ห้องเม่าปีกเหล็ก

ตีกลองประชุม POLAR

โดย ศักดิ์
เผยแพร่ :
64 views

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ออกประกาศเตือนให้ ผู้ถือหุ้น บริษัท โพลาริส แคปปิตัล จำกัด (มหาชน) หรือ POLAR ร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 26 สิงหาคมนี้ เพื่อแต่งตั้งกรรมการใหม่ หลังจากกรรมการเก่าจำนวน 5 ราย คน ถูกกล่าวโทษจนขาดคุณสมบัติการเป็นกรรมการและผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน

การประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทจดทะเบียนแห่งนี้ ว่างเว้นมานาน โดยแม้ว่าผู้ถือหุ้นเคยเคลื่อนไหว เรียกร้องให้กรรมการบริษัทจัดประชุมผู้ถือหุ้น แต่ถูกประวิงเวลามาตลอด ก่อนที่คณะกรรมการบริษัท ฯ จะยื่นของฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง และถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด

ความล่มสลายของ POLAR มีปมที่ลึกลับซับซ้อน และทำให้นักลงทุนแทบช็อก เพราะก่อนหน้าที่จะประกาศมีหนี้สินล้นพ้นตัว และยื่นขอฟื้นฟูกิจการ งบการเงินของบริษัท ฯ ที่เปิดเผยต่อสาธารณชนนั้น ฐานะการเงินของกิจการยังดีอยู่ มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 

แต่ไม่กี่วันหลังประกาศงบการเงิน ฐานะได้เปลี่ยนไปในชั่วพริบตา กลายเป็นบริษัทที่มีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน และผู้ถือหุ้นรายย่อย จำนวน 11,523 ราย ซึ่งตกอยู่ในฐานะผู้เสียหาย เป็นเจ้าทุกข์ ก็ไม่อาจเปิดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อซักฟอกคณะกรรมการ POLAR ได้

การประชุมผู้ถือหุ้นที่จะมีขึ้นในวันที่ 26 สิงหาคมนี้ เป็นการใช้สิทธิตามมาตรา 100 ของ พ.ร.บ. บริษัทมหาชน โดยผู้ถือหุ้นใช้ที่มีเสียงเกินกว่า 10 % ของทุนจดทะเบียน สามารถเรียกประชุมผู้ถือหุ้นได้ โดยกรรมการหรือฝ่ายบริหารบริษัจดทะเบียนไม่อาจขัดขวางได้

และการประชุมผู้ถือหุ้นบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC ก็กำลังเตรียมจัดประชุมผู้ถือหุ้น ภายใต้หลักเกณฑ์เดียวกัน ซึ่ง ก.ล.ต.กำลังกำชับให้กรรมการ IFEC บางคน ต้องให้ความร่วมมือจัดการประชุม

นายศุภนันท์ ฤทธิไพโรจน์ กรรมการเสียงข้างน้อย 1 ใน 3 ของกรรมการที่นายทะเบียนบริษัทมหาชนรับรอง ซึ่งไม่ให้ความร่วมมือและถ่วงเวลาการประชุมผู้ถือหุ้นมาตลอด ก็ไม่อาจขัดขวางการประชุมได้ เพราะจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่ง ก.ล.ต.ขู่จะลงโทษแล้ว

ปัจจุบัน  อำนาจในการบริหารจัดการทรัพย์สินของ POLAR ตกเป็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ดยกรรมการบริษัทที่เคยมีอยู่ 5 คน ถูก ก.ล.ต. กล่าวโทษในความผิดฐานสร้างหนี้เทียมวงเงิน 3.6 พันล้านบาท จนถูกสั่งห้ามเป็นกรรมการบริษัทจดทะเบียน

กรรมการทั้ง 5 คนที่ถูกขึ้นบัญชีดำประกอบด้วย นายญาณกร วรากุลรักษ์ นายพูนศักดิ์ ชุมช่วย นายอาสา นินนาท นายฐากร ทวีศรี และ นายดนุช บุนนาค

พฤติกรรมความผิดของกรรมการ POLAR ไม่น่าจะจำกัดอยู่เฉพาะคดีที่ ก.ล.ต. กล่าวโทษเท่านั้น แต่อาจมีพฤติกรรมความผิดอื่นตามมาด้วย เพราะฐานะทางการเงิน ไม่น่าจะย่ำแย่จนถึงมีหนี้สินล้นพ้นตัว เนื่องจากเพิ่มทุนอย่างถี่ยิบ แทบนับครั้งไม่ถ้วน ภายในเวลาเพียงไม่กี่ปี

แต่เงินที่ระดมจากนักลงทุนหายไปไหน การซื้อทรัพย์สิน การขยายการลงทุน มีส่วนทำให้เงินอันตรธาน ถูกละลายหายไปหรือไม่ การซื้อทรัพย์สิน โดยวางเงินมัดจำวงเงินสูง ๆ และเกิดปัญหาการเรียกเงินมัดจำคืน โดยเฉพาะการซื้อที่ดินย่านพหลโยธิน ที่วางเงินมัดจำ 350 ล้านบาท ซึ่งไม่รู้ว่า เรียกได้หรือเปล่า เป็นส่วนหนึ่งของการทำให้เงินของผู้ถือหุ้นอันตรธานหายไปหรือไม่

การตรวจสอบพฤติกรรมของกรรมการ POLAR ก่อนหน้าไม่อาจทำได้ เพราะกรรมการบริษัททั้ง 5 คน คุมอำนาจบริหาร ทั้งที่ไม่มีใครมีฐานะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แม้แต่คนเดียว และแม้ผู้ถือหุ้นจะเรียกร้องให้เปิดประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อซักฟอก แต่ถูกประวิงเวลามาตลอด

26 สิงหาคมนี้ ก.ล.ต.ตีกลองเรียกผู้ถือหุ้นร่วมเข้าประชุมแล้ว และจะเป็นจุดเริ่มต้นสู่การตรวจค้น เบื้องหลังการล่มสลายของ POLAR ซึ่งทำให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยกว่า 1 หมื่นคนต้องเสียหายย่อยยับ

คดีโกงในบริษัทจดทะเบียนแห่งนี้ น่าจะตามมาอีกนับไม่ถ้วน และ กรรมการบริษัททั้ง 5 คน ไม่รู้ใครจะเจอข้อหาอะไรกันอีก

หมายเหตุ 1) ที่มาจาก คอลัมน์ " ชุมชนคนหุ้น " โดย สุนันท์ ศรีจันทรา ใน MGR Online เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ปี พ.ศ 2561

                 2) โปรดติดตามรายละเอียดการลงทุนใน สภาวะตลาดกระทิง และ ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างขาขึ้นรอบใหญ่ได้ใน longtunbysak.blogspot.com


ศักดิ์