ห้องเม่าปีกเหล็ก

วิชาฝ่าวิกฤต ด้วยวิธีคิดแบบ CEO

โดย มูซาซิ
เผยแพร่ :
17 views

 

 

เศรษฐกิจวันนี้ไม่ใช่แค่แย่ แต่ถือว่า "หนักสุดในรอบ 40 ปี" เป็นคำกล่าวจากคุณตัน ภาสกรนที เจ้าของอิชิตัน และยังสอดคล้องกับคำบอกเล่าของคุณหนุ่ย พงศ์สุข นักสื่อสารยุคดิจิทัล ที่ต่างก็เห็นภาพเดียวกันคือ "วิกฤตกำลังคลืบคลานมาทุกทิศทาง" นอกจากจะไม่ยอมแพ้ พวกเขาเลือกที่จะ "มองหาทางรอด" ด้วยประสบการณ์ ความเชื่อ และการตัดสินใจแบบไม่ธรรมดา

.

[วิกฤตเศรษฐกิจที่ "แรงสุดในชีวิต"]

คุณตันเล่าว่า ตั้งแต่ทำธุรกิจมา วิกฤตรอบนี้คือ "ของจริง" ไม่ว่าจะเป็น สงคราม, การเมือง, ภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ รวมไปถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ตัวชี้วัดง่าย ๆ จากธุรกิจตลาดนัดที่เงียบลง โรงแรมที่นักท่องเที่ยวน้อยลง แม้แต่แบรนด์ที่เติบโตต่อเนื่องอย่างอิชิตัน ปีนี้ก็เจอตัวเลข "ติดลบ" ตั้งแต่ไตรมาสแรก

.

แต่คุณตันเลือก "มองหาโอกาสในวิกฤต" ไม่ใช่การถอยหนี เขากล่าวว่า "ตอนทุกคนไม่กล้าขยับ คือช่วงเวลาที่คนกล้าจะชนะ" และตอนนี้เขาก็ตัดสินใจเป็นหนี้ครั้งแรกของชีวิตส่วนตัว เป็นตัวเลขหลักพันล้านบาท เพื่อมาใช้ในโอกาสที่คนอื่นมองไม่เห็น

.

[วิถีสื่อที่เปลี่ยนไป]

คุณหนุ่ย-พงศ์สุข ในฐานะของคนที่ทำงานในสายสื่อและคอนเทนต์ ต้องเผชิญกับ Digital Disruption แบบเต็มแรง จากในอดีตเคยขายโฆษณาหลักแสนบาท ทุกวันนี้เหลือเพียงไม่กี่หมื่น นอกจากนี้การทำฟรีคอนเทนต์แล้วหวังให้ผู้ชมและสปอนเซอร์เข้ามา ก็ทำได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งไปกว่านั้น ในปัจจุบัน ทุกคนก็สามารถ "เป็นสื่อ" ได้ด้วยตัวเอง

.

แม้ในช่วงโควิด บริษัทของคุณหนุ่ยก็ทำรายได้ดี แต่สิ่งที่พลาดคือ "เอาเงินนำหน้างาน" ขยายทีมเร็วเกินไป พอรายได้ลดลงก็เกิดภาระหนัก ทั้งที่ควรให้ "งานนำเงิน" เป็นตัวขับเคลื่อน เพื่อความยั่งยืนระยะยาว

.

นอกจากนี้คุณหนุ่ย ยังยกคำกล่าวของ "ดร.ธนัย ชรินทร์สาร" ว่า กลยุทธ์ คือการเลือกว่าเราจะไม่ทำอะไร อย่าหลงกับทุกโอกาสที่ดูดีที่เข้ามา แต่โอกาสนั้นไม่เข้ากับโมเดลธุรกิจของเรา เพราะถ้าเราเลือกทำทุกอย่าง แต่ไม่ชัดเจนสักอย่าง นั่นแหละ "จุดพัง"

.

[ โอกาสเป็นของคนที่ "เชื่อ"]

คุณตันเชื่อเสมอว่า วิกฤตเป็น "โอกาสทอง" โดยมีหลักคิดว่า ถ้าเราทำธุรกิจแบบเดียวกับตอนปกติ เราไม่มีวันไล่ทันผู้นำตลาด แต่ถ้าเลือกลงทุนหรือเริ่มต้นในวันที่ทุกคนกลัว เราอาจกลายเป็น "ผู้นำ" คลื่นลูกใหม่

.

แต่คุณตันก็เตือนว่า "ปาฏิหาริย์มีได้แค่ครั้งเดียว" วิธีที่เคยสำเร็จอาจใช้ไม่ได้อีกแล้ว และต้อง "ฟังมากกว่าพูด" เพื่อเรียนรู้จากคนที่เก่งกว่า พร้อมนำเงินไปลงทุนใน "ประสบการณ์" เช่น การเดินทาง เปิดโลก หาโอกาส และสร้างคอนเนคชันที่มีค่าในอนาคต

.

[คำถามง่าย ๆ แต่ลึกซึ้ง]

คุณหนุ่ยเล่าปิดท้ายไว้ว่า ในวันนี้บริษัทคุณหนุ่ยก็ยังฝ่าวิกฤตเหมือนกับหลาย ๆ คน เพราะยังขาดทุนหลักสิบล้าน ทั้งที่ทำงานอยู่ทุกวัน เขาจึงกลับมาถามตัวเองว่า "แล้วเงินหายไปไหน?" คำตอบโดยรวมก็มาจากเรื่องของคน ไม่ว่าจะเป็นการจ้างคนเยอะเกินความจำเป็น และการจ้างคนมาแล้วไว้ใจให้ทำงานมากเกินไป โดยไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด เขาจึงต้องกลับมาดูแลงานหลังบ้านด้วยตัวเองอีกครั้ง

.

.

สุดท้าย ทั้งคุณตันและคุณหนุ่ย ต่างยืนยันตรงกันว่า "วิกฤตมีวันจบ แต่เราต้องอยู่ให้ถึงวันนั้น" ซึ่งขึ้นอยู่กับ "Mindset" ของแต่ละคน — ถ้าเชื่อว่าเรารอด เราจะมองหาโอกาสทุกวัน แต่ถ้าไม่เชื่อ แค่นั้นก็พังแล้ว การเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเราเอง การรู้จักพอ เลิกในสิ่งที่ไม่ใช่ และกล้าที่จะเริ่มในสิ่งใหม่ ล้วนเป็นทักษะสำคัญของผู้ประกอบการในยุคนี้ แม้วิกฤตอาจไม่ใช่เวลาของ "ทุกคน" แต่เป็นช่วงเวลาที่ "คนกล้า" จะลุกขึ้นมาสร้างบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เคย

.

"อดทนให้พอ รอให้นาน ก็จะผ่านวิกฤตไปได้"

— พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์

.

"ถ้าเราเชื่อว่าเราทำได้

แล้วออกไปหาโอกาสทุกวัน

สักวันมันก็ต้องเจอ"

— ตัน ภาสกรนที

.

.

เรียบเรียงโดย: THE INSIDER

เนื้อที่มาจาก. เพจTHE INSIDER - ดิ อินไซเดอร์


มูซาซิ