BJC ทำนิวไฮรอบ 1 เดือน เก็งสตอรี่เข้าคำนวณ SET50 ขณะที่พื้นฐานยังดีแม้วงการหั่นกำไรปีนี้ลงจากค่าเสื่อมที่เพิ่มขึ้น แต่ส่วนใหญ่ยังแนะซื้อ ปีนี้บุ๊คกำไร BIGC เต็มปี ราคามีอัพไซด์จากเป้าสูงสุดที่ 59 บาท จับตาแผนขยายธุรกิจ BIGC หากกำไรผิดทาง ราคาหุ้นอาจสะดุด
บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ ( BJC ) ราคาปรับขึ้นต่อเนื่องจากวานนี้ และมีปริมาณหุ้นที่ซื้อขายเพิ่มขึ้นเกินปกติ โดยเปิดที่ 45.25 บาท ก่อนเพิ่มขึ้นแตะ 46 บาท สูงสุดรอบราว 1 เดือน และปิดการซื้อขายภาคเช้าที่ 45.50 บาท เพิ่มขึ้น 1บาท หรือ 2.25% ปริมาณหุ้นที่ซื้อขายเพิ่มขึ้น 146% จากค่าเฉลี่ย 5 วันทำการก่อนหน้า
BJC ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ถือหุ้นใหญ่กว่า 70% ผ่าน "ทีซีซี คอร์ปอเรชั่น" ของเจ้าพ่อน้ำเมา "เสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี" และมีผู้ถือหุ้นรายย่อยประมาณ 14,000 ราย
BJC เคยเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ เมื่อราวกลางปีก่อน จากการเพิ่มทุนครั้งใหญ่กว่า 1.5 เท่าตัว เพื่อนำมาชำระหนี้เงินกู้ซื้อในการเข้าซื้อกิจการ BIGC ขณะที่ล่าสุดเป็นที่ฮือฮาอีกครั้ง เมื่อประกาศถอน BIGC ออกจากตลาดหลักทรัพย์ หลังเข้าถือหุ้นใหญ่กว่า 90% ทำให้ฟรีโฟลทของ BIGC เหลือต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดย BJC จะทำคำเสนอซื้อหุ้น BIGC ที่เหลืออยู่ราว 2.06% ราคาหุ้นละ 225 บาท ใช้เงินราว 3.8 พันล้านบาท
ส่องผลการดำเนินงาน BJC กำไรเติบโตต่อเนื่อง ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา โดยในปี 59 มีกำไรสุทธิทำนิวไฮแตะ 4 พันล้านบาท โตราว 43% YoY หลังรวมงบ BIGC เข้ามา 9 เดือนเศษ ส่วนปีนี้เฉพาะไตรมาสแรก ก็ทำกำไรสุทธิได้แล้วเกือบ 1 พันล้านบาท และต้องจับตากำไรปีนี้ซึ่งเป็นปีแรกที่รวมงบ BIGC เข้ามาเต็มปี
ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น BJC หลังจากเพิ่มทุน RO ในราคา 35 บาทได้สำเร็จ เมื่อปลายปี 59 รวมเป็นเงิน 8.3 หมื่นล้านบาท BJC ได้นำไปชำระหนี้คืนหนี้เงินกู้ยืมระยะสั้นทั้งจำนวน และช่วงนั้นราคา BJC ปรับขึ้นแตะ 56.25 บาท ก่อนจะอ่อนตัวลง ตั้งแต่ต้น60 ที่ผ่านมา
สัญญาณซื้อหุ้น BJC เกิดขึ้นอีกครั้ง หลังจากบริษัทฯ จัดประชุมนักวิเคราะห์ภายหลังแจ้งงบไตรมาสแรก ซึ่งผลตอบรับค่อนข้างดี หลายโบรกเกอร์ ปรับคำแนะนำเป็น ซื้อ แม้ว่าบางค่ายปรับลดคาดการณ์กำไร และหั่นราคาเป้าหมาย แต่มองราคาที่ปรับลงช่วยเพิ่มอัพไซด์ ขณะที่อนาคตยังเติบโตจากแผนขยายธุรกิจไปประเทศเพื่อนบ้านของ BIGC
บล.บัวหลวง มองภาพ BJC ในปีหน้าว่าจะเป็นซัพพลายเชนค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน เนื่องจากมีแผนขยายสาขา BIGC ไปในต่างประเทศประเดิมที่กัมพูชา ส่วนผลประกอบการครึ่งหลังปีนี้จะดีขึ้น จากการฟื้นตัวของยอดขายจากสาขาเดิมของ BIGC ด้วยการเพิ่มสินค้าอาหารสดและของใช้ในบ้าน นอกจากนี้ มีแผนขยายสาขา BigC hypermarkets 9 แห่ง และ BigC markets 2 แห่ง และ mini BigC 200 แห่งในปีนี้ ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น ซื้อ ราคาเป้าหมาย 48 บาท อิง P/E ปีนี้ 31 เท่า และปีหน้า 25 เท่า
ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส แม้จะปรับคาดการณ์กำไรปีนี้ลง 12% เป็นเติบโต 49% YoY หรือ 5.95 พันล้านบาทจากเดิมคาดโต 68% YoY จากธุรกิจแก้วที่ไม่สดใสในครึ่งปีแรก และค่าเสื่อมราคาสูงขึ้นราว 200 ล้านบาทต่อไตรมาส (หรือ 800 ล้านบาทต่อปี) หลังประเมินมูลค่ากิจการของ BIGC ใหม่ และปรับลดราคาเหมาะสมลงเป็น 55 บาทจากเดิม 58 บาท (DCF) แต่ยังแนะนำซื้อมองราคาหุ้นยังมีอัพไซด์กว่า 30%
นอกจากนี้ แนวโน้มกำไร Q2/60 ดีขึ้นทั้งเทียบ QoQ และ YoY จาก BIGC หนุนงบเต็มปีและธุรกิจบิ๊กซีก็เติบโตทั้งจากสาขาเดิม และการเพิ่มสาขาใหม่ พร้อมมองว่า BJC จะทำจุดสูงสุดของปีใน Q4/60 จาก 3 ประเด็น คือ 1.การกลับรายการภาษีก้อนใหญ่ 2.เป็นช่วง High Season และ 3.โรงงานแก้วเตาที่ 4 เริ่มเดือนเครื่องใน Q4/60 และจะรับรู้เต็มที่ปีหน้า
เช่นเดียวกับ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ที่ได้ปรับลดประมาณการกำไรปี60-61 ลง 21% และ 18% ตามลำดับ ผลจากค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น 1 พันล้านบาท/ปี แต่มองว่าเป็นรายการที่ไม่ใช่เงินสด จึงไม่กระทบกระแสเงินสดของ BJC และราคาเป้าหมายที่ 59 บาท (DCF) ยังคงคำแนะนำ ซื้อ
นอกจากนี้การนำ BIGC ออกจากตลาดหลักทรัพย์ อาจช่วยเพิ่มกำไรจากความยืดหยุ่นในการบริหาร และสร้างกำไรจากสินทรัพย์ อีกทั้งหุ้น BJC ยังมีโอกาสเข้า ดัชนี SET50 และ ดัชนี SET100 ในการคำนวณรอบครึ่งหลังของปีนี้
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน และ บล.โนมูระ พัฒนสิน คาดว่า BJC จะเป็น 1 ในหุ้นที่ถูกนำเข้าคำนวณดัชนี SET50 และ ดัชนี SET100 ในช่วงครึ่งปีหลังนี้
ส่องขนาดมาร์เก็ตแคป ซึ่งนับเป็น 1 ในเกณฑ์คัดเข้าคำนวณดัชนี พบว่า ณ ราคาปิดวานนี้ BJC อยู่ที่ 1.77 แสนล้านบาท จัดว่าอยู่ในระดับใกล้เคียงกับหุ้นใน SET50 อย่าง INTUCH (1.75 แสนลบ.) และ IVL (1.73 แสนลบ.) และสูงกว่าหุ้นใน SET50 หลายตัวที่มีขนาดมาร์เก็ตแคปต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท เช่น DTAC TMB BANPU ROBINS และ SPRC เป็นต้น
บล.ธนชาต กล่าวว่า การถือหุ้น BIGC ทั้งหมดน่าจะช่วยเร่ง การเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจได้เร็วขึ้น เพราะ BJC มีความยืดหยุ่นในการปลดล็อกการเติบโตของ BIGC เช่น การสร้างรายได้จากสินทรัพย์ (asset monetization) อย่างไรก็ตาม การประเมินมูลค่าสินทรัพย์ใหม่ของ BIGC และกำไรของ BIGC ที่โตต่ำกว่าคาด ทำให้เราปรับลดกำไรของ BJC ลง 12% ในปี60-61 และราคาเป้าหมายถูกปรับลงเป็น 46 บาท แนะ “ถือ”
ในระยะสั้นประเด็นที่จะหนุนราคาหุ้น BJC คือจะได้เข้าคำนวณ SET50 หลังจากหลุดโผในรอบที่แล้ว เนื่องจากเป็นช่วงรอยต่อของการเพิ่มทุน ขณะที่ระยะยาวสิ่งที่ต้องติดตามคือ แผนการขยายตลาดของ BIGC โดยเฉพาะในต่างประเทศ หากไม่เป็นไปตามเป้าหมาย หรือมีกำไรต่ำกว่าคาด ก็ย่อมกระทบต่อ BJC เนื่องจากการเติบโตส่วนใหญ่หลังจากนี้จะมาจาก BIGC เป็นหลัก