จับตา`พิชญ์` นำผู้ถือหุ้น JAS โหวตขาย TTTBB-JASIF พร้อมลุ้นปันผลพิเศษ
จับตาประชุมผู้ถือหุ้น JAS โหวตดีลขาย TTTBB - JASIF โบรกฯ คาดยกมือโหวตผ่านฉลุย หลังมี "พิชญ์ โพธารามิก"เป็นแกนนำ เชื่ออาจเห็น JAS ปันผลพิเศษ 0.22- 1.12 บาท พร้อมมั่นใจจะส่งผลให้ประชุม JASIF เดือนหน้าผ่านเช่นกัน ประเมินเป็นบวกต่อ ADVANC

.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ (23 ก.ย.65) จะมีการประชุมผู้ถือหุ้น บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS เพื่อลงมติในการรายการจำหน่ายเงินลงทุนในหุ้นบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) (TTTBB) และหน่วยลงทุนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (JASIF)
.
โดยนักวิเคราะห์ จึงได้ออกมาประเมินถึงแนวโน้มการประชุมในวันนี้ และผลกระทบ รวมถึงทิศทางในอนาคตของ JAS และดีลดังกล่าว ว่าจะเกิดอะไรตามมาบ้าง
.
* ประเด็นสำคัญ ในการโหวตวันนี้
1. การโหวตขาย TTTBB และ JASIF ให้ กลุ่มบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือADVANC) ในสัดส่วน 99.87% และ 19% ตามลำดับ
.
2. ก่อนหน้านี้ ทางก.ล.ต.ได้เตือนให้ผู้ถือหุ้นไปใช้สิทธิ์ แม้ที่ปรึกษาทางการเงิน (IFA) มีความเห็นว่าผู้ถือหุ้นไม่ควรอนุมัติการโหวตให้ขายเงินลงทุนในครั้งนี้ โดยเฉพาะเรื่องความไม่แน่นอนของการดำเนินธุรกิจในอนาคต และแผนจะนำเงินสดคงเหลือ 19,320 ล้านบาทไปลงทุน
.
3.สำหรับคะแนนที่จะโหวตผ่านคือ 3 ใน 4 หรือ 75% ขณะที่ผู้ที่ไม่มีสิทธิ์ในการโหวตคือผู้ที่มีส่วนได้เสียสำหรับดีลนี้
.
* คาดโอกาสผ่านสูง เหตุ "พิชญ์ โพธารามิก" ถือหุ้นถึง 55%
บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด (DBSV) ประเมินว่า จะมีสิทธิ์ในการโหวตผ่าน เนื่องจากผู้ถือหุ้นใหญ่สุดคือ นายพิชญ์ โพธารามิก นั้นถือหุ้นในสัดส่วนที่มากสุดถึง 55% ยังขาดจำนวนเสียงอีกเพียง 20%
.
ขณะที่บริษัทมีสภาพคล่องของหุ้น (Free Float) ถึง 45.5% และคาดว่าจะมีผู้ถือหุ้นไปโหวตอย่างคึกคัก สิ่งที่น่าติดตามอีกหนึงประเด็นคือ IFA ได้กล่าวว่าจากจำนวนเงินค่าขายหุ้นทั้งหมดที่ 32,420 ล้านบาท จะเหลือเงินสดจากการทำรายการอยู่อีกถึง 19,230 ล้านบาทซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่าบริษัทจะนำ ไปลงทุนอะไร จึงไม่แนะนำ ให้โหวต
.
* จับตา JAS อาจมีปันผลพิเศษ 0.22- 1.12 บาท
DBSV ประเมินต่ออีกว่า มีความเป็นไปได้เช่นกันที่ JAS จะจ่ายปันผลพิเศษออกมา หากย้อนไปในปี 62 บริษัทมีเหตุการณ์สำคัญคือ ขายสินทรัพย์เพิ่มเข้าไปยัง JASIF ทำให้ได้เงินสุทธิค่าขายที่ 3.62 หมื่นล้านบาท และเป็นกำไร 7.3 พันล้านบาท ในปีนั้นบริษัทจ่ายปันผลพิเศษออกมาสูงถึง 1.45 บาท คิดเป็นอัตราการจ่ายจากเงินค่าขายต่อหุ้นในสัดส่วนที่ราว 34%
.
จากการทำ Sensitivity ที่ระดับอัตราการจ่าย (Payout Ratio) ที่ 10%-50% คิดจากเงินค่าขายหุ้นที่เหลือ 19.2 พันล้านบาท หรือ 2.25 บาทต่อหุ้น จะได้เงินปันผลในช่วง 0.22 - 1.12 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนปันผลสูง 8%-42% ขึ้นกับว่าจะนำเงินไปใช้ลงทุนหรือคืนหนี้มากน้อยเพียงใด แต่หากยึดตามหลักระมัดระวัง (Conservative) ให้จ่ายในอัตราเพียง 10% เงินปันผลจะเป็น 0.22 บาท อัตราผลตอบแทนปันผลที่ 8% หากทดสอบว่าให้ราคาหุ้นตอบรับในทางบวกและอัตราผลตอบแทนเหลือ 5% จนน่าสนใจน้อยลง ราคาหุ้นจะไปอยู่ที่ระดับ 4.50 บาท ซึ่งยังมีส่วนเพิ่มถึง 69% จากราคาหุ้นในปัจจุบัน
.
* คาดประชุม JASIF เดือนหน้าก็ผ่านเช่นกัน
หากโหวตผู้ถือหุ้น JAS ผ่าน และการที่ ADVANC เพิ่มเงื่อนไข ทั้งงจ่ายค่าเช่าล่วงหน้า , BBL จะให้เงื่อนไขเงินกู้ดีขึ้น กับJASIF ถ้า ADVANC ซื้อสำเร็จ ดังนั้นการโหวตผู้ถือหน่วย 18 ต.ค.65 คาดว่าผ่าน เพราะยีลด์ปันผลปี 66-68 มากขึ้นแล้ว
.
ทั้งนี้ราคาพื้นฐาน JASIF เท่ากับ 8.50 บาท ซึ่งเท่ากับราคาที่ ADVANC ซื้อ และพลอยจะทำ ให้หุ้น ADVANC มีโอกาสปรับขึ้นไปด้วย เนื่องจากจะซื้อ TTTBB และ JASIF สำเร็จ ยังผลให้ขึ้นเป็นผู้นำตลาดธุรกิจ Fix Broadbandเป็นอันดับ 2 ทันที แนะนำ ซื้อ ADVANC ที่ราคาพื้นฐาน 250 บาท
***********************************