บลจ.วรรณ มองวิกฤติเครดิตสวิส กดดันตลาดผันผวนระยะสั้น แนะลดพอร์ตหุ้นยุโรป
บลจ.วรรณ มองวิกฤติเครดิตสวิส ยังค่อนข้างจำกัด และไม่ลุกลามเป็นวิกฤติทางการเงินรอบใหม่ แต่ยังมีความเปราะบาง กดดันหุ้นแบงก์ ผันผวนระยะสั้น แนะลดพอร์ตหุ้นยุโรป เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในทองคำ ป้องกันความเสี่ยงท่ามกลางความผันผวน
ตลาดทุนทั่วโลกผันผวนหนัก จากสถานการณ์ปัญหาของสถาบันการเงินของทั้งในสหรัฐ และยุโรป ที่ธนาคารเครดิตสวิส มีปัญหาสภาพคล่อง จากที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ ซาอุดี เนชั่นแนล แบงก์ (SNB) ประกาศว่าไม่เพิ่มความช่วยเหลือทางการเงินต่อ จากมีข้อจำกัดในการถือหุ้น ซึ่งไม่สามารถถือหุ้นเกิน 10%ได้ จากปัจจุบันถือหุ้นระดับกว่า 9%แล้ว และยังคงเป็นประเด็นกดดันการลงทุน
ผู้จัดการกองทุน บลจ.วรรณ มองว่า ข่าวดังกล่าวส่งผลกระทบเชิงลบต่อ Sentiment การลงทุนในหุ้นกลุ่มการเงิน และสินทรัพย์เสี่ยงในระยะสั้น และกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคารให้ยังมีความผันผวน
เรามองว่า ผลกระทบจากข่าวดังกล่าวจะค่อนข้างจำกัด และไม่ลุกลามเป็นวิกฤติทางการเงินรอบใหม่ เนื่องจาก Credit Suisse (CS) เป็นหนึ่งในธนาคารขนาดใหญ่ที่มีความเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจ และระบบการเงินทั่วโลก จึงมีโอกาสน้อยที่หน่วยงานรัฐจะปล่อยให้เหตุการณ์บานปลาย การที่ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ และหน่วยงานรัฐยื่นมือเข้าช่วยเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยลดความตระหนกในวงกว้าง และจำกัดความเสี่ยงเชิงระบบ
อย่างไรก็ดี เรามองว่าสถานการณ์ของ CS ยังคงมีความเปราะบาง จากผลขาดทุนที่ติดต่อกันมาหลายไตรมาส จึงคงความระมัดระวังการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงโดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคารในยุโรป และสหรัฐ ทั้งนี้ ข่าวดีจากการเตรียมกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องจากธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ (Swiss National Bank, SNK) หนุนให้ตลาดฟื้นตัวระยะสั้น
ควรใช้โอกาสนี้ในการปรับ ‘ลดน้ำหนัก’ หุ้นยุโรปและหุ้นที่ขนาดเล็กที่มีฐานะทางการเงินไม่แข็งแรง เพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตในภาพรวมขณะเดียวกัน แนะนำเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในทองคำ สำหรับการป้องกันความเสี่ยงท่ามกลางความผันผวนที่เกิดขึ้น
ติดตามการประชุม ECB ในวันที่ 16 มี.ค. นี้ คาดอาจมีท่าทีที่ลดความแข็งกร้าวในการดำเนินนโยบายทางการเงินลง โดยเราคาดว่า ECB อาจคงการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.5% ในคืนนี้ (16 มี.ค. 66) เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อในยุโรปที่ยังทรงตัวในระดับสูง
ทั้งนี้ มีความเป็นไปได้ที่ ECB จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมครั้งถัดไป หากสถานการณ์ของภาคธนาคารยังไม่ดีขึ้น