เชือด "หมอบุญ" สร้างข่าว THG

เชือด "หมอบุญ" สร้างข่าว THG / สุนันท์ ศรีจันทรา

แม้เป็นความผิดไม่ร้ายแรง โทษปรับเพียง 2 ล้านบาทเศษ แต่เป็นคดีที่ได้รับความสนใจจากสาธารณชนไม่น้อย สำหรับ นายแพทย์บุญ วนาสิน ประธานกรรมการบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ จำกัด (มหาชน) หรือ THG ซึ่งถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักรัพย์ (ก.ล.ต.) ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่ง ฐานเผยแพร่ข้อความอันอาจก่อให้เกิดความสำคัญผิด เกี่ยวกับผลดำเนินงานและราคาหุ้น THG

เมื่อวันศุกร์ที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา ก.ล.ต.ได้ประกาศลงโทษปรับนายแพทย์บุญ จำนวนเงิน 2.34 ล้านบาท เนื่องจากตรวจสอบพบว่า วันที่ 12 กรกฎาคม 2564 ถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2564 นายแพทย์บุญซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินธุรกิจของ THG ได้บอกกล่าวหรือเผยแพร่ข้อความต่อสื่อหลายแห่ง ทั้งสื่อโทรทัศน์และสื่อออนไลน์ว่า THG จะลงนามในสัญญาซื้อขายเพื่อนำเข้าวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ชนิด mRNA ยี่ห้อ Pfizer และจะรับมอบวัคซีนดังกล่าวจำนวน 5 ล้านโดสแรกภายในเดือนกรกฎาคม 2564

แต่ไม่ปรากฏว่า THG ได้มีการลงนามในสัญญานำเข้าวัคซีนภายในเดือนกรกฏาคมจริง และช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2564 นายแพทย์บุญยังยืนยันการนำเข้าวัคซีนภายในเดือนสิงหาคม 2564 แต่ต่อมายอมรับว่า ไม่สามารถนำเข้าวัคซีนตามที่เคยให้ข่าว ซึ่งข้อความที่นายแพทย์บุญเผยแพร่ อาจทำให้ผู้ลงทุนเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับผลการดำเนินงานหรือข้อมูลอื่นใดของ THG ที่น่าจะมีผลกระทบต่อราคาหรือต่อการตัดสินใจลงทุนหุ้น THG จึงสั่งลงโทษปรับ และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์เป็นเวลา 42 เดือน

คดีความผิดในตลาดหุ้น มักใช้เวลาหลายปี ก่อนสรุปและดำเนินมาตรการลงโทษหรือกล่าวโทษ แต่คดีหมอบุญ ก.ล.ต.ใช้เวลาเพียง 1 ปีเท่านั้น ซึ่งรวดเร็วมาก เมื่อเปรียบเทียบคดีอื่นที่อาจใช้เวลาถึง 4-5 ปี และถ้าทุกคดีความผิดในตลาดหุ้น ก.ล.ต.สามารถปิดสำนวนได้เร็วเหมือนกรณีหุ้น THG น่าจะเป็นสิ่งที่ดี

สำหรับหมอบุญ โทษปรับเพียง 2 ล้านบาทเศษ คงไม่มีปัญหาในการชำระ แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่าคือ ภาพพจน์ทางสังคม เพราะการถูก ก.ล.ต.ลงโทษในการสร้างข่าวนำเข้าวัคซีน เข้าข่ายการปล่อยข่าย เพื่อกระตุ้นราคาหุ้น THG

และในช่วงที่หมอบุญเดินสายปล่อยข่าวเตรียมเซ็นสัญญานำเข้าวัคซีนจาก Pfizer ราคาหุ้น THG ก็ขยับขึ้นขานรับข่าวเสียด้วย นอกจากนั้น ในระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกรกฏาคม 2564 นางจารุวรรณ วนาสิน ภรรยาหมอบุญยังทยอยซื้อหุ้น รวมทั้งสิ้น 1,050,000 ล้านหุ้น วงเงินรวม 30.48 ล้านบาท ก่อนที่หมอบุญจะเผยแพร่ข่าวการเซ็นสัญญานำเข้าวัคซีน จนถูกตั้งข้อสงสัยในพฤติกรรมอินไซด์หรือการนำข้อมูลภายในมาใช้แสวงหาประโยชน์จากการซื้อขายหุ้น

การออกข่าวในเชิงบวก เพื่อกระตุ้นราคาหุ้น เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ไม่มีการลงโทษผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนอื่นๆเหมือนกรณีหมอบุญเท่านั้น

ผู้บริหารจดทะเบียนจำนวนไม่น้อย ขยันสร้างข่าว มีเรื่องราวคุ้ยโม้ เพื่อปั่นราคาหุ้นเป็นระยะๆ โดยมักจะพูดถึงแนวโน้มการเติบโตของผลประกอบการที่เกินจริง บางคนขายฝันการขยายการลงทุนที่สดใส เข้าข่ายโฆษณาชวนเชื่อ ปลุกเร้าให้นักลงทุนแห่เข้ามาเก็งกำไรหุ้นตัวเอง ทำให้นักลงทุนสำคัญผิดเกี่ยวกับผลดำเนินงานและราคาหุ้นของบริษัทจดทะเบียน แต่กลับไม่ถูก ก.ล.ต.เล่นงาน

คดีหมอบุญ ไม่น่าเป็นเพียงการเชือดไก่ให้ลิงดู แต่ควรเป็นจุดเริ่มต้น ในการเล่นงาน บรรดาผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนขี้โม้ ที่มักจะปั้นข่าวดี ปั่นราคาหุ้น หรือชอบแต่งนิยายแหกตานักลงทุน