โดย ELEVEN7
เผยแพร่ : 
257 viewsCPALL คาดปี 66 ยอดขายโตไม่ต่ำ 3-4%
ตั้งเป้าขยายสาขา 7-Eleven ในไทยครบ 14,538 แห่ง
เดินหน้าบุกตปท. รุกขยายสาขากัมพูชา-ลาวเพิ่ม
.
นางสาวจิราพรรณ ทองตัน หัวหน้านักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL เปิดเผยว่า แนวโน้มยอดขายในสาขาเดิม (SSSG) ในปี 2566 จะเติบโตไม่ต่ำกว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (GDP) ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 3-4% จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น
.
ทั้งนี้ ประเมิน SSSG ยังมีปัจจัยหนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เพิ่มสูงกว่าคาด การกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และการเลือกตั้งที่น่าจะเป็นประเด็นเชิงบวกชั่วคราวได้ รวมถึงในไตรมาส 2/66 คาดอุณหภูมิจะสูงขึ้นจากปรากฏการณ์เอลนีโญ ช่วยหนุนยอดขายกลุ่มเครื่องดื่มให้ปรับตัวดีขึ้น
.
สำหรับการขยายสาขา 7-Eleven ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าขยายสาขาในประเทศ 700 สาขา ส่งผลให้สิ้นปีจะมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 14,538 สาขา จากปีก่อนที่ 13,838 สาขา โดยคาดว่าจะช่วยสนับสนุนยอดขายราว 5-6%
.
ส่วนแผนขยายสาขาต่างประเทศ ปัจจุบันบริษัทได้สิทธิการบริหารจัดการ 2 ประเทศ คือ กัมพูชา และลาว โดยปี 2565 มีการขยายสาขาในกัมพูชาไปแล้ว 38 สาขา ส่งผลให้สิ้นปีก่อนมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 42 สาขา ซึ่งปี 2566 บริษัทตั้งเป้าจะขยายสาขาเพิ่มราว 30-40 สาขา เพราะมองว่าเป็นประเทศที่มีศักยภาพ สามารถเติบโตต่อเนื่องได้ในอนาคต
.
ขณะที่ลาว เนื่องจากเป็นประเทศที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก มีจำนวนประชากรราว 8,000 คน บริษัทจึงวางแผนจะขยายสาขาในปีนี้ 1-2 สาขา ควบคู่ไปกับการประเมินศักยภาพ โดยอยู่ระหว่างพิจารณาว่าครึ่งปีแรกจะสามารถเปิดได้ 1 สาขาหรือไม่
.
ส่วนงบลงทุน ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 12,000 – 13,000 ล้านบาท แบ่งเป็น งบในการขยายสาขาใหม่จำนวน 3,800 - 4,000 ล้านบาท, งบสำหรับปรับปรุงสาขาเดิมประมาณ 1,000 สาขา จำนวน 2,900 - 3,500 ล้านบาท, งบสำหรับโครงการใหม่ บริษัทย่อย และศูนย์กระจายสินค้าจำนวน 4,000 - 4,100 ล้านบาท และสินทรัพย์ถาวร รวมถึงระบบสารสนเทศจำนวน 1,300 - 1,400 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีงบลงทุนสำหรับธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกซึ่งบริษัทวางไว้ที่ประมาณ 25,300-27,500 ล้านบาท
.
นอกจากนี้ บริษัทจะมีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดใน 12 เดือนข้างหน้าจำนวน 25,555 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมีวงเงินบางส่วนจากการออกหุ้นกู้ 12,000 ล้านบาท เพื่อรีไฟแนนซ์แล้ว ด้านหุ้นกู้ที่อยู่ภายใต้ของบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO มีบางส่วนเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยยังลอยตัวและสูงกว่าตลาด โดย MAKRO มีแผนจะชำระหนี้คืน หรือรีไฟแนนซ์เงินกู้ให้อยู่ในรูปของสกุลเงินบาทและมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ คาดว่าในไตรมาส 2/66 อาจมีโอกาสออกหุ้นกู้บางส่วน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของ ก.ล.ต. คาดว่าจะเห็นความชัดเจนเร็วๆ นี้
