วิเคราะห์หลังตลาด :
นักวิแคระฯส่วนใหญ่ในตลาดหุ้นมักจะวิแคระฯทิศทางของตลาดหุ้นเมื่อทราบผลของตลาดหุ้นแล้ว หรือเมื่อตลาดหุ้นปิดแล้ว หรือวิเคราะห์หลังตลาด หรือแล้วแต่จะเรียกแต่มีความหมายเหมือนกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็วิแคระฯกันได้อย่างถูกต้องแม่นยํา เพราะเป็นการใช้ข้อมูลในอดีตที่เพึ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆแล้วมาอธิบาย แต่ก็มีนักวิแคระฯอีกส่วนหนึ่งที่พยายามจะเดามั่วสั่วสุ่มทิศทางของตลาดหุ้นในอนาคต และผลที่ออกมาส่วนใหญ่ถูกบ้างผิดบ้าง " โดยมีโอกาศถูกและผิด 50 : 50 " เพราะ " ไม่มีการวิเคราะห์วิธีการใดในโลกใบนี้ที่วิเคราะห์ทิศทางตลาดหุ้นในอนาคตได้ถูกต้องเกิน 50% "
วิเคราะห์ก่อนตลาด :
แต่ผู้โพสต์เองใช้หลักการของ " ทรัมป์ปั่นและทุบหุ้น " มาคาดการณ์ทิศทางตลาดหุ้นในอนาคต ซึ่งมีโอกาสถูกสูงมากเกิน 90% ดังนี้ คือ :
1) เป็นการคาดการณ์ตลาดหุ้นขาขึ้นโดยสังเกตุ และติดตามจากการที่ " ทรัมป์ปั่นหุ้น " ดังนี้ คือ :
1.1) การปั่นครั้งที่ 1 :
1.1.1) Down Jones ปรับตัวขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2559 ซึ่งเป็นวันก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งที่แล้ว 1 วัน ที่ 18,333 จุด มาจนถึงวันที่ 3 ตุลาคม ปี พ.ศ 2561 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในรอบก่อนหน้านี้ที่ 26,951 จุด หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น ( 26,951 - 18,333 ) / 18,333 x 100 = +47.01%
1.1.2) Set Index ปรับตัวขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน ปี พ.ศ 2559 ซึ่งเป็นวันก่อนวันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาครั้งที่แล้ว 1 วัน ที่ 1,510 จุด มาจนถึงวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ 2561 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 1,852 จุด หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น ( 1,852 - 1,510 ) / 1,510 x 100 = +22.65%
1.2) การปั่นครั้งที่ 2 :
1.2.1) Down Jones ปรับตัวขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม ปี พ.ศ. 2561 ที่ 21,712 จุด ซึ่งเป็นจุดตํ่าสุดในรอบล่าสุด เนื่องจากเฟดปรับดอกเบี้ยถี่และบ่อยเกินไปถึง 4 ครั้ง ในปี พ.ศ 2561 มาจนถึงวันที่ 16 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2562 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 27,398 จุด หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น ( 27,398 - 21,712 ) / 21,712 x 100 = +26.19%
1.2.2) Set Index ปรับตัวขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม ปี พ.ศ. 2561 ที่ 1,546 จุด ซึ่งเป็นจุดตํ่าสุดในรอบล่าสุด เนื่องจากเฟดปรับดอกเบี้ยถี่และบ่อยเกินไปถึง 4 ครั้ง ในปี พ.ศ 2561 มาจนถึงวันที่ 11 กรกฎาคม ปี พ.ศ 2562 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในรอบล่าสุดที่ 1,748 จุด หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น ( 1,748 - 1,546 ) / 1,546 x 100 = +13.07%
ส่วนวิธีการ " ปั่นหุ้นของทรัมป์ " นั้น ก็เป็นการชักชวนให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนซื้อหุ้นในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา เพราะหุ้นสหรัฐอเมริกามีราคาถูก และมีอนาคตดี การให้คําแนะนําเฟดให้ลดดอกเบี้ยเพื่อให้ต้นทุนทางการเงินถูกลง การให้คําแนะนําให้โอเปคไม่ให้กําลังการผลิต ราคานํ้ามันจะได้มีราคาถูก และส่งผลดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา และเศรษฐกิจโลกโดยรวม ตลอดจนบริหารประเทศโดยเน้นนโยบาย Supply Side Economics จนทําให้เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาดี ชาวอเมริกันว่างงานตํ่า และตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทําจุดสูงสุดตลอดกาลแบบนับครั้งไม่ถ้วนผ่าน @realDonaldTrump และการที่ทรัมป์ปั่นหุ้นสหรัฐอเมริกา ก็ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยได้รับอานิสงค์ปรับตัวขึ้นตามไปด้วย เพราะเศรษฐกิจไทยพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก
2) เป็นการคาดการณ์ตลาดหุ้นขาลงโดยสังเกตุ และติดตามจากการที่ " ทรัมป์ทุบหุ้น " ดังนี้ คือ :
ทรัมป์ทุบหุ้นส่วนใหญ่ในประเด็นการค้ากับจีนผ่าน @realDonaldTrump มาแล้ว 3 ครั้งหลักๆ และล่าสุดดังนี้ คือ :
2.1) การทุบครั้งที่ 1 : จากการที่ทรัมป์ปรับขึ้นภาษีจาก 10% เป็น 25% จากสินค้า 200,000 ล้าน USD เดิม เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ปี พ.ศ 2562 และมีผลต่อตลาดหุ้นดังนี้ คือ :
2.1.1) Down Jones ทําจุดตํ่าสุดที่ 24,680 จุด เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ปี พ.ศ 2562
2.1.2) Set Index ทําจุดตํ่าสุดที่ 1,599 จุด เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ปี พ.ศ 2562
2.2) การทุบครั้งที่ 2 : จากการที่ทรัมป์ปรับขึ้นภาษีจาก 0% เป็น 10% จากสินค้าที่เหลืออีก 300,000 ล้าน USD เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ปี พ.ศ 2562 และมีผลต่อตลาดหุ้นดังนี้ คือ :
2.2.1) Down Jones ทําจุดตํ่าสุดที่ 25,339 จุด เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ปี พ.ศ 2562
2.2.2) Set Index ทําจุดตํ่าสุดที่ 1,590 จุด เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ปี พ.ศ 2562
2.3) การทุบครั้งที่ 3 : จากการที่ทรัมป์ปรับขึ้นภาษี จำนวน 300,000 ล้าน USD เดิมจาก 10% เป็น 15% และให้มีผลวันที่ 1 กันยายน ปี พ.ศ 2562 ครึ่งหนึ่ง และวันที่ 15 ธันวาคม ปี พ.ศ 2562 อีกจํานวนครึ่งหนึ่ง และจำนวน 250,000 ล้าน USD เดิม จาก 25% ที่เก็บอยู่แล้วเป็น 30% เริ่มวันที่ 1 ตุลาคม ปี พ.ศ 2562 ( และท้ายที่สุดก็เลื่อนมาเป็นวันที่ 15 ตุลาคม ปี พ.ศ 2562 ในเวลาต่อมา ) เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ปี พ.ศ 2562 และมีผลต่อตลาดหุ้นดังนี้ คือ :
2.3.1) Down Jones ทําจุดตํ่าสุดที่ 25,507 จุด เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ปี พ.ศ 2562
2.3.2) Set Index ทําจุดตํ่าสุดที่ 1,609 จุด เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ปี พ.ศ 2562