ลุ้นทำวินโดว์ เดรสซิ่ง หนุน SET วันนี้รีบาวด์ ชู 5 หุ้นเด่น Defensive รับมือตลาดพักตัว
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ประเมินดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้จะอ่อนตัวแนวรับที่ 1,500 จุด ตามความกังวล FED ปรับขึ้นและคงดอกเบี้ยระดับสูงเพื่อสกัดเงินเฟ้อส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์,ตราสารหนี้สหรัฐฯดีดตัวขึ้น และฟันด์โฟลว์ไหลออก นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลงหลังรัสเซียผ่อน คลายคำสั่งแบนส่งออกน้ำมันเป็นลบต่อกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามการทำ Window dressing ปิด NAV ไตรมาส 3/66 จะช่วยหนุนให้ดัชนีสลับรีบาวด์ขึ้นได้
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน: Selvectie buy ในหุ้นรับอานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า TU ITC AAI ASIAN CFRESH MEGA, หุ้นรับอานิสงส์ค่าระวางเรือดีดตัวขึ้น PSL TTA, และกลุ่ม Defensive ช่วงตลาดพักตัว ADVANC INTUCH BEM BTS BDMS
ด้านหุ้นแนะนำวันนี้ BCH (ปิด 19.70 ซื้อ/เป้า 23 บาท) คาดว่ากำไรสุทธิของ BCH จะกลับมา เติบโตอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 3/66 จากแรงส่งของโรคระบาดที่มากขึ้นรวมถึงมีกลุ่ม ผู้ป่วยจากตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น เบื้องต้นคาดกำไรสุทธิประมาณ 425 ล้าน บาท เพิ่มขึ้น 22% จากปีก่อหน้า
CENTEL (ปิด 47 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 53 บาท) ดักเก็งกำไร คาดได้ประโยชน์โดยตรงจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นตั้งแต่ปลาย สัปดาห์นี้เนื่องจากเป็นช่วงหยุดยาวหรือ Golden week ของชาวจีนผสานกับไทยให้ฟรีวีซ่าจีนเริ่ม 25 ก.ย.66 - ก.พ.67
ขณะที่ประเด็นสำคัญวันนี้ มูดี้ส์เตือนอาจพิจารณาอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐหากหน่วยงานรัฐปิดทำการ (Shutdown) ปัญหาเพดานหนี้และการปิดหน่วยงานราชการ บ่อยครั้งอาจจะทำให้มูดี้ส์ลดอันดับความเชื่อถือของสหรัฐจากระดับสูงสุด (Aaa) โดยสภาคองเกรสจะต้องผ่านร่างกฏหมายงบประมาณชั่วคราว และลงนามโดย ประธานธิบดีให้ทันภายในวันที่ 30 ก.ย. ไม่เช่นนั้นหน่วยงานรัฐบางส่วนจะถูกปิด ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป
พร้อมกันนี้ติดตามตัวเลข ส่งออก/นำเข้า และดุลการค้าของไทยเดือน ส.ค. จับตา ดุลการค้าหากขาดดุลมากขึ้นจะเป็นลบกับตลาดเพราะปัจจัยนี้จะกดดันให้ดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุลตามไปด้วย (คาดดุลบริการ+เงินโอนแย่ลง) บ่งชี้ถึงเงินทุนต่างชาติไหลออก ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่อง
สุดท้าย ประชุม กนง. (27 ก.ย.23) ยังมีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ย หากอิงจากกิจกรรม ศก. ต่างๆ (GDP, และอัตราเงินเฟ้อ) มีความเป็นไปได้ที่แบงก์ชาติจะ ชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยคล้ายกับเฟดและแบงก์ชาติอื่นๆ แต่ยังไม่ปิดโอกาสที่ แบงก์ชาติจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเพราะอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้น (1 ปี) ของไทยซึ่งสะท้อนอัตราดอกเบี้ยนโยบายปรับขึ้นสู่ระดับ 2.4% สูงกว่าอัตรา ดอกเบี้ยนโยบายของไทยที่ 2.25% ไปแล้ว