ห้องเม่าปีกเหล็ก

ส่องบริษัทใหญ่ในตลาดหุ้นของ “เสี่ยเจริญ”

โดย ฮ นกฮูก
เผยแพร่ :
222 views

ส่องบริษัทใหญ่ในตลาดหุ้นของ “เสี่ยเจริญ”

จ่อฟันกำไรโตเด่นในไตรมาส 1/66

.

เมื่อไม่นานมานี้ทาง Forbes ได้มีการจัดอันดับ 50 มหาเศรษฐีของโลก ซึ่งมีมหาเศรษฐีของไทยติดทำเนียบดังกล่าวถึง 28 ราย แต่ก็มี 3 รายชื่อที่มีทรัพย์สินความมั่งคั่งเกิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ขึ้นไป ก็คือ เจ้าสัวธนิน เจียรวนนท์, เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี และนายสารัชถ์ รัตนาวะดี

.

ในวันนี้ทาง Wealthy Thai จึงขอใช้โอกาสนี้ในการพาผู้อ่านและนักลงทุนไปดูคาดการณ์ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/66 ของ 2 บริษัทจดทะเบียนจากอาณาจักรของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี กัน

.

AWC จ่อกวาด 400 ล้านบาท

เริ่มกันที่บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ลักษณะของธุรกิจจะเป็นการเข้าถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่มุ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจรในประเทศไทย ซึ่ง ปัจจุบัน (ณ วันที่ 5 เม.ย.66) มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) อยู่ที่ 182,413 ล้านบาท

.

มุมมองบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดการณ์กำไรในไตรมาส 1/66 คาดจะเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าและช่วงเดียวกันปีก่อน มาอยู่ที่ประมาณ 400 ล้านบาท ด้วยการเติบโตของรายได้เฉลี่ยต่อห้องและการปรับตัวดีขึ้นของอัตราการเข้าพักในช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว

.

ขณะที่ทั้งปี 2566 คาดการณ์ว่ากำไรจะทำสถิติใหม่สูงสุดที่ 1.5 พันล้านบาท ตามการขยายพอร์ตโฟลิโรงแรมของบริษัท , อัตราการเข้าพักที่เพิ่มขึ้น ,ค่าห้องเฉลี่ยที่สูงขึ้นและค่าเช่าที่เพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นจึงคงคำแนะนำ “ถือ” และกำหนดราคาเหมาะสมที่ 5.80 บาท

.

BJC โตต่อเนื่อง

ต่อมาเป็นบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC ที่จะประกอบไปด้วย 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ก็คือกลุ่มสินค้าและบริการทางการค้าปลีกสมัยใหม่ ,กลุ่มสินค้าและบริการทางบรรจุภัณฑ์ ,กลุ่มสินค้าและบริการทางอุปโภคบริโภค และกลุ่มสินค้าและบริการทางเวชภัณฑ์และทางเทคนิค ซึ่ง ณ วันที่ 5 เม.ย. 66 มีมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 149,290 ล้านบาท

.

โดยบทวิเคราะห์ของบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) คาดกำไรในไตรมาส 1/66 จะยังเติบโตต่อจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยแม้ต้องเผชิญกับหน่วยค่าไฟที่เพิ่มขึ้น แต่จะถูกชดเชยด้วยยอดขายที่จะเร่งขึ้น ส่วนธุรกิจดั้งเดิมมาร์จิ้นจะฟื้นตัว ตามราคาวัตถุดิบบางชนิดที่ปรับตัวลดลงและเข้าสู่ช่วงการปรับราคารอบใหม่

.

สำหรับกำไรสุทธิในปี 2566 คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 6,367 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 28% ตามอานิสงส์การเปิดประเทศ โดย BigC มีสาขาในแหล่งท่องเที่ยว 19 แห่ง และความสำเร็จในการปรับกลยุทธ์ขายและการเพิ่มความสามารถในการทำกำไรของ BigC ดังนั้นจึงแนะนำ “ซื้อ” และกำหนดราคาเป้าหมายที่ 44 บาท

 

 


ฮ นกฮูก