ภาษีสหรัฐฯ เขย่า SME ไทย! รู้ผลกระทบ + กลยุทธ์ปรับตัวจาก SCB EIC
.

สถานการณ์การค้าโลกกำลังเปลี่ยน! แม้สหรัฐฯ เลื่อนเก็บภาษีตอบโต้ 36% (ที่อาจใช้กับไทยเพราะเกินดุล $11,000-$12,000 ล้าน) ออกไป 90 วัน (ยกเว้นจีนโดนทันที >100%) แต่ภาษีทั่วไป 10% ยังคงอยู่! สร้างความไม่แน่นอนสูงมาก
.
ทำไมไทยอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง (Top 20)? เพราะเราเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ราว 11,000-12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
.
ผลกระทบที่ SME ต้องจับตา: ทางตรง: ส่งออกไปสหรัฐฯ/จีน อาจลดลง , ทางอ้อม: สินค้าจีนทะลัก แข่งขันสูงขึ้น + ตลาดคู่ค้าอื่นชะลอตัว จุดเปราะบาง: ไทยพึ่งพาส่งออกไปสหรัฐฯ เกือบ 1/5 และนำเข้าจากจีนถึง 1/4 + สินค้าส่งออกหลัก 11 อันดับแรกกว่า 80% โดนภาษีสูงกว่าคู่แข่ง!
.
ภาพรวมเศรษฐกิจ: SCB EIC คาด GDP ไทยปีนี้โตต่ำกว่า 2.4% (อาจต่ำกว่า 2%) + ความท้าทายเดิม (หนี้ครัวเรือนสูงเกือบ 90% GDP, SME 90% ของธุรกิจ แต่สร้างรายได้แค่ 15%)
อุตสาหกรรมไหนกระทบมาก/น้อย?
.
สูง: ชิ้นส่วนยานยนต์, อิเล็กทรอนิกส์, เหล็ก, พลาสติก (พึ่งสหรัฐฯ 17-25%)
.
ต่ำ: สินค้าจำเป็น, ข้าวหอมมะลิ (ทดแทนยาก)
.
มองยาว: หากโดน 36% จริง มูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯ อาจลดลงสะสม 800,000 ล้านบาทใน 5 ปี!
.
ทางรอด SME ไทย? ปรับตัวด้วยกลยุทธ์ "4P"
.
มุมมองจาก SCB EIC คือ1️ Product: สร้างความต่าง เพิ่มมูลค่า/นวัตกรรม 2️Place: กระจายตลาด (ส่งออก + ในประเทศ) 3️ Preparedness: บริหารจัดการดี งบดุลแกร่ง 4️ Productivity: ใช้เทคโนโลยี AI. ลดต้นทุน พัฒนาคน/หาพันธมิตร
.
เทคนิคเสริม: Pricing: ดู Margin สินค้าตัวเอง + เจรจาผู้นำเข้า FTA: ใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้า
.
ภาครัฐ: ต้องช่วยเจรจา + คุมเข้มสินค้าทุ่มตลาด!
.
สรุป : แม้ได้เวลาหายใจ 90 วัน แต่ SME ไทยห้ามประมาท! เริ่มปรับตัวตั้งแต่วันนี้ สร้างความแข็งแกร่งรับมือสมรภูมิการค้าโลกยุคใหม่!
.
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่...[https://www.efinancethai.com/recommended.../decodingustaxes]