หุ้นไทยปิดลบ 22.16 จุด แรงขายหุ้น Big Cap,กลุ่มพลังงาน และค่าบาทอ่อน

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 3 ตุลาคม ปิดที่ระดับ 1,447.30 จุด ลดลง 22.16 จุด (-1.51%) มูลค่าการซื้อขาย 60,384.79 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 4,440.48 ล้านบาท กองทุนซื้อสุทธิ 347.99 ล้านบาท
นายณรงค์เดช จันทรไพศาล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไอร่า กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ ปรับตัวลงรับแรงขายหุ้นกลุ่มขนาดใหญ่ และหุ้นพลังงานกดดัน ตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง จากไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน
อีกทั้งค่าเงินบาทปรับตัวอ่อนค่าทำสถิติใหม่ต่อเนื่อง ส่งผลให้ความคาดหวังว่าต่างชาติจะกลับมาซื้อลดลงไป รวมถึงยังอยู่ในสภาวะ Overhang จากนโยบายภาครัฐที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หากรัฐบาลกู้เงินเพิ่ม ก็จะทำให้ฐานะการคลังดูแย่ลง และยังเสี่ยงต่อการถูกปรับลดอันดับเครดิตในระยะถัดไปด้วย
ขณะที่ปัจจัยในต่างประเทศก็ยังมีความกังวลต่อแนวโน้มดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่คาดอยู่ในระดับสูง และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ทำจุดสูงสุดใหม่
วันพรุ่งนี้คาดตลาดฯ มีโอกาสปรับตัวลงได้ต่อ แต่ดาวน์ไซด์จำกัด คาดว่าจะลงไปที่แนวรับ 1,430 จุด ก่อนเด้งขึ้นเนื่องด้วยมองว่าแนวรับดังกล่าวเป็น Chanel ในกรอบขาลงพอดี รวมถึง Forward P/E จะอยู่ที่ 16 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี -0.5 SD ทำให้ Valuation ดูดีขึ้น พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,430 จุด และแนวต้าน 1,450-1,460 จุด
5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด
- PTT มูลค่าการซื้อขาย 4,482.03 ล้านบาท ปิดที่ 32.50 บาท ลดลง 0.75 บาท
- PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,970.47 ล้านบาท ปิดที่ 163.00 บาท ลดลง 7.00 บาท
- DELTA มูลค่าการซื้อขาย 2,035.22 ล้านบาท ปิดที่ 85.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
- ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,847.60 ล้านบาท ปิดที่ 226.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
- KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,621.34 ล้านบาท ปิดที่ 126.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 37.02/08 ระหว่างวันอ่อนค่ารอบเกือบ 10 เดือนครึ่ง คาดกรอบพรุ่งนี้ 37.20-37.80
ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 3, 2023 17:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 37.02/08 บาท/ดอลลาร์ จากเปิดตลาดเมื่อ เช้าที่ระดับ 37.09 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 36.95 - 37.13 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทเคลื่อนไหวทิศทางเดียวกับสกุลเงินในภูมิภาค ระหว่างวันยังไม่มีปัจจัยใหม่ ตลาดยังกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังคงดอกเบี้ยสูงเป็นเวลานาน ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาไม่ค่อยดี ขณะที่เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะฟื้นตัวช้า และยังไม่ เห็นนโยบายทางการเงินการคลังที่คืบหน้า จึงยังไม่มีปัจจัยกดให้เงินบาทแข็งค่า
"เงินบาทวันนี้อ่อนค่าไปถึง 37.13 บาท/ดอลลาร์ แต่ยังถือเป็นระดับที่อ่อนค่าสุดในรอบ 10 เดือนครึ่ง" นักบริหารเงิน
กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 37.20 - 37.80 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 149.75/150.00 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 149.84 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.0475/1.0500 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0474 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,447.30 จุด ลดลง 22.16 จุด (-1.51%) มูลค่าซื้อขาย 60,393.44 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 4,404.42 ลบ.(SET+MAI)
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมาเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนมากขึ้น และอ่อนค่าผ่านระดับ 37
บาทต่อดอลลาร์ คิดเป็นอ่อนค่าลง 6.75% จากต้นปี สอดคล้องกับค่าเงินในภูมิภาค โดยการอ่อนค่าในช่วงหลังได้รับผลจากปัจจัยภายนอก
เป็นหลัก โดยเฉพาะการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ จากความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะคงดอกเบี้ยไว้นานกว่าที่คาด
ประกอบกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดีกว่าประเทศอื่นๆ โดยเปรียบเทียบ นอกจากนี้ ค่าเงินบาทยังมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากราคาทองคำที่
ลดลงต่ำสุดในรอบ 7 เดือน และราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบปี อย่างไรก็ดี เกาะติดค่าเงินบาทใกล้ชิดพร้อมเข้าดูแลหาก
เคลื่อนไหวผันผวนผิดปกติ
- นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวถึงสถานการณ์ค่าเงินบาทอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องว่า เป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวัง แต่คงจะ
ไม่เข้าไปก้าวก่ายหรือแทรกแซง ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกของตลาด อย่างไรก็ตาม การที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าก็ไม่ได้มีผลเสียทั้งหมด
เพราะการส่งออกและการท่องเที่ยวได้รับอานิสงส์เชิงบวก ซึ่งการส่งออกมีส่วนใน GDP ของประเทศถึงกว่า 50% และการท่องเที่ยวอยู่ที่
20% ของ GDP แต่ก็ต้องดูให้มีความเหมาะสม ซึ่ง ธปท. ดูแลและติดตามเรื่องนี้อยู่
- ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กดเป้าส่งออกทั้งปี -1.5% ถึง -1% (ณ เดือนต.ค. 66)
จากเดิมที่คาดว่าจะ -1% โดยมีปัจจัยเสี่ยงที่เป็นอุปสรรคสำคัญ ได้แก่ 1. การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศคู่
ค้าสำคัญ 2. ดัชนีภาคการผลิต (PMI) ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ 3. ต้นทุนวัตถุดิบปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น และ 4. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ทั่วโลก
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการเติมเงินดิจิทัล วอลเล็ต ซึ่งเปรียบเสมือน ครม.ชุดย่อย โดยมี
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เป็นประธาน เพื่อพิจารณาแนวนโยบาย กรอบวงเงิน ที่มางบประมาณ กลไกดำเนินการ
ต่างๆ โดยคณะกรรมการชุดนี้จะประชุมนัดแรกภายในสัปดาห์นี้ เพื่อมอบนโยบาย
- กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยยอดนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 66 ที่ผ่านมา ทั้งสิ้น 20,051,535
คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้ว 839,409 ล้านบาท โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา ภายหลังมาตรการ VISA Free
มีผลบังคับใช้ นักท่องเที่ยวจีนมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 44,744 คน หรือเพิ่มขึ้น 72.49% (WoW)
- สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวไตรมาส 3/66
อยู่ที่ระดับ 69 สะท้อนสถานการณ์ท่องเที่ยวที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 1/66 เป็นต้นมา เนื่องจากเป็นช่วงนอกฤดูกาลท่อง
เที่ยวของทั้งคนไทยและต่างชาติ ประกอบกับประชาชนกังวลสภาพเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่แน่นอน และหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นจากวิกฤติโควิด-
19 ขณะเดียวกัน ยังกังวลค่าพลังงานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ คาดไตรมาส 4/66 สถานการณ์ท่องเที่ยวจะดีขึ้น เนื่องจากเป็นฤดูกาลท่อง
เที่ยวของคนไทยและต่างชาติ รวมทั้งมีวันหยุดยาวถึง 6 ช่วง และการจัดกิจกรรมในเทศกาลต่างๆ
- ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาคลีฟแลนด์ กล่าวในงานเสวนาซึ่งจัดขึ้นในรัฐคลีฟแลนด์ในวันที่ 2 ต.ค.
ว่า เฟดอาจจะยังไม่สามารถยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงมีอยู่ในขณะนี้
- สกุลเงินปอนด์ของอังกฤษร่วงลงมากที่สุดในรอบ 1 ปีในเดือนก.ย.เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และบรรดานัก
กลยุทธ์ต่างแทบไม่มีมุมมองเชิงบวกสำหรับช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยคาดการณ์เพิ่มมากขึ้นว่าเงินปอนด์จะอ่อนค่าลงอีก
World Today: สรุปข่าวต่างประเทศวันนี้
ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 3, 2023 17:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)
-- ดร.กอตอลิน กอริโก และ ดร.ดรูว์ ไวส์แมน สองนักวิทยาศาสตร์ คว้ารางวัลโนเบลสาขาการแพทย์ ประจำปี 2566 จากงานวิจัยที่เปิดทางให้เกิดการพัฒนาวัคซีน mRNA เพื่อป้องกันโรคโควิด-19
-- สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของสหรัฐว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้แจ้งเตือนให้จีนรับรู้ว่าสหรัฐมีแผนที่จะออกมาตรการฉบับใหม่อย่างเร็วที่สุดในช่วงต้นเดือนต.ค.นี้ เพื่อควบคุมการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเครื่องมือในการผลิตชิปให้กับจีน
-- สำนักข่าวนิกเกอิ เอเชีย เปิดเผยผลการศึกษาที่ระบุว่า มูลค่าตลาดของกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีและซัพพลายเออร์อิเล็กทรอนิกส์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พุ่งทะยานขึ้นนับตั้งแต่โรคโควิด-19 เริ่มต้นการแพร่ระบาด ขณะที่มูลค่าตลาดของกลุ่มบริษัทดั้งเดิมในภูมิภาคดังกล่าวปรับตัวลดลง
-- ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 4.10% ในการประชุมวันนี้ (3 ต.ค.) ซึ่งเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 4 และสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้
-- นายกรกฏ ชาตะสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์กว่า ยอดจองเที่ยวบินจากจีนจนถึงขณะนี้สูงกว่า 90% แล้ว หลังจากรัฐบาลออกมาตรการฟรีวีซ่าชั่วคราวให้กับชาวจีน
-- กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMA) เปิดเผยเมื่อวานนี้ (2 ต.ค.) ว่า ญี่ปุ่นได้เผชิญเดือนก.ย. ที่ร้อนที่สุดนับตั้งแต่ที่เริ่มเก็บข้อมูลเมื่อ 125 ปีก่อน โดยคาดว่า ปีนี้จะเป็นปีที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ
-- ข้อมูลจากทางการตุรกีที่เผยแพร่ในวันนี้ (3 ต.ค.) ระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของตุรกี เพิ่มขึ้นแตะ 61.53% ในเดือนก.ย.เมื่อเทียบรายปี ซึ่งใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์ในผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ไว้ที่ 61.7% และนับเป็นการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน โดยมีสาเหตุจากการปรับขึ้นภาษีเมื่อเร็ว ๆ นี้ และสกุลเงินลีราตุรกีที่อ่อนค่าลง
-- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ในปีนี้ลงสู่ระดับ 5.3% จากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 6.2% ในเดือนก.ค.
-- กระทรวงแรงงานสเปนเปิดเผยในวันนี้ (3 ต.ค.) ว่า ตัวเลขผู้ว่างงานของสเปนเพิ่มขึ้น 0.73% หรือ 19,768 คนในเดือนก.ย. เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ทำให้ตัวเลขผู้ว่างงานทั้งหมดในสเปนเพิ่มขึ้นเป็น 2.72 ล้านราย



