มู้ดนักช้อปไม่สะดุดแม้เจอโอไมครอน ห้างค้าส่ง-ค้าปลีกคนคึกคักส่งท้ายปี นักวิเคราะห์แนะจับตาหุ้นกลุ่มค้าปลีกฟื้นตัวแรงรับปีใหม่

มู้ดนักช้อปไม่สะดุด แม้เจอโอไมครอน ห้างค้าส่ง-ค้าปลีกคนคึกคักส่งท้ายปี นักวิเคราะห์แนะจับตาหุ้นกลุ่มค้าปลีกฟื้นตัวแรงรับปีใหม่ 

แม้ว่าประเทศไทยจะได้รับรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด19 สายพันธุ์โอมิครอนจำนวนเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับช่วงจังหวะส่งท้ายปลายปีที่ผู้คนจะต้องออกมาจับจ่ายใช้สอย หาซื้อของขวัญของฝาก ก็สร้างความกังวลใจให้หลายฝ่ายว่าจะกระทบกับยอดขายและรายได้ในช่วงปลายปี 

แต่หากสังเกตดีๆ ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ที่ผ่านมา ภาพรวมบรรยากาศในศูนย์การค้าแต่ละแห่งดูที่ค่อนข้างคึกคัก โดยเฉพาะห้างค้าปลีกต่างๆ ที่จัดโปรโมชั่นออกมาเรียกลูกค้าส่งท้ายปี รวมถึงร้านอาหาร-ร้านแบรนด์เนมที่มีการตกแต่งประดับประดาต้อนรับเทศกาลปีใหม่ ก็คับคั่งไปด้วยบรรดาประชาชนที่ออกมาจับจ่าย รับประทานอาหาร เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่มีการฉีดวัคซีนกันแล้ว และรู้วิธีป้องกันระมัดระวังตัวเองในระดับนึง จึงมีความมั่นใจในการออกใช้ชีวิตกันเกือบเป็นปกติ 

ทั้งนี้นักวิเคราะห์หุ้นหลายสำนัก ออกมาประเมิณถึงภาพรวมเทรนด์การลงทุนในช่วงปีใหม่นี้ โอกาสที่จะได้เห็นการกลับมาของนักลงทุนต่างชาติอีกครั้ง หลังจากซบเซาในช่วงปลายปี เนื่องจากคาดว่านักลงทุนต่างชาติมองว่าแนวโน้มทางเศรษฐกิจของไทยมีความสดใสมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีกที่มีการปรับโครงสร้างเรียบร้อยแล้ว เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง บวกกับหุ้นหลายตัวที่มีโครงสร้างพื้นฐานดีอยู่แล้ว  ซึ่งคาดว่าเหล่าบรรดาหุ้นใหญ่ที่เป็นที่หมายตาของนักลงทุน จะเห็นผลการเติบโตภายในไตรมาสแรกต้นปี  โดยเฉพาะกลุ่มค้าปลีกที่มีพื้นฐานดี และมีตัวเลขรายได้กลับมาเป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากคนเริ่มกลับมาจับจ่ายใช้สอย และจำนวนการซื้อของออนไลน์จากกลุ่มค้าปลีกที่สูงขึ้น ทำให้เป็นรายได้ใหม่

นอกจากนี้นักวิเคราะห์ ยังมองว่า ในสถานการณ์แบบนี้ นักลงทุนรายย่อยต้องใจแข็งถือยาว เพราะต้นปีภาครัฐมีแนวทางการคลายล็อกดาวน์การควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และวัคซีน มีความเพียงพอ และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจำเป็นต้องทำเชิงรุก รวดเร็ว และใช้เม็ดเงินที่สูง เมื่อเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น การจับจ่ายใช้สอย ก็จะกลับมา และ มีรายได้เติบโตแบบมั่นคง ทำให้ตรงใจกับนักลงทุนแบบคุณค่า (VI) ในการถือยาว

โดยนักวิเคราะห์ยกให้กลุ่มค้าปลีกที่มีปัจจัยสนับสนุนให้ฟื้นตัวแรง เห็นเด่นชัดจากรายใหญ่ อย่างดีลการควบรวมโลตัส และการขายหุ้น PO ของกลุ่ม MAKRO ที่ต้องถือได้ว่า เป็นความท้าทาย เพราะเป็นช่วงเวลาปลายปี ที่มีทั้งสถานการณ์โควิด เงินเฟื้อ และ เงินทุนต่างชาติไหลออกจากหุ้นไทยในช่วงนั้นพอดี เป็นเหมือนกับประเทศอื่นในตลาดเกิดใหม่ เพราะอัตราการฉีดวัคซีนยังน้อยมาก และผลกระทบรอบนี้ส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังไม่ดีขึ้น ซึ่งตลาดเกิดใหม่ยังพึ่งพาเศรษฐกิจต่างประเทศและท่องเที่ยว ทำให้ยังไม่ฟื้น และในระยะสั้นยังคงไม่ไหลกลับเข้ามา ซึ่งการระดมทุนรอบนี้ได้ไปกว่า 50,000 ล้านบาท 

นักวิเคราะห์ ยังเชื่อว่า นักลงทุนต่างชาติ เตรียมไหลกลับมาหลังปีใหม่ เพื่อรับการฟื้นตัวของค้าปลีก และการปรับตัวเข้าสู่อีคอมเมิร์ซ ซึ่งมีดัชนีหลายตัว เป็นเครื่องบ่งชี้สัญญาณบวกในการค้าออนไลน์ ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มค้าปลีก มีให้นักลงทุนเลือกอยู่หลายตัว โดยเสน่ห์ของหุ้นกลุ่มนี้คือ เป็นของที่ต้องกินต้องใช้ ไม่ว่าจะมีวิกฤตอะไรก็ตาม คนยังไม่หยุดบริโภค จับจ่ายใช้สอย โดยเฉพาะนาทีนี้ ไม่ใช่แค่เชื้อโควิดกลายพันธุ์เกิดเป็นโอมิครอน

ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ มองว่า กลุ่มค้าปลีก ก็กำลังซุ่มปรับโครงสร้างสู่การเป็นผู้เล่น O2O E-Commerce เพื่อแข่งขันในตลาดที่กว้างขึ้น จะเห็นได้ว่า ผู้เล่นในกลุ่มค้าปลีก มีอัตราการเติบโตในด้านการสั่งของออนไลน์เติบโตอย่างมาก ตัวอย่างเช่น เซเว่นอีเลฟเว่น ที่มีบริการ ดีลิเวอรี่-O2O หนุนยอดขายเซเว่นไตรมาส 2 โต 6.6% เป็นต้น เชื่อว่าหุ้นพื้นฐานแกร่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่นักลงทุน (VI) เฟ้นหาเพื่อเก็บไว้ในพอร์ตช่วงภาวะตลาดหุ้นผันผวน หรือแม้ช่วงภาวะตลาดสดใส

ด้านภาพรวมแนวโน้มเศรษฐกิจไทย นักวิเคราะห์คาดว่าจะฟื้นตัวในปี 2022 จากที่หดตัวลง 6.1% ในปี 2020 และเติบโต 1.0% ในปี 2021 คาดการส่งออกปี 2022 จะเติบโต 2% การบริโภคภาคเอกชนจะเติบโต 4% เศรษฐกิจรวมจะเติบโต 3.6-4.0% และนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยจำนวน 8 ล้านคน ด้านกำไรของบริษัทจดทะเบียนจะเติบโต 6% ในปี 2022 โดยได้รับปัจจัยหนุนจากเศรษฐกิจรวมที่เติบโต 3-4% นักวิเคราะห์ ยังคาดหมายว่า ต้นปี นักลงทุนต่างชาติจะกลับมา โดยมีแรงหนุนจากการเปิดประเทศเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้น ตลาดหุ้นจะเริ่มฟื้นตัว จนโบรกเกอร์บางสำนักมองว่าดัชนีหุ้นอาจพุ่งทะยานไปแตะที่ 1,700 จุด มีการคาดหมายว่า ในเดือนมกราคม นักลงทุนต่างชาติจะกลับมา โดยมีแรงหนุนจากการเปิดประเทศเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้น ตลาดหุ้นจะเริ่มฟื้นตัว การกลับมาสดใสของหุ้นกลุ่มค้าปลีกจึงเป็นมุมมองที่ไม่ไกลเกินความจริงนัก

เรียบเรียงจาก : ประชาชาติธุรกิจ ,สยามรัฐ