เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า LTF จะหมดอายุลงในปีนี้ หลังจากนั้นจะมีการก่อตั้งกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF : Super Savings Fund) พร้อมกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับการซื้อกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ขึ้นมาแทนที่ เชื่อว่าเม็ดเงินลงทุนที่จะไหลเข้ามา เมื่อเทียบกับ LTF แล้ว น่าจะลดลงมากกว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งจะส่งผลทำให้ตลาดหุ้นไทย ขาดเม็ดเงินที่จะเข้ามาขับเคลื่อนตลาดหุ้นในปี 2563 อย่างมีนัยฯ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือน ธันวาคม 2562 ยังจะเห็นแรงขับเคลื่อนจากเม็ดเงินลงทุนที่ไหลเข้ามาซื้อ LTF ก่อนสิ้นปี(เป็นรอบสุดท้าย) ซึ่งในเดือน พ.ย. 2562 ที่ผ่านมา สถาบันฯซื้อสุทธิเพียง 2.5 พันล้านบาทเท่านั้น แต่จากสถิติย้อนหลัง 10 ปี พบว่า สถาบันฯซื้อสุทธิหุ้นไทยช่วง 2 เดือนสุดท้ายเฉลี่ยสูงถึง 2.08 หมื่นล้านบาท (ซื้อสุทธิ 9 ใน 10 ปี) ดังนั้นในปี 2562 นี้ นักลงทุนยังซื้อ LTF น้อยอยู่ จึงมีโอกาสที่จะเห็นแรงซื้อที่จะมากระจุกตัวในเดือน ธ.ค. 2562 นี้มากขึ้น
ดังนั้น ฝ่ายวิจัยจึงทำการคัดกรองหุ้นที่นักลงทุนสถาบันฯนิยมซื้อสะสมในช่วงโค้งสุดท้ายของปี เริ่มจากค้นหารายชื่อหุ้นที่กองทุน LTF นิยมลงทุนมากที่สุด ในกองทุน LTF ทั้งหมด 93 กองทุน มีมูลค่าของทรัพย์สินสุทธิรวมกันกว่า 3.87 แสนล้านบาท (ข้อมูล ณ สิ้นเดือน ต.ค. 2562) โดยได้รายชื่อหุ้น 20 หลักทรัพย์ที่กองทุนนิยมถือมากที่สุด ตัวอย่างเช่น PTT 8.5%, CPALL 7.7%, AOT 4.9%, BBL 4.0%, ADVANC 3.6% และ ฯลฯ
#ASPSResearch
Asia Plus Group : http://bit.ly/TeleAsiaplusgroup