ลองฟังดูก่อน ลองฟังแล้วคิดดูก่อน
พศิน อินทรวงค์
ลองใช้เวลาสัก 4-5 นาที
แล้วประเมินตนเองดูว่า...
ทุกวันนี้เราเป็นคนที่รับฟังผู้อื่นมากน้อยแต่ไหน
รอบตัวของเรามีคนจำนวนมาก
ที่ชีวิตต้องล่มสลาย เพราะความดันทุรังของตัว
การยอมรับคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง
จริงอยู่เราอาจรู้จักตนเองดีแล้ว
แต่ก็คงไม่มีใครที่เห็นตัวเองในทุกมุม
ทุกคนล้วนรักตัวเอง
และย่อมมีความคิดเข้าข้างตนเองอยู่แล้วเป็นพื้นฐาน
มีความเป็นไปได้สูง
ที่เราประเมินตัวเองไว้ ดีกว่าความเป็นจริง
มีคนจำนวนมาก เอาแต่ใจ
ชอบฟังแต่อะไรที่ถูกใจ ไม่ชอบฟังอะไรขัดหู
จึงไม่เคยรับฟังคำตักเตือนของคนใกล้ชิด
ไม่เคยรับฟังคำเตือนของคนในครอบครัว
ของเพื่อนฝูง ของคนที่รักเรา ของคนที่หวังดีกับเรา
กระทั่งคนที่มีความรู้มากกว่าเรา
การรับฟังกลายเป็นเรื่องยากยิ่งสำหรับบางคน
อันที่จริงแล้ว ใครพูดอะไร เราก็เพียงแค่ฟัง
เพียงแค่หัดฟัง...
ฝึกที่จะได้ยินเสียงของผู้อื่น
โดยละทิ้งอัตตาของเราไว้ชั่วคราว
ฟังแล้วคิด คิดแล้วคิดซ้ำ
คิดทบทวนไปมาให้หลากหลายมุม
สิ่งใดที่ดี และจริง เราก็นำมาปรับปรุง
สิ่งใดคิดแล้วคิดอีก ตรองแล้วตรองอีก
ทบทวนแล้วทบทวนอีก
มั่นใจว่า ไม่มีประโยชน์
ไม่เป็นความจริงเราก็วางไว้
แต่ก่อนที่เราจะกองคำเตือนของใครไว้ตรงหน้า
เราก็ควรต้องฟัง ฟังแล้วเก็บมาคิดก่อน
คิดก่อนกองไว้ ไม่ใช่กองไว้โดยไม่เคยคิด
การรับฟังผู้อื่นที่จริงก็คือ...
การรักษาประโยชน์ของตัวเอง
เพราะการรับฟังคือเครื่องมือสำคัญ
ที่จะช่วยให้เราข้ามผ่านความโชคร้าย
ที่สุดแล้ว....
การรับฟัง จะเป็นสิ่งที่ช่วยชีวิตของเรา...
ช่วยให้เราไม่ต้องซื้อบทเรียนราคาแพง...
มีคนไม่น้อยซื้อบทเรียนที่แพงเกินกว่าชีวิตจะจ่ายไหว
โชคร้าย และหายนะรออยู่
รับประกันได้ว่า สักวันมันจะมาหาเราแน่ๆ
หากเราเป็นคนใจแคบ ดื้อรั้น ไม่ฟังใครเลย...
***บทความโดย..คุณ พศิน อินทรวงค์***