“หนี้บัตรเครดิต” สหรัฐพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์

“หนี้บัตรเครดิต” สหรัฐพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์เกือบ 1 ล้านล้านดอลล์

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงและการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้ไตรมาส 4 ของปี 2565 ยอดใช้บัตรเครดิตในสหรัฐพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 9.86 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นราว 6.1 หมื่นล้านดอลลาร์ จากไตรมาสก่อนหน้า

โดยตามรายงานหนี้ครัวเรือนของนิวยอร์กและเครดิตของเฟด พบว่ายอดใช้บัตรเครดิตไตรมาส 4 ของปี 2565 ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2542 และผลักดันให้หนี้บัตรเครดิตทั้งหมดของชาวอเมริกันทะลุระดับสูงสุดก่อนหน้านี้ที่ 9.27 แสนล้านดอลลาร์ ในไตรมาส 4 ของปี 2562

โดยชาวอเมริกันไม่เพียงแค่รูดบัตรเครดิตมากกว่าที่เคย แต่ยังขาดการชำระเงินด้วย โดยมีอัตราการค้างชำระที่สูงกว่าบรรทัดฐานก่อนเกิดโรคระบาดโควิด-19 ซึ่งหนี้บัตรเครดิตกว่า 4% ได้เปลี่ยนไปสู่การค้างชำระขั้นร้ายแรง ซึ่งหมายความว่าไม่สามารถชำระเงินเป็นเวลา 90 วัน หรือมากกว่านั้น

ทั้งนี้หนี้บัตรเครดิตที่พุ่งสูงขึ้นถือเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมากจากเมื่อ 2-3 ปีก่อน เมื่อการตรวจสอบมาตรการกระตุ้นทำให้ผู้บริโภคชาวอเมริกันที่อยู่บ้านนอกสามารถบันทึกและชำระยอดคงเหลือได้ ในช่วงต้นปี 2564 ยอดบัตรเครดิตลดลง 17% จากระดับสูงสุดก่อนเกิดโรคระบาด ตามรายงานจาก Bankrate.com

ขณะนี้อัตราเงินเฟ้อกำลังผลักดันต้นทุนของทุกอย่างตั้งแต่อาหารไปจนถึงค่าน้ำมัน และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยซ้ำ ๆ ของธนาคารกลางสหรัฐได้ผลัก ดันอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตสุงขึ้นไปเกือบ 20%

ขณะที่ยอดรวมบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น 1.3 แสนล้านดอลลาร์ ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2564 ถึงธันวาคม 2565 ซึ่งเป็นการเติบโตประจำปีที่มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่เฟดยังคงขึ้นอัตราดอกเบี้ย ต้นทุนการกู้ยืมบัตรเครดิตคาดว่าจะแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี ในปีนี้

อ้างอิง : https://www.bloomberg.com/news/articles/2023-02-16/credit-card-debt-americans-have-racked-up-nearly-1-trillion-in-balances