ห้องเม่าปีกเหล็ก

MAKRO คาดได้เงินขาย PO ราว 6.2 หมื่นลบ.ใช้ขยายธุรกิจ-คืนหนี้เงินกู้

โดย คนเล่นหุ้น
เผยแพร่ :
62 views

MAKRO คาดขายหุ้น PO ได้เงินราว 6.2 หมื่นล้านบาท ใช้ขยายธุรกิจ-คืนหนี้ ลุ้นหุ้นใหม่เข้าเทรด ธ.ค.นี้ หนุนฟรีโฟลทเพิ่มเป็น 16% พร้อมตั้งเป้าดันสัดส่วนยอดขายออนไลน์ไม่ต่ำกว่า 15-20% ใน 3 ปี

  นางสาวสิทธินาฎ ตั้งตรงจิตต์ Division Head สายงาน Investment Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB เปิดเผยภายในงานแถลงข่าวและนำเสนอข้อมูลแก่นักลงทุน "แม็คโคร-โลตัส เปิดยุทธศาสตร์ออมนิชาแนล (O2O) ผสานค้าส่ง (B2B) และค้าปลีก (B2C) สู่การเติบโตในระดับภูมิภาค" คาดว่าหุ้นสามัญใหม่ของบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด(มหาชน) หรือ MAKRO จะเข้าจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายในช่วงเดือนธ.ค.นี้ หลังจากบริษัทได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญของบริษัทให้แก่ประชาชนทั่วไป (PO)  ที่ 43.50 บาทต่อหุ้น โดยเปิดให้ผู้ถือหุ้นเดิมของ MAKRO,CPALL และ CPF ที่ได้รับสิทธิและนักลงทุนรายย่อยจองซื้อได้ตั้งแต่วันที่ 4-9 ธ.ค.นี้

  การเสนอขายหุ้น PO ครั้งนี้มีจำนวนไม่เกิน 1,300 ล้านหุ้น ประกอบด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัทจำนวนไม่เกิน 910 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL บริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด หรือ CPH และบริษัท ซี.พี.เมอร์แชนไดซิ่ง จำกัด หรือ CPM จำนวนรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 390 ล้านหุ้น นอกจากนี้อาจพิจารณาจัดสรรหุ้นส่วนเกิน (Overallotment shares หรือ กรีนชู) จำนวนไม่เกิน 130 ล้านหุ้น

  ขณะที่ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้จะส่งผลให้ MAKRO มีสัดส่วนนักลงทุนรายย่อย (ฟรีโฟลท) เพิ่มขึ้นมาเป็น 16% จากเดิมที่อยู่ระดับเพียง 3%

  นางสุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจสยามแม็คโคร MAKRO กล่าวว่าเงินจากการระดมทุนครั้งนี้คิดเป็นมูลค่าเสนอขายรวมไม่เกิน 62,205 ล้านบาท (นับรวมมูลค่าของหุ้นกรีนชู) ซึ่งในส่วนที่บริษัทจะได้รับอยู่ประมาณ 40,000 ล้านบาท โดยสัดส่วนประมาณ 50% บริษัทจะนำไปใช้ขยายธุรกิจในไทยและต่างประเทศ รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ และส่วนที่เหลืออีก 50% จะใช้สำหรับชำระคืนเงินกู้ยืมสถาบันการเงิน

  ทั้งนี้ MAKRO และกลุ่มโลตัสส์ได้วางยุทธศาสตร์สร้างการเติบโตในระดับภูมิภาค เพื่อเป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชียด้านแพลตฟอร์มที่ผสานทุกช่องทางทั้งการค้าส่งแบบ B2B และค้าปลีกแบบ B2C โดยการใช้ศักยภาพจากฐานธุรกิจในประเทศไทยสู่การขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียใต้และภูมิภาคอาเซียน โดยจะพัฒนาแพลตฟอร์ม O2O ที่เป็นการผสมผสานระหว่างช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ (O2O) เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภคในยุคดิจิทัล

  นอกจากบริษัทตั้งเป้าดันสัดส่วนยอดขายออนไลน์เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 15-20% ภายใน 3 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่อยู่ระดับ 11-12% หลังบริษัทมีแผนรวมกับกลุ่มโลตัสส์ในการลงทุนผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มเติม ซึ่งภายในช่วงไตรมาส 1/65 จะมีการเปิดตัวแพลตฟอร์ม B2B มาร์เก็ตเพลส โดยจะมีทั้ง MAKROและผู้ค้ารายใหญ่หลายรายมาอยู่ในช่องทางมาร์เก็ตเพลสร่วมกัน และจะถือเป็นตลาดแบบ B2B มาร์เก็ตเพลสรายแรกในประเทศไทย

      ส่วนกลุ่มโลตัสส์จะมีการออกแอพพลิเคชั่นใหม่ที่ลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าออนไลน์แล้วรอรับได้ภายใน 1 ชั่วโมง ผ่านสาขาที่มีกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงจะมีการพาคู่ค้าและผู้เช่าพื้นที่ของบริษัทเข้ามาอยู่ในระบบเพื่อขายสินค้าในแพลตฟอร์มร่วมกัน ซึ่งเรียกว่า B2B ecosystem ซึ่งจะเริ่มเปิดตัวในช่วงไตรมาส 2/65

 


คนเล่นหุ้น