ห้องเม่าปีกเหล็ก

“เอเซีย พลัส”ประเมิน SET ปี63

โดย poomai
เผยแพร่ :
52 views

“เอเซีย พลัส”ประเมิน SET ปี63 แกว่ง1,579 – 1,675

 

สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส (ASPS) ในกลุ่มบริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASP มองทิศทางตลาดหุ้นไทยปี 63 ถูกกดดันจากหลายปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยประเมินเป้าหมาย SET Index สิ้นปีนี้ที่ 1,675 จุด พร้อมแนะกลยุทธ์การลงทุน ให้เน้นหุ้นเติบโตโดดเด่นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงและได้ผลตอบแทนที่ดี

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส  กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปี 2563 ยังต้องเผชิญกับแรงกดดันหลายเรื่อง โดยในส่วนของภายนอกนั้น มีความเสี่ยงจากประเด็นเรื่องความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน  ,สงครามการค้า จากประเทศคู่ค้าอื่นที่ไม่ใช่สหรัฐฯ กับจีน ซึ่งจะกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยให้ชะลอตัว  

ขณะที่ความเสี่ยงภายในประเทศ มีประเด็นความร้อนแรงทางการเมือง ที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของรัฐบาล รวมถึงปัญหาภัยแล้งที่ในปีนี้จะหนักสุดในรอบ 40 ปี กระทบต่อภาคอุตสาหกรรมเกษตร และการบริโภคประชาชนที่อยู่ในภาคเกษตรกรรม นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการปรับเปลี่ยนมาตรฐานบัญชีใหม่ ที่ถือเป็นความเสี่ยงต่อประมาณการกำไรของตลาดด้วย

 

“ปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมด  เชื่อว่าจะกดดันให้ Fund Flow ชะลอการไหลเข้าตลาดหุ้นไทย และในปีนี้เป็นปีแรกที่ขาดเม็ดเงินจากกองทุน LTF เข้ามาช่วยหนุนตลาดด้วย” คุณเทิดศักดิ์  กล่าว

ฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส ประเมินกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ไทยปีนี้อยู่ที่ราว 1.0 ล้านล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) 95.71 บาท เติบโต 3.9% โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะเติบโตได้ดีกว่าตลาด ส่วนใหญ่เกิดจากฐานกำไรสุทธิปี  62 ที่ต่ำกว่าปกติ เช่น กลุ่มปิโตรเคมี กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มพลังงาน และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง

ขณะที่ประเมิน  SET Index ในปี  63 อนุรักษ์นิยมกรอบ1,579 – 1,675 จุด  อิงพี/อี เรโชที่ 16.5 -17.5 เท่า มี Upside เปิดกว้างสุดจากปัจจุบันราว 6.8%

ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวถึง กลยุทธ์การลงทุนในไตรมาส 1 ปี 63 นี้ เนื่องจากสถานการณ์ในปีนี้ มีความเสี่ยงจากหลายปัจจัย ดังนั้น การลงทุนจึงต้องเน้นหุ้นรายตัวที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวหนุนให้ผลประกอบการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เช่น BGRIM, PTT/ LH, AP, ROBINS และ CPF เป็นต้น 

 

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก


poomai