MAKRO ปัจจัยบวกรอบด้าน
ลุ้นเข้า MSCI หนุนเม็ดเงินไหลเข้า 4,000 ล้านบาท

.
บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) หรือ MAKRO ถือเป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่มีความเคลื่อนไหวด้านราคาอาจจะไม่ถูกใจนักลงทุน หรือผู้ถือหุ้นในช่วงที่ผ่านมา เพราะหลังจากเสนอขายหุ้น PO ให้กับนักลงทุนที่ 43.50 บาท ราคาหุ้นก็ปรับตัวลดลงสู่ระดับที่ต่ำกว่าราคา PO มาโดยตลอด
.
ทั้งนี้ในช่วงปี 2565 ราคาเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบประมาณ 32-34 บาท ขณะเดียวกันเข้าสู่ช่วงของการเปิดศักราชใหม่ปี 2566 ราคาหุ้น MAKRO ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นอีกครั้ง มาสู่ระดับที่ 40 บาท และหลังจากนั้นก็กลับมาทำจุดเท่ากับราคา PO ที่ 43.50 บาท ได้ในวันที่ 16 ม.ค.2566 ที่ผ่านมา
.
นอกเหนือจากเรื่องราคาหุ้นแล้ว MAKRO ยังมีสตอรี่ที่คอยสนับสนุนราคามาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเปิดเมืองเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบที่จะช่วยหนุนยอดขายของแต่ละสาขาให้เติบโตขึ้น และการเปิดประเทศอย่างเป็นทางการของจีน และการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่จะทวีคูณส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้น
.
โดย นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้คำแนะนำ "ทยอยสะสม" ประเมินราคาเป้าหมายที่ 48 บาทต่อหุ้น ซึ่งคาดว่า MAKRO ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และกำลังซื้อมีต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่ม HoReca ในช่วงไตรมาส 1/66 ได้แรงหนุนจากมาตรการรัฐ ช้อปดีมีคืน และการกลับมาของนักท่องเที่ยว
.
สำหรับการรวมกันระหว่าง MAKRO และ LOTUS จะเริ่มมี Synergy มากขึ้น จากสินค้าที่เพิ่มความหลากหลาย การบริหารจัดการภายในเพื่อลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายจะทำได้ดีขึ้น สำหรับผลกระทบจากภาระดอกเบี้ยที่สูงจะได้รับการแก้ไข ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566
.
ทั้งนี้คาดว่าปี 2566 จะเป็นปีแห่งการเติบโตของ MAKRO จากการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติและการบริโภคในประเทศฟื้นตัว รวมทั้ง Catalyst คือ การจัดการเลือกตั้ง ที่เป็นตัวหนุนกำไรในปีนี้ให้เติบโต โดยคาดว่าจะมีกำไรในงวดปี 2566 ที่ระดับ 1.39 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 60% จากปีก่อน
.
อีกทั้งยังมีประเด็นบวกที่ส่งผลโดยตรงต่อราคาหุ้น คือการถูกเพิ่มเข้าสู่ดัชนี MSCI ซึ่งจะประกาศช่วงเช้าวันที่ 10 ก.พตามเวลาประเทศไทย หลัง Free Float เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 15% ตามเกณฑ์ของ MSCI แล้ว ดังนั้น ด้วยขนาด Market Cap ที่สูงถึงราว 4.5 แสนล้านบาท หากถูกเพิ่มเข้าสู่ดัชนี คาดจะมีเม็ดเงินไหล เข้าสูงถึง 120 ล้านเหรียญสหรัฐเทียบราว 4,000 ล้านบาท