SPRC วอลุ่มเข้าผิดปกติ 2 วันติด คาดแรงซื้อดักปันผลครึ่งหลังปี 59 ให้ผลตอบแทนราว 5% สูงสุดในกลุ่มโรงกลั่น แต่ราคาปัจจุบันเกินพื้นฐานที่ 13.00-13.70 บาท นักวิเคราะห์มองผลการดำเนินงาน Q1/60 และทั้งปี กำไรอ่อนตัว
บมจ.สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง (SPRC) ราคาปรับขึ้นพร้อมมูลค่าการซื้อขายหนาแน่น ติด TOP5 ในช่วงเช้า โดยเปิดที่ 13.70 บาท ก่อนขึ้นทำ All Time High แตะ 13.90 บาท และปิดภาคเช้าที่ 13.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 0.73% ปริมาณหุ้นที่ซื้อขายเพิ่มขึ้น 227% เทียบค่าเฉลี่ย 5 วันทำการก่อนหน้า ตามโปรแกรม F6 ของ eFinStockPickUp ต่อเนื่องจากเมื่อวานที่เพิ่มขึ้น 442%
SPRC ทำธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันมากว่า 21 ปี มีกำลังการกลั่นน้ำมันดิบ 165,000 บาร์เรล/วัน กำลังการคิดเป็น 13% ของกำลังการผลิตรวมในไทย เข้าตลาดหุ้นเมื่อเดือน ธ.ค.58 ถือหุ้นใหญ่โดยเชฟรอน 60% มีลูกค้ารายใหญ่คือเชฟรอน และ ปตท.
รายได้จากการขายมากสุด มาจากจากน้ำมันเบนซิน และดีเซล โดยงวดปี 59 มีรายได้รวม 4,373 ล้านเหรียญฯ มาจากยอดจำหน่ายน้ำมันดีเซล 1,817 ล้านเหรียญฯ (41.5%) และน้ำมันเบนซิน 1,420 ล้านเหรียญฯ (32.5%)
SPRC เข้าระดมทุนใน SET ด้วยราคา IPO ที่ 9 บาท โดยในช่วงแรกที่เข้าเทรด ราคาร่วงทำโลว์ที่ 7.85 บาท ก่อนจะไต่ระดับขึ้นมาทำ All Time High ในวันนี้
สอดคล้องกับผลการดำเนินงานของ SPRC ที่มีกำไรสุทธิ 8.2 พันลบ.ในปี 58 ก่อนเพิ่มขึ้นเป็น 8.6 พันลบ.ในปี 59 ที่ผ่านมา ตามวัฎจักรปิโตรเคมีที่เริ่มฟื้นตัว ประกอบกับมีกำไรจากสต๊อคน้ำมัน
SPRC ยังมีจุดเด่นที่การจ่ายเงินปันผลในระดับสูง โดยล่าสุดปี 59 จ่ายปันผล 60% ของกำไรสุทธิ มากกว่านโยบายที่ 50% และยังเป็นหุ้นที่มีอัตราตอบแทนจากเงินปันผลสูงสุดในกลุ่มโรงกลั่น
สัญญาณหุ้น SPRC ที่เด้งขึ้นในวันนี้ เกิดขึ้นก่อนที่จะขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อรับปันผลครึ่งหลังปี 59 ในอัตรา 0.64 บาทต่อหุ้นในวันที่ 17 เม.ย.นี้ คิดจากราคาปัจจุบันจะได้ผลตอบแทนราว 4.85%
บล.เคจีไอ คาดว่า SPRC จะให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 60 สูงถึง 7.5% ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่มโรงกลั่นของไทย แต่อัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลงตามราคาน้ำมันเบนซินที่ลดลงในปัจจุบัน และประมาณการกำไรปีนี้ที่คาดว่าจะลดลง 19% YoY จากกำไรจากสต็อกน้ำมันที่ลดลง จึงแนะเพียงถือ ราคาเป้าหมาย 13.30 บาท
บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มองว่า SPRC เป็นหุ้นโรงกลั่นที่ปันผลสูงสุด หุ้นละ 0.64 บาท คิดเป็นยีลด์ 4.7% ขึ้น XD วันที่ 17 เม.ย.60 มูลค่ายุติธรรม 15 บาท แนะนำ "ซื้อเมื่ออ่อนตัว" แนวต้าน 13.8 บาท แนวรับ 13.00 บาท ตัดขาดทุน 12.80 บาท
ข้อควรระวังคือ งบ Q1/60 ของ SPRC ที่นักวิเคราะห์มองว่าน่าจะอ่อนตัวลง ตามสเปรดน้ำมัน และกำไรจากสต๊อคน้ำมันที่ลดลง ขณะที่ทั้งปี 60 คาดกำไรจะลดเหลือราว 6 พันลบ.เท่านั้น!
บล.บัวหลวง คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2560 ที่ 6,019 ลบ. และคาดกำไรหลัก Q1/60 จะลดลงเล็กน้อย QoQ น้ำมันดิบที่ทรงตัวตั้งแต่ต้น Q1/60 จนถึงปัจจุบัน อาจส่งผลให้มีกำไรจากสต๊อกน้ำมันลดลงและจะกดดันกำไรสุทธิ แนะถือ เป้าหมายพื้นฐาน 13.70 บาท บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาด SPRC ไม่น่ามีกำไรที่ดีนักในงวด Q1/60 และราคาหุ้นเต็มมูลค่าที่ 13.30 บาทแล้ว
บล.กสิกรไทย ประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ที่ 6.3 พันลบ. อิงสมมติฐานค่าการตลาดที่ 6.3 เหรียญฯ และกำไรปี 61 อยู่ที่ 4.6 พันลบ. มีสมมุติฐานค่าการกลั่นอยู่ที่ 6.7 เหรียญฯ แต่คาดกำลังการผลิตลดลง 12% จากปี60 เนื่องจากคาดว่าจะมีแผนปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น แนะนำรอเงินปันผลที่ยีลด์สูง แม้ว่าจะไม่มีอัพไซด์ต่อราคาเป้าหมายปี60 แต่จากประวัติการจ่ายเงินปันผลในสัดส่วนที่สูงในอดีต จึงแนะ "ถือ" ราคาเป้าหมาย 13 บาท
ในทางเทคนิค หลังเบรกแนวต้านขนาดใหญ่บริเวณ 13.40 บาท เป็นสัญญาณซื้อระลอกใหม่ แต่สิ่งสำคัญกว่า คือ การรู้จักหยุดขาดทุน กูรูให้จุด Cut loss 13.00 บาท
บล.ไอร่า ระบุว่า ราคา SPRC ได้เบรกแนวต้านขนาดใหญ่ที่บริเวณ 13.40 บาทขึ้นมาเป็นสัญญาณซื้อระลอกใหม่ในแนวโน้มขาขึ้นขนาดใหญ่ และจะมีแนวต้านเป้าหมายถัดไปที่บริเวณ 14.60 บาทเป็นอย่างน้อย กลยุทธ์ ซื้อเล่นรอบใหญ่ ตัดขาดทุน 13.00 บาท
บล.ซีไอเอ็มบี แนะนำซื้อ SPRC ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างสูง โดยมีแนวรับที่ 13.60,13.50 บาท เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 14.20,14.40 บาทเป็นจุดขายทำกำไร และ STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 13.00 บาทลงไป
แม้ว่า SPRC จะมีดีที่เงินปันผล แต่ธุรกิจที่เป็นไปตามวัฎจักร กำไรย่อมมีความผันผวนตามไปด้วย ดังนั้น การเข้าลงทุน จึงต้องศึกษาข้อมูล และติดตามความเคลื่อนไหวของวัฎจักรปิโตรเคมีอย่างใกล้ชิด ขณะที่ราคาปัจจุบันเกินมูลค่าพื้นฐานไปแล้ว และเมื่อตรวจสอบย้อนหลัง 90 วันในหน้า VA (Volume Analysis) โปรแกรม efinStockPickUp พบว่าต้นทุนคนส่วนใหญ่อยู่ที่ 13 บาท การเข้ามาไม้ท้ายๆ จึงต้องระวัง
|