ลักษณะของหุ้น 5 ประเภท
หุ้นในตลาดนั้นมีอยู่มากมาย และนักลงทุนแต่ละท่านก็มีวิธีการแยกประเภทหุ้นแตกต่างกัน เช่นแยกตามกลุ่มอุตสาหกรรม การแยกประเภทของหุ้นนั้นทำให้นักลงทุนสามารถกระจายความเสี่ยงและคาดหวังผลตอบแทนและกำหนดความเสี่ยงได้เหมาะสมมากขึ้น ในที่นี้ขอแบ่งประเภทของหุ้นตามลักษณะของหุ้นเป็น 5 ประเภท ดังนี้
Blue-chip Stock
เป็นลักษณะของหุ้นขนาดใหญ่ที่มีผลประกอบการมั่นคง ไม่ได้มีการเติบโตที่สูงมากนักแต่ มีการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ อัตราการเติบโตของหุ้นกลุ่มนี้อยู่ประมาณ 10-15 % ต่อปี มักเป็นตัวกำหนดดัชนี้หลักทรัพย์ ขอดีของการมีหุ้นกลุ่มนี้ในพอร์ต คือ ลดความผันผวนของพอร์ตได้ เวลาหุ้นในตลาดปรับตัวลง หุ้นกลุ่มนี้จะปรับตัวลงไม่มาก ความเสี่ยงต่ำ หากเป็นนักลงทุนมือใหม่หุ้นกลุ่มนี้สามารถเป็นหุ้นกลุ่มแรกๆที่น่าซื้อไว้ในพอร์ต เนื่องจากไม่เสี่ยงมาก ผันผวนไม่มาก ไม่จำเป็นต้องติดตามราคาตลอดเวลา ตัวอย่างหุ้น เช่น ADVANC CPALL
Growth Stock
เป็นหุ้นของบริษัทที่ทำกำไรได้สูงขึ้นเป็นเวลาอันรวดเร็ว มีอัตราของรายได้และยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีแนวโน้มจะสามารถเพิ่มรายได้และกำไรต่อไปได้ในอนาคต ส่วนใหญ่เป็นบริษัทขนาดเล็กที่เพิ่งพ้นจากช่วงลงทุน บางบริษัทสามารถโตขึ้นมากกว่า 100% ต่อปี หุ้นกลุ่มนี้จำเป็นที่จะต้องนำเงินกำไรที่ได้กลับไปลงทุน ทำให้มีอัตราการจ่ายเงินปันผลต่ำหรือไม่จ่ายเลย แต่ราคาหุ้นจะเพิ่มสูงขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว และเร็วกว่าหุ้นกลุ่มอื่นๆ เหมาะกับนักลงทุนวัยหนุ่มสาวที่ยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินจากเงินปันผลแต่รักษาระดับความมั่งคั่งในหุ้น แต่การลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้มีข้อควรระวัง คือ หากเมื่อใดที่หุ้นไม่สามารถทำกำไรได้ตามที่นักลงทุนคิดไว้ ราคาหุ้นจะล่วงลงอย่างรวดเร็วมากกว่าหุ้นประเภทอื่นๆ ตัวอย่างหุ้น เช่น CENTEL MTLS
Cyclical Stock
หุ้นที่มีราคาขึ้นลงตามผลประกอบการอย่างชัดเจน โดยผลประกอบการเป็นไปตามลักษณะของธุริจ หากเศรษฐกิจดีหุ้นกลุ่มนี้จะขึ้น หากเศรษฐกิจซบเซาผลการดำเนินงานตกต่ำราคาหุ้นก็จะลดลงเป็นเวลานาน การเล่นหุ้นกลุ่มนี้จังหวะการเข้าออกจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก จังหวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวจึงเป็นสัญญาณให้ขายหุ้นกลุ่มนี้ออกไป เมื่อหุ้นกลุ่มนี้อยู่ในภาวะตกต่ำมาป็นเวลานานและมีสัญญาณให้เข้าให้เข้าซื้อเพราะเมื่อใดที่หุ้นกลุ่มนี้กลับมาจะสามารถสร้างผลตอบแทนได้สูงมาก ตัวอย่างหุ้น เช่น MILL UPOIC
Defensive Stock
เป็นลักษณะของหุ้นที่ไม่ค่อยขึ้นลงตามสภาพเศรษฐกิจ มีผลประกอบการที่มั่นคง บริษัทยังคงสามารถจ่ายปันผลได้อย่างต่อเนื่อง แต่อยู่ในช่วงอิ่มตัวไม่ค่อยมีการลงทุนใหม่ๆ ราคาหุ้นค่อนข้างนิ่งไม่ผันผวน มีความเสี่ยงต่ำ อยู่ในอุตสาหกรรมที่ผลิตสิ่งของที่จำเป็นต้องกินต้องใช้หุ้นกลุ่มนี้เหมาะกับการซื้อลงทุนเมื่อราคาลดลง เพราะราคาจะกลับมาได้ไม่ยาก อีกทั้งมักจ่ายปันผลสูง แต่ก็คาดหวังผลตอบแทนได้น้อยด้วยเช่นเดียวกัน ตัวอย่างหุ้น เช่น CPF INTUCH
Speculative Stock
เป็นลักษณะของหุ้นที่โดยทั่วไปไม่ได้มีผลประกอบการที่ดีมาก บางครั้งอาจค่อนไปทางแย่ด้วยซ้ำ แต่เป็นหุ้นที่คนนิยมเข้าไปเก็งกำไร จากการที่ผลประกอบการไม่ได้ดีหรือมีความเสถียรทำให้หุ้นกลุ่มนี้มีความเสี่ยงจากการลงทุนค่อนข้างสูง การแกว่งของราคาที่มากแต่ก็มีโอกาสในการทำกำไรอยู่มากอยากรู้จังหวะใรการเข้าซื้อและขายออก ตัวอย่างหุ้น เช่น SUPER PLE
- Yoo -