‘เคอรี่’เคาะขายไอพีโอ28บาท นักลงทุนสนใจจองล้น -เตรียมเทรด 24 ธ.ค.
“เคอรี่”กำหนดขายไอพีโอที่ 28 บาท เป็นราคาสูงสุดจากช่วงราคา 25-28 บาท แหล่งข่าว เผย นักลงทุนสนใจจองซื้อจำนวนมาก เหตุ ธุรกิจแนวโน้มเติบโตตตามธุรกิจโซเชียลคอมเมิร์ซ-อีคอมเมิร์ซ เตรียมเข้าเทรด 24 ธ.ค.นี้ รับเงิน 8.4 พันล้านบาท ขยายธุรกิจ-ชำระคืนหนี้
รวมถึงหุ้นที่ประกอบธุรกิจลักษณะแบบเดียวกันกับ KEX นั้นยังไม่มีจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นอกจากนี้ธุรกิจดังกล่าวยังมีกระแสเงินสดในมือที่สูง จึงทำให้ได้รับความสนใจอย่างมาก
ทั้งนี้คาดว่าหุ้นของ KEX จะเข้าจดทะเบียนในตลท.วันแรกวันที่ 24 ธ.ค. 2563 โดยเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นไอพีโอครั้งนี้จำนวน 8,400 ล้านบาท ทาง KEX มีแผนนำไปขยายเครือข่ายจัดส่งพัสดุด่วน การลงทุนในระบบการขนส่งเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และการพัฒนาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ มูลค่า 4,370 ล้านบาทช่วงปี 2564-2566
ขณะที่อีก 800 ล้านบาท จำนำไปคืนหนี้สถาบันการเงิน ในช่วงปี 2563-2564 โดย ณ สิ้นเดือนก.ย. 2563 บริษัทมีเงินกู้ยืมระยะยาวกับสถาบันการเงินเท่ากับ 800 ล้านบาท ส่วนที่เหลือ บริษัทจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
บริษัท KEX เสนอขายหุ้นไอพีโอครั้งนี้ จำนวน 300 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์)หุ้นละ 0.50 บาท แบ่งเป็น แบ่งเป็นขายแก่นักลงทุนในประเทศ 191.70 ล้านหุ้น ประกอบด้วยนักลงทุนทั่วไป 46.93 ล้านหุ้น นักลงทุนสถาบัน 48.05 ล้านหุ้น นักลงทุนสถาบันที่เป็นนักลงทุนหลักแบบเฉพาะเจาะจง (Cornerstone Investors) 42.5 ล้านหุ้น ผู้มีอุปการคุณ 40.72 ล้านหุ้น เสนอขายพนักงานของKEX จำนวน 12.60 ล้านหุ้น เสนอขายแก่บุคคลที่มีความสัมพันธ์ซึ่งเป็นกรรมการหรือผู้บริการของบริษัท 9 แสนหุ้น
ส่วนหุ้นที่เสนอขายแก่นักลงทุนต่างประเทศ รวม 108.30 ล้านหุ้น แบ่งเป็น นักลงทุนสถาบันที่เป็นCornerstone Investors จำนวน 41.40 ล้านหุ้น นักลงทุนสถาบันที่ไม่ใช่Cornerstone Investor จำนวน 66.90 ล้านหุ้น โดยจะเปิดให้นักลงทุนรายย่อยจองซื้อหุ้นในวันที่ 8,9และ 14ธ.ค.ส่วนนักลงทุนสถาบันจองซื้อวันที่ 16-18 ธ.ค.
ทั้งนี้KEXได้เข้าทำสัญญาลงทุนในหุ้น (Cornerstone Placing Agreement) กับนักลงทุนสถาบันที่เป็นCornerstone Investors ในประเทศไทยและในต่างประเทศจำนวนรวม 20 ราย รวม 83.9 ล้านหุ้น ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากซึ่งมียอดจองสูงถึงประมาณ 10 เท่า ของจำนวนที่จัดสรร โดย นักลงทุน Cornerstone Investorsประกอบด้วย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)ขนาดใหญ่ในประเทศ 11 แห่ง และ บริษัท เอไอเอ จำกัด ส่วนนักลงทุนสถาบันต่างประเทศCornerstone Investor sนั้นเป็นกองทุนขนาดใหญ่ระดับโลก 8 แห่ง อาทิ GIC Private Limited ,กองทุนต่าง ๆ ภายใต้คำแนะนำของ Capital Research Management Company
สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปีที่ผ่านมา (2560-2562)ในปี 2560 มีรายได้จากการขายและบริหาร จำนวน 6,626.41 ล้านบาท เพิ่มเป็น 13,565.35 ล้านบาท ในปี 2561 และเพิ่มเป็น 19,781.93 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 730.26 ล้านบาท ในปี 2560 และเพิ่มเป็น 1,185.10 ล้านบาท ในปี 2561 และ 1,309.56 ล้านบาท ในปี 2562
ขณะที่งวด 9 เดือน 2563 มีรายได้อยู่ที่ 14,688.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ 14,655.45 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิที่ 1,022.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 9 เดือน 2562 ที่มีกำไรสุทธิ 900.19 ล้านบาท
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก