ความขัดแย้งทางรัฐศาสตร์การเมืองโลก หรือ Geopolitical Risk เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งในอดีต
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ อาหรับสปริง การบุกโจมตีลิเบีย - ซีเรีย ความบุกอิรัก เหตุการณ์ 911
คำถาม คือ โดยภาพรวมแล้วทำหุ้นลงไปมากน้อยแค่ไหน
ถ้าตอบแบบสั้นๆ จากข้อมูลของ MSCI ในช่วงสถานการณ์โลกไม่สงบ ...
จะทำให้ดัชนี MSCI Emerging Market ร่วงไปประมาณ -6.3% โดยเฉลี่ย
แต่ถ้าให้ตอบแบบยาวๆ โดยใช้ดัชนี MSCI Emerging Market จะแบ่งออกเป็น
เหตุการณ์ 911 ในปี 2001 ทำดัชนีลงไปกว่า -11.2%
เหตุการณ์ในอิรัก ปี 2003 ทำดัชนีลงไปกว่า -6.3%
เหตุการณ์อาหรับสปริง ในปี 2011 ทำดัชนีลงไปกว่า -6.1%
เหตุการณ์ในลิเบีย ในปี 2011 ทำดัชนีลงไปกว่า -4.1%
เหตุการณ์ความขัดแย้งในไครเมีย ปี 2014 ทำดัชนีลงไปกว่า -3.4%
เหตุการณ์แทรกแซงทหารในซีเรีย ปี 2014 ทำดัชนีลงไปกว่า -11.5%
เหตุการณ์การโจมตีทางอากาศในซีเรีย ปี 2017 ทำดัชนีลงไปกว่า -1.5%
ซึ่งเหตุการณ์ความตึงเครียดกินระยะเวลาเฉลี่ยประมาณ 21 วัน
ทำหุ้นลงไปกว่า -6.3% ในอดีตที่ผ่านมา
และที่น่าสนใต คือ ดัชนีสามารถ "ดีดกลับ" จากแรงซื้อคืนเมื่อตลาดซึมซับข่าวร้ายไปเยอะมากๆ และสถานการณ์ดูเบาลง ถึงแม้เหตุการณ์จะยังคุกรุ่นอยู่ก็ตาม ไม่ได้มีการคลี่คลายลงในทันที
ถามว่า แล้วตลาดหุ้นไทยลงไปเท่าไรจากจุดสูงสุด
คำตอบ คือ ลงไปแล้ว -6%
ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย -6.3%
ดังนั้น ถ้านักลงทุนคนไหน "เชื่อในสถิติ" ถือว่าโอกาสตอนนี้หุ้นไทยมี Downside ที่ค่อนข้างจำกัด และรับข่าวร้ายไปมากเกินพอแล้วนั่นเองครับ