศอย่าง Neta V ที่หากต้องการทุนประกันที่ 480,000 ต้องจ่ายค่าประกัน 19,500 บาท
.
ทั้งนี้แน่นอนว่าในตลาดยังมีรถยนต์ไฟฟ้าอีกหลายรุ่น แต่ที่ TNN Wealth เลือกมาให้ดูกันนี้เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมในตลาด และในส่วนของทุนประกันและราคาประกันภัยนั้น ก็เลือกมาจากบริษัทประกันภัยที่เชื่อถือได้ และใช้ราคาของเจ้าที่รับทำประกันในหลากหลายรุ่นเป็นหลัก
.
โดยราคาของบริษัทอื่น ๆ อาจจะถูกหรือแพงกว่านี้ และอาจจะมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกันออกไป แต่เท่าที่เลือกมาให้ดูกันนี้ก็เพื่อที่จะให้เป็นข้อมูลในการประเมินดูว่า ถ้าอยากซื้อรถไฟฟ้าในราคานี้ ต้องจ่ายค่าประกันเท่าไร ซึ่งในอนาคตหากมีรุ่นที่ได้รับความนิยมเพิ่มเข้ามาอีก TNN Wealth ก็จะนำเสนออย่างต่อเนื่องต่อไป