โดย Turbo
เผยแพร่ : 
66 viewsOn June 10th, the United States will impose a 5% Tariff on all goods coming into our Country from Mexico, until such time as illegal migrants coming through Mexico, and into our Country, STOP. The Tariff will gradually increase until the Illegal Immigration problem is remedied,..
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าทั้งหมดจากเม็กซิโก ในอัตรา 5% โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. ซึ่งมีเป้าหมายที่จะสกัดการหลั่งไหลของผู้อพยพผิดกฎหมายจากเม็กซิโกที่ข้ามพรมแดนเข้ามาในสหรัฐ
"ในวันที่ 10 มิ.ย.นี้ สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกทุกประเภท ในอัตรา 5% จนกว่าการหลั่งไหลของผผู้อพยพจากเม็กซิโกที่เดินทางเข้ามาในสหรัฐ จะสิ้นสุดลง" ปธน.ทรัมป์ระบุผ่านการทวีตข้อความเมื่อคืนนี้
ปธน.ทรัมป์เตือนว่า ภาษีนำเข้าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมายจะได้รับการแก้ไข
ขณะที่ทำเนียบขาวได้เผยแพร่แถลงการณ์ของปธน.ทรัมป์ว่า ภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกอาจจะเพิ่มขึ้นจนถึงระดับ 25% ในวันที่ 1 ต.ค.
หลังจากทารั้มซ่ำหุ้นไปเรื่อยเปื่อย โดนจีนโต้ตอบ กำลังจะเอาแร่หายากมาเอ่ยถึง
ทรั้มหันไปหันมาาล่อเม็กซิโกดีกว่าได้ผล2ต่อเลย ชาวบ้านจะได้อพยบมาน้อยๆ เปลืองทรัพยากรอเมริกามานานแล้ว
Stocks tumbled Friday after President Donald Trump unexpectedly announced he would be unleashing tariffs of up to 25% on all Mexican imports, adding to trade concerns that have plagued investors for weeks.
The S&P 500 (^GSPC) fell 1.32%, or 36.8 points, as of market close, with the Materials sector leading declines. The Dow (^DJI) dropped 1.41%, or 354.84 points, while the Nasdaq (^IXIC) retreated 1.51%, or 114.57 points.
The new tariffs, which will begin at a rate of 5% starting June 10, were unveiled as a move by the Trump administration to try and pressure Mexico to crack down on Central American migrants attempting to cross the U.S. border. Trump said the tariffs will rise to 10% on July 1 if Mexico does not take sufficient action, and will increase by 5% each month thereafter to as much as 25% by October 1.
“The Tariff will gradually increase until the Illegal Immigration problem is remedied,.. ... at which time the Tariffs will be removed,” Trump said in a Twitter post Thursday.
Donald J. Trump✔@realDonaldTrump
Donald J. Trump✔@realDonaldTrump....at which time the Tariffs will be removed. Details from the White House to follow.
28.4K people are talking about this
In a subsequent Twitter post Friday, Trump said, “Mexico makes a FORTUNE from the U.S., have for decades, they can easily fix this problem. Time for them to finally do what must be done!”
The duties on Mexican imports will carry major implications for companies with operations south of the border, and particularly for U.S. automakers. By market close, shares of Ford (F) dropped 2.36%, while shares of General Motors (GM) were off 4.25%.
“U.S. trade with Mexico is all about cars. This would cripple the auto industry,” Deutsche Bank’s Torsten Slok told Yahoo Finance. “It would bring car production to a halt pretty quickly.”
According to data cited by Slok, 35% of U.S. auto exports, from a value-added standpoint, are composed of parts manufactured in Mexico. This proportion has grown each year since the North American Free Trade Agreement (NAFTA) took effect in the mid-1990s.
[Read more: Trump’s Mexico tariffs will cripple U.S. automakers]
Imposing these tariffs broadens out the trade war between the U.S. and some of its major trade partners. Trump, a self-proclaimed “Tariff Man,” has continued to deploy additional levies on imports by trade partners as a preferred method of policy, despite the volatility such moves have stirred up in equity markets.
“This doesn’t bode well for trade negotiations with Japan and the European Union. Trump's latest move shows he is not afraid of fighting multiple trade wars at the same time,” Raoul Leering, head of international trade analysis for ING, wrote in a note Friday. “We expect that he will threaten to hike tariffs again if the EU and Japan don't sufficiently acquiesce to his demands to grant the U.S. better terms of trade.”
The drop in the major U.S. indices Friday morning as market participants priced in the impact of the additional duties “looks about right” when compared to the market reaction from previous tariff announcements, Neil Dutta, head of economics at Renaissance Macro Research, wrote in an email Friday.
“On average every 16bn in tariffs, cuts about 1.5% off the S&P 500,” Dutta said. “5% on $350bn U.S. imports from Mexico works out to $17.5bn in tariffs. So again, around 1.5% off in stocks.”
As of market close Friday, the S&P 500 was down 2.6%, the Dow was down 3% and the Nasdaq was down 2.4% for the week as investors also reacted to trade-related sparring between the U.S. and China, which have each threatened to impose additional tariffs.
U.S. Treasuries resumed their rally, with yields down across the curve. The 10-year U.S. Treasury yield (^TNX) dropped 8.8 basis points to 2.137% Friday afternoon. It held below the 3-month Treasury yield, which was down 2.1 basis points to 2.351%.
ECONOMY
Personal income rose 0.5% in April, the Bureau of Economic Analysis reported Friday, exceeding expectations for an increase of 0.3%. This was above March’s increase of 0.1%. Wages and salaries – which comprise the largest component of personal income – rose 0.3% in April, below March’s 0.4% rise.
Personal spending, the largest component of U.S. economy activity, rose 0.3% in April, outpacing expectations for a 0.2% increase. March’s reading for personal spending was upwardly revised to have risen 1.1%, versus the 0.9% pace seen previously.
Personal consumption expenditures (PCE), which tracks price changes in consumer goods and services, rose 0.3% on a monthly basis in April and 1.5% over last year. Core PCE, which excludes volatile food and energy prices, rose 0.2% in April, matching expectations. Year-over-year, the metric rose 1.6%, also in-line with expectations and slightly above March’s downwardly revised reading for a 1.5% rise. Core PCE serves as the Federal Reserve’s preferred inflation gauge.
หุ้นร่วงลงในวันศุกร์หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ประกาศโดยไม่คาดคิดว่าเขาจะปลดเปลื้องภาษีศุลกากรสูงถึง 25% สำหรับการนำเข้าทั้งหมดของชาวเม็กซิกันรวมถึงความกังวลด้านการค้าที่มีนักลงทุนมาหลายสัปดาห์
S&P 500 (^ GSPC) ลดลง 1.32% หรือ 36.8 จุดเมื่อปิดตลาดโดยกลุ่มวัสดุชั้นนำลดลง ดัชนีดาวโจนส์ (^ DJI) ลดลง 1.41% หรือ 354.84 จุดในขณะที่ Nasdaq (^ IXIC) ถอยกลับ 1.51% หรือ 114.57 จุด
ภาษีศุลกากรใหม่ซึ่งจะเริ่มในอัตรา 5% เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายนถูกเปิดเผยว่าเป็นการเคลื่อนไหวโดยรัฐบาลทรัมป์เพื่อพยายามกดดันเม็กซิโกให้ปราบปรามผู้อพยพชาวอเมริกากลางที่พยายามข้ามชายแดนสหรัฐ ทรัมป์กล่าวว่าอัตราภาษีจะเพิ่มขึ้นเป็น 10% ในวันที่ 1 กรกฎาคมหากเม็กซิโกไม่ดำเนินการเพียงพอและจะเพิ่มขึ้น 5% ในแต่ละเดือนหลังจากนั้นมากถึง 25% ในวันที่ 1 ตุลาคม
“ อัตราภาษีจะค่อยๆเพิ่มขึ้นจนกว่าปัญหาการเข้าเมืองผิดกฎหมายจะได้รับการแก้ไข, .. ... ในเวลาที่ภาษีจะถูกลบออก” ทรัมป์กล่าวใน Twitter โพสต์เมื่อวันพฤหัสบดี
Donald J. Trump
✔
@realDonaldTrump
· 22 ชม
ในวันที่ 10 มิถุนายนสหรัฐอเมริกาจะกำหนดอัตราภาษี 5% สำหรับสินค้าทั้งหมดที่เข้ามาในประเทศของเราจากเม็กซิโกจนกระทั่งถึงเวลาที่ผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายเข้ามาในเม็กซิโกและเข้าสู่ประเทศของเรา อัตราภาษีจะค่อยๆเพิ่มขึ้นจนกว่าปัญหาการเข้าเมืองผิดกฎหมายจะได้รับการแก้ไข, ..
Donald J. Trump
✔
@realDonaldTrump
.... เวลาใดจะถูกลบภาษี รายละเอียดจากทำเนียบขาวให้ติดตาม
92.4K
7:30 น. - 31 พฤษภาคม 2019
ข้อมูลโฆษณา Twitter และความเป็นส่วนตัว
28.4K ผู้คนกำลังพูดถึงสิ่งนี้
ในโพสต์ Twitter ในวันศุกร์ทรัมป์กล่าวว่า“ เม็กซิโกสร้างฟอร์จูนจากสหรัฐอเมริกามีมานานหลายทศวรรษพวกเขาสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างง่ายดาย ถึงเวลาที่พวกเขาจะทำสิ่งที่ต้องทำในที่สุด!”
หน้าที่การนำเข้าชาวเม็กซิกันจะมีผลกระทบสำคัญกับ บริษัท ที่ดำเนินงานทางใต้ของชายแดนและโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ในสหรัฐอเมริกา จากการปิดตลาดหุ้นของ Ford (F) ลดลง 2.36% ในขณะที่หุ้นของ General Motors (GM) ลดลง 4.25%
"เรา. การค้ากับเม็กซิโกเป็นเรื่องของรถยนต์ สิ่งนี้จะทำลายอุตสาหกรรมยานยนต์” Torsten Slok ของ Deutsche Bank กล่าวกับ Yahoo Finance “ มันจะทำให้การผลิตรถยนต์หยุดชะงักอย่างรวดเร็ว”
จากข้อมูลที่อ้างโดย Slok 35% ของการส่งออกรถยนต์ของสหรัฐอเมริกาจากจุดยืนที่มีมูลค่าเพิ่มนั้นประกอบด้วยชิ้นส่วนที่ผลิตในเม็กซิโก สัดส่วนนี้เพิ่มขึ้นทุกปีเนื่องจากข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) มีผลบังคับใช้ในช่วงกลางปี 1990
[อ่านเพิ่มเติม: ภาษีของทรัมป์ในเม็กซิโกจะทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ในสหรัฐอเมริกาต้องพิการ]
การกำหนดอัตราภาษีเหล่านี้ขยายขอบเขตของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและประเทศคู่ค้าที่สำคัญบางราย ทรัมป์ซึ่งเป็นผู้ประกาศตนเอง“ Tariff Man” ยังคงจัดเก็บภาษีการนำเข้าเพิ่มเติมโดยคู่ค้าเป็นวิธีการทางนโยบายที่ต้องการแม้ว่าความผันผวนดังกล่าวได้กระตุ้นให้เกิดการลงทุนในตลาดหุ้น
“ สิ่งนี้ไม่ได้ดีสำหรับการเจรจาการค้ากับญี่ปุ่นและสหภาพยุโรป การเคลื่อนไหวล่าสุดของทรัมป์แสดงให้เห็นว่าเขาไม่กลัวที่จะต่อสู้กับสงครามการค้าหลายรายการในเวลาเดียวกัน "ราอูลเลริงก์หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์การค้าระหว่างประเทศของไอเอ็นจีเขียนในหมายเหตุวันศุกร์ “ เราคาดหวังว่าเขาจะขู่จะปรับขึ้นอัตราภาษีอีกครั้งหากสหภาพยุโรปและญี่ปุ่นไม่ยอมรับข้อเรียกร้องของเขาอย่างเพียงพอที่จะให้เงื่อนไขการค้าที่ดีกว่าของสหรัฐฯ”
การลดลงของดัชนีสหรัฐที่สำคัญในเช้าวันศุกร์เนื่องจากนักลงทุนในตลาดได้รับผลกระทบจากหน้าที่เพิ่มเติม“ ดูที่ถูกต้อง” เมื่อเปรียบเทียบกับปฏิกิริยาของตลาดจากการประกาศอัตราภาษีก่อนหน้านี้ Neil Dutta หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์ของ Renaissance Macro Research อีเมล์วันศุกร์
“ โดยเฉลี่ยทุก ๆ 16 พันล้านในการเก็บภาษีลด 1.5% S&P 500” Dutta กล่าว “ 5% จากการนำเข้าสหรัฐฯ $ 350 พันล้านจากเม็กซิโกคิดเป็นภาษี $ 17.5 พันล้าน ดังนั้นอีกประมาณ 1.5% ในสต็อก”
เมื่อปิดตลาดวันศุกร์ S&P 500 ลดลง 2.6% ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 3% และดัชนีแนสแด็กลดลง 2.4% ในสัปดาห์นี้เนื่องจากนักลงทุนมีปฏิกิริยากับการซ้อมที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน กำหนดอัตราภาษีเพิ่มเติม
คลังสหรัฐฯกลับมาชุมนุมอีกครั้งโดยให้อัตราผลตอบแทนลดลงทั่วเส้นโค้ง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯใน 10 ปี (^ TNX) ลดลง 8.8 คะแนนพื้นฐานสู่ระดับ 2.137% ในบ่ายวันศุกร์ มันอยู่ต่ำกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 3 เดือนซึ่งลดลง 2.1 คะแนนพื้นฐานเป็น 2.351%
เศรษฐกิจ
รายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนเมษายนสำนักวิเคราะห์เศรษฐกิจรายงานเมื่อวันศุกร์เกินความคาดหมายว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% ซึ่งสูงกว่าการเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนมีนาคม ค่าจ้างและเงินเดือนซึ่งประกอบด้วยองค์ประกอบรายได้ส่วนบุคคลที่ใหญ่ที่สุดเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเมษายนต่ำกว่าการเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมีนาคม
การใช้จ่ายส่วนบุคคลซึ่งเป็นองค์ประกอบที่ใหญ่ที่สุดของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในสหรัฐฯเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนเมษายนซึ่งสูงกว่าความคาดหวังที่เพิ่มขึ้น 0.2% การอ่านค่าใช้จ่ายส่วนบุคคลของเดือนมีนาคมได้รับการแก้ไขอย่างสูงขึ้นเพื่อเพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อเทียบกับการเพิ่มขึ้น 0.9% ที่เห็นก่อนหน้านี้
ค่าใช้จ่ายการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งติดตามการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 0.3% เป็นรายเดือนในเดือนเมษายนและ 1.5% จากปีที่แล้ว Core PCE ซึ่งไม่รวมอาหารที่ระเหยได้
