ดัชนีหุ้นไทยคลายความกังวลความไม่ชัดเจนปัจจัยในประเทศดันดัชนีดีดกลับแรง ด้าน"วรวรรณ ธาราภูมิ" ยอมรับกองทุนฯเข้าพบรองนายกฯ แจงกรณีกองทุนขายหุ้นหนักในระยะที่ผ่านมา และพร้อมให้หน่วยงานกำกับ ตลท.-ก.ล.ต.เข้าตรวจสอบการซื้อขาย ขณะที่กองทุนต่างชาติคลายความกังวลความไม่ชัดเจนภายในประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวดัชนีหุ้นไทย วันที่ 14 ต.ค. 59 ปิดตลาดที่ระดับ 1,477.61 จุด เพิ่มขึ้น 64.79 จุด หรือ 4.59% มูลค่าการซื้อขาย 1.05 แสนล้านบาท โดยตลอดสัปดาห์หรือช่วงระหว่างวันที่ 10-14 ต.ค. 59 พบว่าดัชนีหุ้นไทยมีความผันผวนสูง โดยต้นสัปดาห์ดัชนีหุ้นปรับตัวลดลงแรงจากปัจจัยในประเทศคอยกดดัน และพบว่าในวันที่ 12 ต.ค. มูลค่าการซื้อขายพุ่งขึ้นแตะ 1.3 แสนล้านบาท ทำสถิติสูงสุดในรอบ 41 ปี หรือนับตั้งแต่ก่อตั้งตลาดหุ้น
***กองทุนพร้อมให้ตลท.-ก.ล.ต.เข้าตรวจสอบการซื้อขาย
นางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน ได้ชี้แจงผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัวว่า หากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)จะตรวจสอบพวกเราขอสนับสนุนเต็มที่ อย่าปล่อยให้สังคมคลุมเครือ
ทั้งนี้ คสช.ไม่ได้เรียกผู้จัดการกองทุนเข้าไปปรับทัศนคติตามข่าวลือ คาดว่าน่าจะเป็นการส่งไลน์ในกลุ่มเล่นหุ้นที่ประสงค์ร้ายต่อรัฐบาลและความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ในช่วงเช้าของวันที่ 14 ต.ค. 59 บริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน(บลจ.) ได้รับคำเชิญจากนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ให้เข้าพบที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมี บลจ. 8 แห่ง ได้แก่ ค่ายกองทุนบัวหลวง กองทุนไทยพาณิชย์ กองทุนกรุงไทย กองทุน MFC กองทุนวรรณ กองทุน CIMBT กองทุนทหารไทย และกองทุนทิสโก้
โดยรองนายกฯ ได้เล่าถึงความเชื่อมั่นจากภาคธุรกิจต่างประเทศที่มีต่อไทยเพิ่มขึ้น และเล่าถึงการเปลี่ยนผ่านภายในประเทศที่จะราบรื่น ขณะที่ทางด้าน บลจ. ได้เล่าถึงมุมมองที่มีต่ออนาคต คำถามจากผู้จัดการกองทุนต่างประเทศ ซึ่งไม่มีอะไรในเชิงลบ? และได้เรียนรองนายกฯ ถึงภาวะตลาดหุ้นโดยรวมในระยะที่ผ่านมา โดยพบว่าเห็นกระแสเงินสดไหลเข้ามาซื้อกองทุนรวมหุ้นมากกว่าปกติ โดยเฉพาะใน LTF และ RMF ในทุกวันที่ตลาดกระชากลงแรงๆ
รวมถึง สาเหตุที่กองทุนจำเป็นต้องขายสุทธิเพราะเป็นจังหวะต้องจ่ายเงินให้ผู้เกษียณสำหรับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และต้องปรับการซื้อขายตามสภาพตลาดเพราะบางกองฯเป็น Index Fund และได้ชี้แจงเพิ่มเติมไปว่าในเชิงจิตวิทยาการลงทุนนั้น ที่ผ่านมามันมี Uncertainty จึงทำให้ผู้เล่นในตลาดที่ไม่เข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหน มีปฏิกิริยา เพราะเขาไม่ชัดเจนในเรื่องนี้
อย่างไรก็ดี ในส่วนของค่ายกองทุนบัวหลวง ได้วิเคราะห์ Uncertainty จนเข้าใจ และมั่นใจว่าผลจะออกมาอย่างไร จึงไม่หวั่นไหว และในช่วงที่เป็นข่าวว่ากองทุนทุบหุ้นนั้น กองทุนค่ายบัวหลวงซื้อสุทธิทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค.59 เพราะเห็นจังหวะที่ดีในตลาด ด้วยราคาหุ้นทรุดต่ำลง เราจึงเพิ่มเงินสดที่มีในพอร์ตเข้าไปซื้อร่วมด้วย รวมแล้วตั้งแต่วันที่ 10 -13 ต.ค.59 กองทุนค่ายบัวหลวงซื้อสุทธิให้กองทุนรวมไปทั้งหมดกว่า 3,800 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้ ยังไม่ได้รวมที่เราซื้อสุทธิให้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
***กองทุนฝรั่งคลายความกังวลความไม่ชัดเจนปัจจัยในประเทศ
นางวรวรรณ ธาราภูมิ นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวอีกว่ามีผู้จัดการกองทุนหลายประเทศสอบถามเข้ามา เรื่อง Uncertainty เกี่ยวกับองค์รัชทายาท ซึ่งได้ตอบไปว่า ทุกอย่างถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าตั้งหลายปีแล้ว และไม่เคยมีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย เป็นไปตามพระราชอัธยาศัยของ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ทุกประการ แต่ที่รัฐบาลไม่ได้ประกาศออกมาก่อน เพราะเป็นประเพณีและจารีตของไทยมาแต่เนิ่นนานมาแล้ว ดังนั้นอย่าหลงเชื่อการปล่อยข่าวบ่อนทำลายประเทศไทยและสถาบันที่เราเคารพรัก ไม่มีอะไรอย่างที่เป็นข่าวปล่อยเลย รวมทั้งข่าวที่ออกมาจากสำนักข่าวต่างประเทศของพวกท่านด้วย มันเป็นเท็จ
ทางผู้จัดการกองทุนต่างประเทศตอบกลับมาทางอีเมล์ว่าเข้าใจแล้ว และขอแสดงความเสียใจเรื่องการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของคนไทยมาด้วย พร้อมทั้งบอกว่าเรื่องแบบนี้เมื่อ Uncertainty หมดไป ทุกอย่างจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติไปเอง แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาห่วงมากสำหรับอนาคต สิ่งนั้นคือ เขาเริ่ม “กลัวการเลือกตั้ง” ในไทย เขาบอกว่าถ้ามีรัฐบาลจากการเลือกตั้งแล้ว บ้านเราจะมีเสถียรภาพแบบทุกวันนี้ไหม
ขอบคุณแหล่งข่าว : สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย