“อินเดีย” กำลังท้าชิงตำแหน่ง มหาอำนาจโลก อันดับ 2 จากจีน - BillionMoney

20 ปีที่ผ่านมานี้ เราได้เห็นการเติบโตอย่างรวดเร็วของจีน จนสามารถก้าวขึ้นมาเป็น ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด เป็นอันดับ 2 ของโลกได้
อย่างไรก็ตาม การที่เศรษฐกิจของจีน ได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้า และการล็อกดาวน์ ก็ได้เปิดโอกาสให้ “อินเดีย” ค่อย ๆ ก้าวขึ้นมาท้าทายตำแหน่ง เบอร์ 2 ของโลก
และถ้าหากคุณสงสัย ว่าอินเดียมีดีอะไร พอที่จะก้าวขึ้นมา มีเศรษฐกิจใหญ่ เป็นอันดับ 2 ของโลก หลังจากนี้
BillionMoney จะย่อยให้เข้าใจ
สิ่งที่ทำให้ประเทศอินเดีย มีความได้เปรียบประเทศจีน ในด้านของเศรษฐกิจนั้น มีอยู่ด้วยกัน 3 สิ่ง
1. ประชากรยังคงเติบโตอยู่เรื่อย ๆ
สำนักข่าว Bloomberg ได้รายงานว่า ในปี 2022 อินเดียและจีน มีจำนวนประชากรอยู่ที่ 1,417 ล้านคน และ 1,412 ล้านคน ตามลำดับ
แม้ตัวเลขประชากรจะยังดูใกล้เคียงกันอยู่มาก แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือ ประชากรของอินเดียยังคงเติบโตอยู่ ในขณะที่ประชากรของจีนนั้น กำลังลดลง
จากการประมาณการของสหประชาชาติ ได้แสดงให้เห็นว่า อัตราการเกิดของอินเดีย มากกว่าจีนค่อนข้างมากเลยทีเดียว
โดยในปี 2022 อัตราการเกิดของอินเดียอยู่ที่ 17.16 ต่อ 1,000 คน ในขณะที่จีน มีอัตราการเกิดอยู่ที่ 10.90 ต่อ 1,000 คน เท่านั้น
การที่ประชากรอินเดีย ยังคงเติบโตได้มากกว่าจีนแบบนี้เอง ก็หมายความว่า ตลาดผู้บริโภคในประเทศนั้น ยังคงเติบโตได้อยู่ ซึ่งก็จะทำให้ธุรกิจต่าง ๆ ในอินเดีย มีแรงจูงใจที่จะลงทุนเพิ่ม
การบริโภคที่มากขึ้นเรื่อย ๆ และการลงทุนจากภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นนี้เอง ก็จะช่วยให้เศรษฐกิจโดยรวมของอินเดีย เกิดการเติบโต
2. แรงงานของอินเดีย มีความหลากหลาย
อินเดียเป็นประเทศที่มีความหลากหลาย ทั้งทางด้านวัฒนธรรม, ศาสนา และฐานะทางเศรษฐกิจ นั่นจึงทำให้แรงงานของอินเดีย มีความหลากหลายด้วย
เพราะประเทศอินเดียนั้น มีตั้งแต่แรงงานราคาถูก ที่ทำงานง่าย ๆ ไปจนถึงแรงงานคุณภาพสูง ที่เก่งพอจะก้าวไปเป็น CEO ของบริษัทระดับโลก อย่าง Google, Microsoft และ Adobe ได้
ส่งผลให้บริษัทที่จะเข้ามาลงทุนในอินเดีย ไม่ต้องกังวลเรื่องการหาแรงงาน เพราะไม่ว่าจะต้องการพนักงานระดับล่างสุด ไปจนถึงระดับ CEO ประเทศอินเดีย ก็มีคนที่พร้อมจะเข้ามาทำงานในทุกตำแหน่ง อยู่เต็มไปหมด
นอกจากนี้ แรงงานชาวอินเดีย ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ได้เปรียบแรงงานชาวจีน นั่นก็คือ ชาวอินเดียจำนวนมาก สามารถพูดภาษาอังกฤษได้
โดยสัดส่วนประชากรที่พูดภาษาอังกฤษได้ในประเทศอินเดีย คิดเป็น 10% ในขณะที่จีนแผ่นดินใหญ่ มีสัดส่วนประชากรที่พูดภาษาอังกฤษได้ เพียงแค่ 1% เท่านั้น
ซึ่งเหตุผลที่ชาวอินเดีย สามารถพูดภาษาอังกฤษได้เป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งก็มาจากการที่ประเทศอินเดีย เคยเป็นอาณานิคมของประเทศอังกฤษ มานานเกือบ 90 ปี นั่นเอง
3. ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์น้อยกว่า
แม้ประเทศอินเดีย จะมีความขัดแย้งกับจีน เกี่ยวกับเรื่องพรมแดนอยู่บ้าง แต่ถึงอย่างนั้น ในด้านการค้า อินเดียก็ยังมีความสัมพันธ์อันดี กับทั้งประเทศจีน และประเทศตะวันตก อย่างสหรัฐอเมริกา และรัสเซีย
เห็นได้จากในปี 2021 สหรัฐอเมริกาและจีน เป็นคู่ค้าอันดับ 1 และอันดับ 3 ของอินเดีย นอกจากนี้ อินเดียก็ยังซื้อน้ำมันจากรัสเซียเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก จาก 30,000 บาร์เรลต่อวัน ในปี 2021 เป็น 890,000 บาร์เรลต่อวัน ในปี 2022
นโยบายระหว่างประเทศ ที่ค่อนข้างเป็นกลางของอินเดียนี้เอง ก็อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ดึงดูดให้ บริษัทชั้นนำของโลก ย้ายฐานการผลิตจากจีนมายังอินเดีย
อย่างเช่น Apple ที่ตั้งเป้าว่าจะย้ายฐานการผลิต iPhone กว่า 25% จากจีนมายังอินเดีย ภายในปี 2025 และตั้งเป้าว่าจะให้อินเดีย เป็นแหล่งส่งออก iPhone หลัก ในระยะยาวด้วย
ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้เอง จึงทำให้อินเดีย เริ่มกลายเป็นหมุดหมายในการตั้งฐานการผลิต ของบริษัทข้ามชาติหลายแห่ง
ซึ่งถ้าหากเงินทุนจำนวนมหาศาล จากบริษัทข้ามชาติ ยังคงพากันไหลเข้ามายังอินเดียเรื่อย ๆ แบบนี้ต่อไป ไม่เพียงแต่สถานะโรงงานโลกของจีน ที่จะโดนสั่นคลอนเท่านั้น
แต่สถานะของจีน ที่เป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก อาจจะถูกสั่นคลอน โดยประเทศอย่างอินเดียด้วย ก็เป็นได้..
References
-https://www.macrotrends.net/countries/IND/india/birth-rate
-https://www.macrotrends.net/countries/CHN/china/birth-rate
-https://www.cia.gov/.../field/median-age/country-comparison
-https://www.ecb.europa.eu/.../ecb.op296~aaf209ffe5.en.pdf
-https://www.brahmagyaan.in/.../how-many-people-in-india...
-https://www.chinahighlights.com/.../english-levels-in...
-https://en.wikipedia.org/wiki/British_Raj
-https://www.outlookindia.com/.../apple-iphone-14-apple-to...