ห้องเม่าปีกเหล็ก

กลุ่ม Packaging คาดฟื้นตัวขึ้นครึ่งแรกปี 2567

โดย การ์ตูน
เผยแพร่ :
135 views

กลุ่ม Packaging คาดฟื้นตัวขึ้นครึ่งแรกปี 2567

กำไรสุทธิรวมของกลุ่มไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 1.51 พันลบ. ลดลง 11.8% YoY และ 8.9% QoQ อุปสงค์และราคากระดาศบรรจุภัณฑ์อ่อนแอ โดยเฉพาะในอินโดนีเซีย

 

คาดเติบโตขึ้น YoY และ QoQ ในไตรมาส 4/2567 จากอุปสงค์ที่ฟื้นตัวขึ้นจากทุกกลุ่มจาก ASP ที่เริ่มสูงขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาส

 

คงมุมมองเป็นกลางต่อกลุ่ม นักลงทุนอาจเก็งกำไรในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า ที่กำไรฟื้นตัวขึ้นได้ แต่ความเสี่ยงยังคงอยู่ในครึ่งหลังปีหน้าจากการซื้อกิจการในอนาคต

Highlights

 

สรุปกำไรไตรมาส 3/2566 กำไรสุทธิรวมของกลุ่มบรรจุภัณฑ์ในไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ 1.51 พันลบ. ลดลง 11.8% YoY และ 8.9% QoQ จากราคาและยอดขายกระดาษบรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคที่ลดลงจากอุปสงค์ที่อ่อนแอในจีนและกำลังการผลิตส่วนเกินในภูมิภาค ราคากระดาษบรรจุภัณฑ์ที่ลดลงส่งผลให้ยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) อ่อนตัวลง อย่างไรก็ดี ราคาถ่านหินกลับลดลงซึ่งเป็นต้นทุนพลังงานหลักของผู้ผลิต ราคาถ่านหินอินโดนีเซียลดลง 11% QoQ ซึ่งช่วยทำให้ GPM ทรงตัวได้

 

คาดแนวโน้มการเติบโตดีขึ้นในไตรมาส 4/2566 เราคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 4/2566 จะฟื้นตัวขึ้นจากยอดขายที่คาดปรับเพิ่มขึ้นจากทุกกลุ่ม เราคาดว่ายอดขายในแต่ละประเทศของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเติบโตขึ้น QoQ ตามฤดูกาลจากอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงและคาดว่าการส่งออกไปยังประเทศจีนจะดีขึ้นซึ่งคาดจะส่งผลบวกต่อการส่งออกจากอินโดนีเซียซึ่งมีแนวโน้มขาลงในช่วง 6 ไตรมาสที่ผ่านมา ราคาเยื่อกระดาษเพิ่มขึ้นเช่นกันตามฤดูกาล ขณะเดียวกัน ราคากระดาษบรรจุภัณฑ์เริ่มปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนต.ค. หลายบริษัทในกลุ่มคาดว่าแนวโน้มอุปสงค์และราคาจะดีขึ้นในไตรมาส 4/2566 เราคาดว่ากำไรสุทธิของ SCGP และ UTP จะเติบโตขึ้นทั้ง YoY และ QoQ

 

สิ่งที่คาดหวังในปี 2567? เราเชื่อว่าอุตสาหกรรมจะยังได้รับผลกระทบจากกำลังการผลิตส่วนเกินในปี 2567 จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นของโรงกระดาษบางแห่งในประเทศจีนเริ่มดำเนินการ สำหรับในอนาคตต่อไป เราเชื่อว่าผู้ผลิตหลักบางรายจะเลื่อนและยกเลิกแผนการขยายกำลังการผลิตและมุ่งเน้นไปยังการควบรวมกิจการมากขึ้น เพื่อผนึกกำลังและลดต้นทุนซึ่งคาดจะส่งผลให้ตลาดเข้าสู้สมดุลได้เร็ว อุปสงค์คอนเทนเนอร์บอร์ดทั่วโลกส่งสัญญาณฟื้นตัวขึ้นจากที่ลดลง 6% YoY ในช่วงปลายปี 2565 มาเป็นทรงตัว YoY ด้าน PMI ภาคการผลิตทั่วโลกในเดือนพ.ย.2566 ใกล้เคียงอยู่ที่ 50 ยกเว้นในยุโรปซึ่งบ่งชี้ถึงกิจกรรมการผลิตที่ทรงตัวทั่วโลก ปัจจุบัน จีนรายงานการเติบโตในเชิง MoM ในช่วง 3 เดือนล่าสุดและเราเชื่อว่าจะเติบโตขึ้นต่อเนื่องในปี 2567 โดยเฉพาะตั้งแต่ไตรมาส 2/2567 เป็นต้นไป หากจีนสามารถ roll over หนี้ภาคอสังหาได้

KS มุมมองการลงทุน

 

คงมุมมองเป็นกลางต่อกลุ่ม เราเชื่อว่าแนวโน้มกำไรสุทธิของกลุ่มจะฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งแรกปีหน้าหนุนจากสภาวะเศรษฐกิจจีนที่คาดจะฟื้นตัวขึ้นซึ่งคาดจะส่งผลให้ยอดขายและราคากระดาษบรรจุภัณฑ์ดีขึ้น

 

อย่างไรก็ดี SCGP ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากการซื้อกิจการ PT Fajar Surya Wisesa Tbk (Fajar) ซึ่งคาดจะทำให้กำไรสุทธิครึ่งหลังปีหน้าถูกกดดันจากหนี้สินและค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

 

เราคงคำแนะนำ “ถือ” SCGP ด้วยราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 35.00 บาท

 

เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” UTP และปรับปีฐานราคาเป้าหมายจากกลางปี 2567 เป็นสิ้นปี 2567 ซึ่งส่งผลให้ราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นจาก 13.50 บาท เป็น 14.00 บาท

 

 

 


การ์ตูน