ศบค.เคาะยกเลิก Thailand Pass 1 ก.ค.นี้ - ปรับพื้นที่เป็นสีเขียวทั้งปท.

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันนี้ เพื่ออนุมัติปรับปรุง ผ่อนคลายมาตรการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ติดเชื้อ การแพร่เชื้อที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

.

นอกจากนี้ได้เชิญนายกฯเมืองพัทยา และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ร่วมมือกันทำงานอย่างครบถ้วนทุกเรื่อง พร้อมได้รับฟังข้อแนะนำ ร่วมช่วยกัน ที่เชิญมาเพราะเป็นพื้นที่ท่องเที่ยว ส่วนกทม. มีคุยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหา ต้องเดินหน้าประเทศไปด้วยกัน"

.

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า พร้อมดำเนินการร่วมกับรัฐบาลเต็มที่ และ มติ ศบค.ผ่อนคลายขึ้น เป็นนิมิตรหมายที่ดี หลังการแพร่ระบาดโควิด-19 ผ่อนคลายลง

.

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. เปิดเผยว่า ที่ประชุมเห็นชอบการปรับระดับพื้นที่สถานการณ์ทั่วราชอาณาจักร โดยปรับเป็นที่เฝ้าระวัง (พื้นที่สีเขียว) ทั้งประเทศ พร้อมมาตรการควบคุมและป้องกันโรค 8 มาตรการ โดยยังให้สวมหน้ากาก และสวมตลอดเวลาในสถานที่แออัด สถานที่ปิด หรือที่มีการอยู่ใกล้ชิดจำนวนมาก ส่วนการเปิดการบริโภคสุรา หรือแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร ให้เปิดบริการได้ตามปกติ ส่วนการเปิดสถานบันเทิงให้เปิดบริการตามกฎหมายกำหนด ให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงานได้ตามปกติ ให้ยกเลิกการคัดกรองอุณหภูมิในอาหารสถานที่ ให้เว้นระยะห่างตามความเหมาะสม คัดกรอง ATK กรณีเป็นผู้ป่วยสงสัย

.

" ประเด็นที่ขอให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เปิดสถาบันบันเทิงถึงตี 2 และประเภทกิจการ กิจกรรม มีกฎหมายที่ต้องให้เลขา ศบค. ศึกษาการเชื่อมโยงถึง 3 ฉบับ ให้หาข้อสรุป ดูกฎหมายเก่าและดูว่าจะผ่อนคลายอย่างไร เพื่อจัดการกฎหมาย เพื่อเสนอ ครม. ดังนั้น ณ ตรงนี้ การประกาศพื้นที่และโยงมาตรการ 8 ข้อ ขอให้ทำให้เร็วที่สุด ยังไม่มีการสรุปว่าเป็น 1 ก.ค.นี้"

.

นอกจากนี้ได้ปรับมาตรการป้องกันการเดินทางเข้าราชอาณาจักร โดยยกเลิกการลงทะเบียนระบบ Thailand Pass ทั้งชาวไทยและต่างชาติ แต่ต้องแสดงเอกสารการฉีดวัคซีน หรือผลตรวจเชื้อ ให้ดำเนินการสุ่มตรวจผู้เดินทาง (หากสุ่มแล้วผู้เดินทางไม่มีเอกสารรับรองใดๆ จะสุ่มตรวจ ATK ) และยกเลิกการกำหนดเงินประเทศ แต่ส่งเสริมการซื้อประกัน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.65

.

ทั้งนี้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้รายงานที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ เกี่ยวกับจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1-15 มิ.ย.65 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศสะสม 348,699 ล้านคน มากสุด มาจากมาเลเซีย อินเดีย สิงคโปร์ เวียดนาม และสหรัฐฯ มีรายได้จากนักท่องเที่ยว 99,707 ล้านบาท

.

ส่วนการผ่อนคลายมาตรการทางสังคม ชุมชน และองค์กร ให้ถือเป็นความร่วมมือในการสวมหน้ากากอนามัยโดยความสมัครใจ สถานที่ภายนอก ที่โล่งแจ้ง ให้สวมหน้ากากอนามัย เมื่อร่วมกับบุคคลอื่น ที่ไม่สามารถเว้นระยะห่างได้ ส่วนภายในอาคาร ให้สวมหน้ากากอนามัย

.

"เป็นความห่วงใยที่ค่อยๆผ่อนคลาย เพราะในต่างประเทศ และไม่ควรบุลลี่ คนที่สวมหน้ากากอนามัย ที่ไม่ใช่คนติดเชื้อ หรือเสี่ยงสูง แต่ถือเป็นการสวมใส่เพื่อดูแลตัวเอง อาจอยู่ในพื้นที่มีฝุ่นละออง จึงขอให้เป็นภาพของความสมัครใจ เพราะบางคนก็ไม่อยากถอดหน้ากาก ก็อยากให้คงไว้อยู่"

.

สำหรับแผนการให้บริการวัคซีน โดยมีผู้ได้รับวัคซีนเข้มกระตุ้น มีจนวน 29 ล้านโดส คิดเป็น 41.8% จากเป้าหมายที่วางไว้ 60%%% เพื่อไทยก้าวสู่การประกาศให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขได้ชี้แจงถึงความพร้อมของจำนวนวัคซีน ที่มีพร้อม 150 ล้านโดส แต่ยังมีความเข้าใจผิดของประชาชน และความห่างไกลที่จะให้เข้าถึงวัคซีน จึงต้องขอความร่วมมือประชาชนให้ได้รับวัคซีนได้มากที่สุด เพื่อลดอัตราการป่วยรุนแรงและเสียชีวิต