เมื่อไม่นานมานี้มีรายงานว่ามหาเศรษฐีระดับโลกอย่างวอเร็น บัฟเฟตต์ เข้าซื้อหุ้นบริษัท Apple Inc. ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือตระกูล Iphone Ipad โดยถือหุ้นอยู่ 9.8 ล้านหุ้น โดยใช้เงินไปแล้วกว่า 900 ล้านเหรียญสหรัฐ
บัฟเฟตต์ได้ชื่อว่าเป็นนักลงทุนเน้นคุณค่า เขาจะไม่ซื้อบริษัทที่เขาคิดว่าราคาแพงเกินไป เขาเน้นแต่การลงทุนที่สมเหตุสมผลเท่านั้น ซึ่งนั้นหมายความว่าราคาหุ้น Apple อยู่ในระดับที่สมเหตุสมผลใช่หรือไม่ ? นี้เป็นคำถามที่นักลงทุนต่างคิดกัน แล้วคำถามต่อมา คือ เราควรจะซื้อหุ้นตามวอเร็น บัฟเฟตต์ เป็นเรื่องที่ควรกระทำหรือเปล่า ??
เรามาดูกันว่าบัฟเฟตต์มีวิธีคิดอย่างไร ...
การประเมินมูลค่า
ต้องยอมรับอย่างนึงว่า Apple เป็นบริษัที่มีกระแสเงินสดค่อนข้างดี มีเงินสดเต็มบริษัท คำว่า "เงินสดเต็มมือ" (cash-rich company) ในทางพื้นฐานดูค่อนข้างน่าสนใจ และหนี้สินค่อนข้างต่ำประมาณ 35 เท่าเมื่อเทียบกับขนาดของสินทรัพย์ ถ้าเราเปิดบทวิเคราะห์ดูจะพบว่าโบรคเกอร์ให้ค่า PE Forward ที่ 10.7 เท่า ถือว่าค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับค่า PE ของ ดัชนี NASDAQ และค่า PEG ที่ 1.1 เท่า ซึ่งถ้าเรารวมถึงการเติบโตไปแล้ว หุ้นตัวนี้จะไม่คืนทุนให้เราที่ 10 เท่า แต่ด้วยการเติบโตจะทำให้ผู้ถือหุ้นคืนทุนที่ 5 ปี โดยเฉลี่ย
ไม่มีใครซื้อหุ้นได้ที่จุดต่ำสุด แม้แต่บัฟเฟตต์เองก็ตาม
เรื่องของปันผล สำคัญที่สุด แต่นักลงทุนกลับละเลยมันมากที่สุด
อย่างที่กล่าวไว้ข่างต้น เรื่องของปันผล เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด แต่ทำไมนักลงทุนจึงละเลยมันมากที่สุด ก็เพราะว่าพวกเขาสนใจแต่ราคาหุ้นยังไงละครับ แต่สำหรับนักลงทุนชั้นเซียนอย่างบัฟเฟตต์แล้ว มันเป็นปัจจัยสำคัญเลยทีเดียว ถ้าเราดูข้อมูลย้อนหลัง Apple ไม่เคยมีการจ่ายปันผลเลย จนกระทั่งไม่กี่ปีที่ผ่านมา และมันก็เติบโตขึ้นทุกปี
การเติบโตเป็นปัจจัยสำคัญ ยิ่งบริษัทเติบโตมาก อาจจะมีปันผลน้อยสักหน่อย แต่บริษัทโตขึ้นทุกปี สุดท้ายแล้วมันจะลงเอยด้วยคำว่า ปันผลหนัก ในประวัติศาสตร์หุ้นหลายๆตัวที่เติบโตดี สุดท้ายมักจะเป็นหุ้นปันผลยอดนิยมในเวลาต่อมา
Apple Inc. มีปันผลเฉลี่อยู่ที่ 2.4% ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว ถ้าปันผลเติบโตขึ้นทุกปี นักลงทุนก็ไม่จำเป็นที่จะต้องขายมัน
วอเร็น บัฟเฟตต์ มองเห็นว่า Apple เต็มไปด้วยเงินสด ดังนั้นแน่นอนว่า จะต้องจ่ายเพิ่มขึ้นทุกปีแน่นอน
ปันผลของบริษัทเติบโตขึ้นทุกปี และหุ้นเติบโตมักจะจบลงด้วยหุ้นปันผล เมื่อบริษัทเต็มอิ่มแล้วกับการเติบโต
สรุป
หุ้น Apple อยู่ในกลุ่มหุ้นเติบโตที่มีปันผล แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่า นักลงทุนจะให้ค่าพรีเมียมกับมันมากนัก และการเดินตามคนส่วนใหญ่หรือแม้กระทั่งซื้อหุ้นตามเซียน มันก็เห็นได้ชัดว่าจะเป็นหนทางไปสู่การขาดทุน ดังนั้นแล้วถ้าคุณไม่ได้ทำการบ้านหุ้นตัวนี้มา ก็ไม่ควรที่จะซื้อหุ้น เพราะหุ้น Apple ในทางพื้นฐานถือว่าไม่ได้ถูกอะไรมาก
แต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า Apple เป็นธุรกิจเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงเร็วและดูเหมือนว่าจะก้าวตามทันโลกไม่ว่าจะเป็นการผลิตโทรศัพท์มือถือซึ่งถือว่าการแข่งขันกันสูง แต่บริษัทพยายามจะหันไปเอาดีทางอื่น ไม่ว่าจะเป็นบริการเรียนรถแท็กซี่ Uber การสร้างระบบคอมพิวเตอร์ให้มันขับรถเองในอุตสาหกรรมยานยนต์ การฟังเพลงออนไลน์ผ่านอินเตอร์เน็ต การจ่ายเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นเรื่องของอนาคตทั้งสิ้น