ห้องเม่าปีกเหล็ก

2 หุ้นแม่ลูก

โดย poomai
เผยแพร่ :
68 views

2 หุ้นแม่ลูก “INTUCH-ADVANC” จับมือฝ่า COVID-19

หนึ่งในหุ้นที่มีโอกาสเป็นบวกในช่วงนี้คือ “หุ้นโอเปอเรเตอร์มือถือ” โดยเฉพาะหุ้น ADVANC หรือบริษัท บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการเครือข่าย AIS  ที่ถูกเลือกเป็นหุ้น Top Pick ของนักวิเคราะห์หลายค่าย และเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น เราจะนำเสนอควบคู่ไปกับหุ้นแม่อย่าง “INTUCH” หรือบริษัท บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ที่ลงทุนในสตาร์ทอัพหลายแห่ง และดูแลด้าน Internet of Thing (IoT) ให้กับบริษัทอุตสาหกรรมหลายแห่งด้วยเช่นกัน

 

 

“5G” เป็นหัวใจสำคัญของการลงทุน

เริ่มจาก ADVANC เป็นเบอร์ 1 ทั้งในแง่การเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่มีส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) อันดับ 1 คิดเป็น 45% ของตลาดรวม (เมื่อเทียบกับดีแทคและทรูมูฟ) ขณะเดียวกัน AIS มีลูกค้ามากที่สุด โดยปัจจุบันมีฐานลูกค้า 42 ล้านรายทั่วประเทศ อย่างไรก็ตามแม้ว่าบริษัทจะมีรายได้หลักจากค่าบริการเครือข่ายฯ โดยปี 2562 มีรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 130,062 ล้านบาท หรือคิดเป็น 70.90% ของรายได้รวม ที่บริษัททำได้ 183,432 ล้านบาท แต่การลงทุนในช่วงหลังๆ ADVANC จะให้ความสำคัญกับการลงทุน “แพลตฟอร์มด้านการบริการดิจิทัล” เป็นพิเศษ รวมถึงการลงทุนใน e-sport ซึ่งเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูง นั่นทำให้ “5G” เป็นหัวใจสำคัญของการลงทุน


ซึ่งเราจะเห็นพัฒนาการของ ADVANC ที่ใกล้ตัวเราที่สุดนั่นคือ การพัฒนาแพลตฟอร์มธุรกรรมทางการเงิน (Mobile Money) ผ่านบริการ mPAY และการร่วมมือกับ Rabbit Line Pay นอกจากนี้ยังพัฒนาด้าน IoT Ecosystem โซลูชั่นสำหรับภาครัฐและภาคเอกชน ผ่าน AIS IoT Alliance Program (AIAP) สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ขนาดเล็ก ที่อยากนำ IoT ไปใช้ ในทุกเซ็คเตอร์ไม่ว่าจะเป็นภาคการเงิน ขนส่ง อสังหาริมทรัพย์และสมาร์ทซิตี้ จึงไม่แปลกใจที่ปัจจุบัน AIS เป็นค่ายเดียวที่มีใบอนุญาตการประมูลคลื่น 5G มากที่สุด และเป็นผู้ให้บริการรายแรกที่ทดสอบการใช้ 5G ในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) แล้ว

 

 

ซีอีโอ ADVANC ปรับ COVID-19 เป็นบทเรียน

จากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ทำให้บริษัทปรับแผนการลงทุนใหม่ จากเดิมที่จะต้องเร่งการลงทุนในภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ที่มีความจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีในการเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน โดยนายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ The Secret Sauce ของสำนักข่าว The Standard ว่า ด้วย COVID-19 ที่บีบให้ทุกคนและธุรกิจต้องปรับตัว บริษัทจึงใช้บทเรียนจาก COVID-19 โดยหันมาพัฒนา 5G ในอุตสาหกรรมการแพทย์และสาธารณสุขก่อน ซึ่งใช้งบลงทุน 100 ล้านบาท (เฟสแรก) ทำโครงการ “AIS 5G สู้ภัย COVID-19”

 

 

ใช้หุ่นยนต์รักษา COVID-19

แบ่งเป็น 1.ติดตั้งเครือข่าย 5G ในโรงพยาบาลรวม 158 แห่ง สำหรับรับตรวจและรักษาผู้ป่วย COVID-19 และเพิ่ม AIS Super WiFi ภายในเดือนเมษายน 2563  2.ตั้งศูนย์เฉพาะกิจ AIS Robotic Lab เพื่อผลักดันนวัตกรรมการแพทย์ในช่วงการระบาด COVID-19 และโซลูชั่นส์งานบริการทางแพทย์ โดยทำงานร่วมกับโรงพยาบาลต่างๆ และ 3.พัฒนาหุ่นยนต์ทางการแพทย์ 5G Telemedicine เวอร์ชั่นใหม่ ROBOT FOR CARE จำนวน 21 ตัว โดย AIS Robotic Lab เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และลดความเสี่ยงจากการปฏิบัติหน้าที่

 

 

INTUCH เจ้าพ่อนักลงทุนสตาร์ทอัพ

ส่วนบริษัทแม่อย่าง INTUCH แม้ว่ารายได้บริษัทจะมาจากการธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมไร้สายในประเทศ (ผ่าน ADVANC) และธุรกิจดาวเทียมเป็นหลัก แต่ INTUCH มีนโยบายลงทุนใน “สตาร์ทอัพ” 30% หรือไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาทต่อปี โดยการลงทุนในสตาร์ทอัพนี้เป็นรูปแบบการลงทุนคอร์ปอเรท เวนเจอร์ แคปปิตอล หรือโครงการอินเว้นท์ ซึ่งไม่จำกัดการลงทุนเฉพาะในประเทศเท่านั้น จะลงทุนในสตาร์ทอัพต่างประเทศที่มีความน่าสนใจด้วย ซึ่งตั้งแต่ตั้งโครงการมา 8 ปี INTUCH ลงทุนไปแล้ว 20 บริษัท และในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา มีการเติบโตเพิ่มขึ้น 52% เฉพาะปี 2562 ที่ผ่านมา ลงทุน 1,058 ล้านบาท โดยเน้นลงทุนในกลุ่ม Digital Lifestyle มากที่สุด 40% เช่น Ookbee Wongnai Shopback รองลงมาเป็น Business Services 25% เช่น Ninjavan Playbasis กลุ่ม Media&Advertising 15% เช่น ydm Thailand Omnivirt กลุ่ม Fintech 10% เช่น PeerPower และกลุ่ม Health Tech 10% เช่น Meditech Solution

ด้จากกสทช.ในรูปแบบการหักส่วนแบ่งรายได้รายปีที่ต้องนำส่งกสทช. จึงแนะนำซื้อ INTUCH โดยให้ราคาเป้าหมาย 67 บาทต่อหุ้น


ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) คิงส์ฟอร์ด จำกัด มองว่า หุ้น INTUCH เป็นหนึ่งในหุ้นกลุ่มปลอดภัยหรือ Defensive Stock และเป็นหุ้นอิงการบริโภคในประเทศที่ได้รับประโยชน์ในช่วงนี้ด้วยเช่นกัน ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำหุ้น INTUCH เป็นหุ้นที่ “ปันผลโดดเด่น” ต่อเนื่อง


ทั้งนี้ Wealthy Thai สำรวจความเคลื่อนไหวราคาหุ้นทั้ง 2 ตัวมาให้นักลงทุนเพิ่มเติม พบว่าตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (1 มกราคม-20 เมษายน 2563) ราคาหุ้น ADVANC ปรับลดลง 8.69% ราคา ณ วันที่ 20 เมษายน อยู่ที่ 194.50 บาทต่อหุ้น ขณะที่ INTUCH ปรับลดลง 13.10% ราคา ณ วันที่ 20 เมษายน อยู่ที่ 49.75 บาทต่อหุ้น ซึ่งการปรับลดลงของหุ้นอาจจะเป็นจังหวะที่ดีสำหรับนักลงทุนที่รอเข้าซื้อหุ้นทั้ง 2 ตัว ทั้งนี้จะต้องดูจังหวะการลงทุนอีกครั้ง เนื่องจากช่วงประกาศงบและจ่ายปันผลหุ้น หุ้นจะค่อนข้างผันผวน ปรับขึ้นลงแรง

 

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก


poomai