ห้องเม่าปีกเหล็ก

สรุปมุมมอง ของ ดร นิเวศน์ และกูรูอีก 6 ท่านโดย อีไฟแนนซ์ไทย

โดย คนเล่นหุ้น
เผยแพร่ :
77 views

 

"สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" รวบรวมมุมมอง 7 ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ-การลงทุน และวางแผนการเงิน ที่มาร่วมแสดงวิสัยทัศน์และแนวทางปรับตัวสำหรับโลกในยุคหลังโควิด-19 ภายในงานสัมนา "BETTER TRADE SYMPOSIUM 2020" ภายใต้ธีม "THE SURVIVORS ฝ่าวิกฤติเกมการลงทุน" ที่จัดขึ้นโดยกลุ่ม"eFin"

 

>>> "ดร.นิเวศน์" ชวนลงทุนหุ้นเวียดนาม <<<

"ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร" นักลงทุนเน้นคุณค่า (VI) ระบุว่า ตลาดหุ้นเวียดนามน่าสนใจเข้าลงทุน เพราะมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง แม้จะมีโควิด-19 แต่เศรษฐกิจยังเติบโต เพราะมีการลงทุนเพื่ออนาคตจำนวนมาก ประชากรมีอายุเฉลี่ยเพียง 27 ปี จึงทำให้มีแรงงานจำนวนมากด้วยเช่นกัน โดยหุ้นเวียดนาม เช่น ห้างสรรพสินค้า, อสังหาริมทรัพย์, ธนาคารพาณิชย์, ไฟฟ้า และสนามบิน ขณะนี้ยังมีขนาดเล็กและสามารถเติบโตได้อีก 30-40 เท่า ซึ่งการเติบโตในระดับดังกล่าวก็ยังทำให้หุ้นเวียดนามไม่แพงเมื่อเทียบกับหุ้นไทย

ส่วนประเทศไทยช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจพึ่งพิงการท่องเที่ยวเป็นหลัก พอเกิดโควิด-19 นักท่องเที่ยวหายไป ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยตกต่ำ ลามไปถึงกำไรบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ลดลง ทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงรุนแรง ซึ่งเทียบกับเวียดนามที่ผลตอบแทนราคาหุ้นกลับไปเกือบเท่าเดิม ขณะที่ จีน, สหรัฐฯ กลับไปเกินปกติแล้ว

"7 ปีที่ผ่านมา หุ้นไทยไม่ไปไหนเลย ซึ่งหุ้นไทย 7 ปีที่แล้ว สูงกว่าวันนี้อีก และมีโอกาสถึง 10 ปีที่หุ้นไทยยังไม่ไปไหน ทำให้คิดว่าวันหนึ่งเราต้องเปลี่ยนไปลงทุนในหุ้นต่างประเทศอย่างจริงจัง เพราะมีหลายประเทศที่ผลตอบแทนดีกว่าหุ้นไทย วิกฤติเศรษฐกิจรอบนี้หนักมาก ไม่เหมือนกับปี 40 ที่สามารถซื้อหุ้นพื้นฐานดีแล้วเก็บได้ เพราะยังเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่รวดเร็วจากภาคเอกชน แต่ปัจจุบันไม่เป็นเช่นนั้น เรายังไม่รู้ว่าเศรษฐกิจจะกลับสู่สภาวะปกติเมื่อไร รอบนี้คนส่วนใหญ่หวังพึ่งแต่การช่วยเหลือของรัฐบาล ภาคเอกฟื้นตัวไม่เร็วเท่ากับปี 40" ดร.นิเวศน์ กล่าว

 

>>> "ผยง ศรีวณิช" แชร์ 3 กระบวนทัศน์ใหม่ หลังยุคโควิด-19 <<<

"ผยง ศรีวณิช" ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ทุกวิกฤติเศรษฐกิจจะทิ้งมรดกของการเปลี่ยนแปลงไว้อย่างเสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน โควิด-19 จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่เป็น New Paradigm หรือ 3 กระบวนทัศน์ใหม่

1.การฟื้นตัวของเศรษฐกิจแบบ K-Shaped Recovery ซึ่งเป็นการฟื้นตัวที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ระหว่างกลุ่มแรก คือ กลุ่มที่สามารถกลับมาได้อย่างรวดเร็ว และ เติบโตยิ่งกว่า ส่วนกลุ่มที่สอง คือ กลุ่มที่กลับมาได้ช้า หรือ กลับมาไม่ได้เลย ดังนั้น K-Shaped Recovery จึงเป็นการผสมผสานกัน โดยกลุ่มแรก นั่น คือ โอกาส และ U Shaped หรือ L Shaped คือ ความท้าทาย

2.New Policy Paradigm คือ ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบแบบถดถอย โดยธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่จำเป็น เช่น อาหาร เครื่องดื่ม ยารักษาโรค อุปกรณ์การแพทย์ต่างๆ รวมไปถึงธุรกิจบริการ จะได้รับผลกระทบน้อย ธุรกิจที่กลับมาได้แล้ว เช่น การผลิตสินค้าอุปโภค บริโภค อาหาร และ เครื่องดื่ม เคมีภัณฑ์ การฟื้นตัวธุรกิจเหล่านี้ จึงมีลักษณะเป็น V Shaped ขณะที่อีกหลายกิจกรรมยังไม่กลับมา 100% เช่น ธุรกิจการท่องเที่ยว โดยเฉพาะธุรกิจที่พึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติ สายการบิน รถทัวร์ เรือเร็ว ไม่สามารถปรับตัวได้ จึงมีรูปแบบการฟื้นตัวแบบ L Shaped จนกว่าการแพร่ระบาดทั่วโลกจะสามารถถูกควบคุมได้

3.การจัดใหม่ของระบบทุนนิยม โดยการปรับตัวของภาคธุรกิจภายใต้ New Paradigm ต้องเติบโตไปข้างหน้าอย่างยืดหยุ่น กล้าทำสิ่งใหม่ๆ และ เพิ่มโอกาสในการหา The Right Solution ภายใต้ต้นทุนของการผิดพลาดที่ต่ำ

 

>>> "Kim Property" แนะสะสม อสังหาฯ ยุคดอกเบี้ยต่ำ <<<

"ชัชวาล วัฒนะโชติ" หรือ "Kim Property" ประเมินว่า ช่วงภาวะวิกฤติแบบนี้ หากมีเงินเย็น ควรเข้าสะสมอสังหาริมทรัพย์ เพราะจะได้ของถูก โดยอสังหาฯ ไทยยังมีปัจจัยหนุนจากรถไฟ ทั้งรถไฟฟ้า และรถไฟความเร็วสูง ซึ่งปัจจุบันยังเสร็จไม่ถึงครึ่งของโครงการทั้งหมด และรถไฟความเร็วสูงที่เป็นโครงข่ายเชื่อมโยงระดับโลก ตลอดจนโครงการ Mega Project อีกหลายโครงการ

ขณะเดียวกกันปัจจุบันภาวะดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำและเป็นขาลง สะท้อนจากช่วงที่ผ่านมามีนักลงทุนกู้เงินมาลงทุนอสังหาฯ จำนวนมาก เพราะหนี้การลงทุนอื่นที่มีความเสี่ยงสูง โดยอสังหาฯ อาจจะให้ผลตอบแทนไม่สูงมาก แต่มีความเสี่ยงต่ำ

 

>>> "โค้ชเป๊ก Money Game" แนะเคลียร์หนี้เป็นศูนย์ เปิดโอกาสลงทุน <<<

"ปุณยวีร์ จันทรขจร" จาก "Money Game" มองว่า หลังโควิด-19 ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิม แม้มีวัคซีน หรือการท่องเที่ยวจะกลับมา แต่จะแตกต่างจากปีที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง ดังนั้น สิ่งสำคัญคือ การเคลียร์หนี้สินที่มีไปก่อน เพราะหากเกิดการล็อกดาวน์อีกครั้ง อาจจะไม่สามารถรองรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ ดังนั้นในฐานะนักลงทุน จะมีฐานะทางการเงินที่หนักไม่ได้

“ถ้าหนี้สินเป็นศูนย์ คือ การทำ Money Management ในเชิงเวลาของการเทรดคือการทยอยซื้อ แบ่งโซนซื้อตามราคา แต่หากเราไม่มีภาระ มันคือการวาง Money Management ในเชิงราคาที่ทำให้คุณสามารถทนทานต่อระยะเวลาที่ผ่านไปนานได้” ปุณยวีร์ กล่าว

 

>>>"อีฟิน โกลด์" มองทองคำยังเป็นขาขึ้น ควรมีติดพอร์ต 20% <<<

"วชิรเมษฐ์ ธเนศสถิตพงศ์" กรรมการบริหาร บริษัท อีฟิน โกลด์ จำกัด เปิดเผยว่า วิกฤตที่เกิดขึ้นในช่วงปี 63 ทำให้นักลงทุนระวังความเสี่ยงมากขึ้น การลงทุนในทองคำจึงถูกนำมาใช้เพื่อป้องกันความเสี่ยง สะท้อนจากหลายเหตุการณ์ เช่น ประเทศจีนที่สต็อกทองคำเป็นจำนวนมาก ขณะที่ประเทศรัสเซียขายพันธบัตรดอลลาร์ออกประมาณ 80-90% ของพอร์ตเงินสำรองของประเทศ และตัดสินใจซื้อทองคำแทน

แม้กระทั่ง "เรย์ ดาลิโอ" ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์รายใหญ่ของสหรัฐฯ ระบุว่า เงินสดคือขยะ ทองคำยังเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเงินสด ซึ่งจากกรณีนี้เมื่อพิจารณาว่าการคงอัตราดอกเบี้ยต่ำมีโอกาสกินระยะเวลายาวนาน การฝากเงินสดไม่เกิดดอกเบี้ย ขณะที่ภาวะเงินเฟ้อเริ่มเพิ่มขึ้นในบางประเทศ

รวมถึง "วอร์เรน บัฟเฟตต์" นักลงทุนและนักธุรกิจรายใหญ่ของสหรัฐฯ จากปกติไม่ให้ความสำคัญกับทองคำ เนื่องจากไม่สามารถสร้างผลตอบแทนได้เท่ากับหุ้น แต่เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมาได้ซื้อเหมืองทองคำ Barrick Gold ซึ่งเป็นบริษัทในประเทศแคนาดา ที่ทำธุรกิจสำรวจพัฒนาเหมือง ผลิตและขายทองคำและทองแดง โดยเน้นขุดทองคำเป็นหลัก

ทั้งนี้มองว่า ทิศทางราคาทองคำเมื่อพิจารณาสัญญาเทคนนิคมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อ "โจ ไบเดน" ชนะการเลือกตั้งสหรัฐฯ ทำให้มีมาตรการหนุนเม็ดเงินไหลออกไปตลาดลงทุนอื่นๆ รวมถึงทองคำ กลยุทธ์การลงทุน คือ หากนักลงทุนต้องการเก็บทองคำระยะยาวควรลงทุนทองคำแท่ง และหากต้องการบริหารความเสี่ยงควรลงทุนทองคำออนไลน์ และ ควรทองคำไว้ในพอร์ตประมาณ 20%

 

>>> "ลงทุนศาสตร์" ชี้หุ้นนอก ทางรอดกระจายการลงทุน <<<

"กิตติศักดิ์ คงคา" จากเพจ "ลงทุนศาสตร์" แนะนำ กระจายความเสี่ยงการลงทุนไปตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยให้ยึดหลักการสำคัญคือ ธุรกิจอะไรจากประเทศไหนที่มีความน่าสนใจทางพื้นฐานและสภาพแวดล้อม รวมถึงมีมูลค่าพื้นฐานเท่าไหร่มากกว่า อย่ามองว่าหุ้นที่จะไปลงทุนว่าเป็นธุรกิจที่อยู่ในประเทศไหน อย่าไปกำหนดสัดส่วนว่าจะจัดสรรการลงทุนแต่ละประเทศเท่าไหร่ เพราะจากประสบการณ์ไม่ Make Sense โดยอยากให้มองเหมือนเป็นพอร์ตลงทุนรวมโดยตัดชื่อประเทศทิ้งไป และเน้นเลือกหุ้นที่คิดว่าดีที่สุดออกมาโดยไม่แคร์ว่าธุรกิจอยู่ในตลาดหุ้นหรือประเทศไหน

ทั้งนี้ก่อนจะลงทุนในประเทศใดก็ตาม ผู้ลงทุนควรวิเคราะห์ประเทศนั้นก่อน ซึ่งมีหลักอยู่ 6 ข้อที่ควรพิจารณา ได้แก่ 1.การเมือง 2.ภาวะเศรษฐกิจ 3.สภาพสังคม 4.เทคโนโลยี 5.สภาพแวดล้อม และ 6.กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

 

>>> "โค้ชหนุ่ม" แนะเริ่มต้นวางแผนการเงิน ฝ่าวิกฤตโควิด ปูทางอนาคต <<<

"จักรพงษ์ เมษพันธุ์" หรือ "โค้ชหนุ่ม THE MONEY COACH" แนะนำแนวทางการวางแผนจัดการชีวิตและการเงินเพื่อรับกับโลกที่เปลี่ยนไปจากการมาของโควิด-19

1.ดูแลสุขภาพ ลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วย อย่าการ์ดตก เพราะนอกจากมีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาแล้ว จะทำให้ขาดโอกาสในการหารายได้ จึงเป็นเรื่องต้องระมัดระวัง

2.วางแผนการเงินล่วงหน้า 3-6 เดือน มองให้เห็นอนาคตข้างหน้า อย่าใช้ชีวิตแบบขับรถปิดไฟ แต่ต้องเปิดไฟเพื่อให้เห็นข้างหน้าว่ามีอะไรบ้าง ดังนั้นต้องรู้ว่าสภาวะข้างหน้ามีอะไร

3.ลดรายจ่าย ลดภาระผ่อนหนี้ โดยตัดลดค่าใช้จ่าย ทั้งค่าใช้จ่ายส่วนตัว และค่าใช้จ่ายคงที่ เจรจากับเจ้าหนี้เพื่อขอลดภาระผ่อนชำระหนี้

4.หาช่องทางเพิ่มรายได้จากทุนชีวิต ที่มาจากการสะสมความรู้ ประสบการณ์ ทักษะ หรือใช้เครือข่าย ความสัมพันธ์ ในการหารายได้เพิ่ม หรือต่อยอดธุรกิจ

5. รักษาวินัยการใช้จ่าย ทำตามแผนการเงินเพื่อฝ่าวิกฤตไปให้ได้

"เงินเกี่ยวข้องกับชีวิตคนเราตลอดเวลา ตั้งแต่เกิดจนตาย แต่เรามีความรู้ทางการเงินที่น้อยเกินไป หรือบิดเบี้ยว สิ่งที่หายไป คือ การควบคุมการใช้จ่าย การออม และการลงทุน ทั้งหมดเรียนรู้ได้ และกลายเป็นแผนการเงิน และจัดการการเงินได้ ดังนั้นคนที่เกิดวิกฤตและชีวิตมีปัญหา เพระที่ผ่านมาปล่อยให้เงินสเปะสปะ แต่หากมีการวางแผนการเงิน ทำให้เราควบคุมเงินเราได้ และควบคุมอนาคตการเงินได้ ดังนั้นจะมีวิกฤตกี่ครั้ง เราจะผ่านพ้นไปได้ เมื่อเราเริ่มต้นวางแผนการเงินตั้งแต่วันนี้" โค้ชหนุ่มกล่าว


คนเล่นหุ้น