ขาดทุนเกือบ 4,000 ล้าน USD ภายในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์ จากการพนันครั้งยิ่งใหญ่ว่า ตลาดตราสารหนี้ประเทศรัสเซียจะกลับคืนสู่สภาพปรกติ แต่ปรากฎว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนั้นก็คือตลาดตราสารหนี้บระเทศรัสเซียกลับมีความผิดปรกติมากขึ้น และด้วยเหตุที่ LTCM มีการกู้ยืมเงินเป็นจํานวนมาก การล้มลงของมันจึงเกือบจะทําให้ระบบการเงินโลกล่มสลายไปด้วย
ย้อนกลับไปในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี ค.ศ 1720 เซอร์ ไอแซค นิวตัน ถือหุ้นของบริษัท South Sea ซึ่งเป็นหุ้นที่ร้อนแรงที่สุดในประเทศอังกฤษในขณะนั้น เมื่อเขารู้สึกว่า ตลาดเริ่มจะบ้าครั่ง นักฟิสิกส์ที่เก่งกาจผู้นีัถึงกับรําพึงกับตัวเองว่า เขา " สามารถคํานวนการเคลื่อนไหวของดาวเคราะห์และดวงดาวได้ แต่ไม่อาจคาดการณ์ความบ้าครั่งของผู้คนได้ " นิวตันได้ตัดสินใจขายหุ้น South Sea ของเขาออกไปโดยได้กําไรถึง 100% รวมเป็นเงินสูงถึง 7,000 ปอนด์เลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ในอีกไม่กี่เดือนต่อมา เมื่อ นิวตัน ถูกครอบงําโดยความกระตือรือร้นแบบสุดขั้วในตลาด เขาก็กลับเข้าไปซื้อหุ้น South Sea อีกครั้งหนึ่ง ณ ระดับราคาที่สูงกว่าเดิม ในที่สุด ฟองสบู่หุ้น South Sea ก็แตก ซึ่งทําให้ นิวตัน ต้องขาดทุนถึง 20,000 ปอนด์ ( คิดเป็นเงินมากกว่า 3 ล้าน USD ในปัจจุบัน ) ตลอดชีวิตที่เหลือ นิวตัน จะห้ามไม่ให้ใครพูดคําว่า " South Sea " ให้เขาได้ยินอีกเลย
โดยคํานิยาม "ความเฉลียวฉลาด" ของพวกเราส่วนใหญ่จะถือว่า เซอร์ ไอแซค นิวตัน เป็นคนที่เฉลียวฉลาดมากที่สุดคนหนึ่งเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ตามคําจํากัดความของ เกรแฮม นิวตันยังห่างไกลจากการเป็นนักลงทุนที่ชาญฉลาดอยู่มาก การยอมไห้ความบ้าคลั่งของฝูงชนมาส่งผลต่อการดัดสินใจ ทําให้นักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งไหญ่ที่สุดในโลกผู้นี้ทําตัวเหมือนคนโง่
โดยสรุปก็คือ หากคุณล้มเหลวกับการลงทุนมาตลอด เหตุผลไม่ไช่เพราะคุณโง่เขลา แต่เป็นเพราะคุณยังไม่ได้พัฒนาความมีวินัยเชิงอารมณ์ ชึ่งมีความจําเป็นต่อการประสบควาทสําเร็จทางการลงทุนต่างหาก