พุ่งพรวด! สถิติชี้เครือข่าย Lightning กำลังเติบโต-ถูกยอมรับใช้งาน

══════════════
พุ่งพรวด! ยอดใช้งานไลท์นิ่งเน็ตเวิร์กของ Bitcoin หลังเปิดบริการโอนเงินในสกุลดอลลาร์ฯ ก่อนแปลงกลับสกุลท้องถิ่นที่ปลายทาง ล่าสุดเปิดตัวโซเชียลมีเดียกระจายศูนย์บนโปรโตคอล “Nostr” ดันยอดใช้งานเครือข่าย Lightning ทำสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ 5,000 BTC แล้ว
.
.
Lightning Network คือโปรโตคอลที่สร้างบนเลเยอร์ 2 ของบิตคอยน์ เพื่อสร้างความสะดวกรวดเร็วในการทำธุรกรรมให้เร็วดั่งสายฟ้า อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน Lightning Network ยังไม่มี Native Token เป็นของตัวเองเหมือนกับโปรโตคอลต่างๆ ในโลก DeFi
.
แม้สภาพคล่องของไลท์นิ่งเน็ตเวิร์กฝั่ง Bitcoin จะยังคงน้อยกว่า 0.5% เมื่อเทียบกับสัญญาต่างๆ ในโลก DeFi ฝั่ง Ethereum แต่ปริมาณการใช้งานที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของ Bitcoin Lightning Network เมื่อเทียบกับแนวโน้มขาลงของจำนวน Ethereum ที่ถูกล็อกไว้ในสัญญาอัจฉริยะ (smart contracts) ก็ช่วยเพิ่มขวัญกำลังใจให้กับการพัฒนาของ Lightning Network อย่างมาก
.
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการใช้งาน Lightning Network เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่ทว่าจำนวนของการเปิด "ช่องทางการชำระเงิน" เพื่อทำธุรกรรมขนาดเล็กระหว่างกันในเครือข่าย Lightning กลับดิ่งลงอย่างเห็นได้ชัดในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาหลังการล่มสลายของ FTX
.
จากรายงานของ “Valkyrie Investment” ระบุว่าการใช้งาน Lightning Network ทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วในตลาดเกิดขึ้นใหม่อย่างทวีปอเมริกาใต้ และทวีปแอฟริกา สาเหตุหลักมาจากความพยายามของแอปพลิเคชันที่ใช้การชำระเงินผ่าน Lightning Network อย่าง Strike
.
Strike ได้เปิดให้บริการการโอนเงินโดยใช้ Lightning Network ในแอฟริกาเมื่อเดือนธันวาคม 2022 ซึ่งการให้บริการนี้ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมการโอนเงินจากสหรัฐอเมริกาไปยังชาวแอฟริกันอย่างประเทศไนจีเรีย, กานา และเคนยา โดยหลังจากนั้น Stike ก็ยังได้ประกาศให้บริการแบบเดียวกันนี้ในประเทศฟิลิปปินส์
.
[ข่าวที่เกี่ยวข้อง : Strike ขยายบริการโอนเงินกลับฟิลิปปินส์ผ่านเครือข่าย Lightning บิตคอยน์]
https://www.efinancethai.com/Laste.../LatestNewsMain.aspx...
.
ล่าสุด Strike ได้เปิดให้บริการธุรกรรมในสกุลเงินดอลลาร์โดยใช้ Lightning Network ซึ่งผู้ใช้สามารถโอนเงินดอลลาร์ที่มีอยู่ในแอปพลิเคชัน Strike ไปยังบัญชีออมทรัพย์และบัญชีที่เปิดใช้งาน Visa ได้อีกด้วย โดยแอปฯจะแปลงสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเป็น BTC ในระบบ และจะแปลงกลับเป็นดอลลาร์ที่ปลายทาง ซึ่งความรวดเร็วและค่าธรรมเนียมที่แสนถูกของ Lightning Network ทำให้ความเสี่ยงที่มาจากความผันผวนของราคา Bitcoin นั้นน้อยมาก
.
ด้วยความที่ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศจากสหรัฐฯ อาจสูงถึง 45 ดอลลาร์ต่อธุรกรรม และการโอนเงินอาจใช้เวลาถึงหลายชั่วโมงหรือในบางครั้งอาจนับเป็นวัน ดังนั้นผู้ใช้อาจหันมาเริ่มใช้ Strike ในการทำธุรกรรมแทนช่องทางการโอนเงินแบบดั้งเดิม
.
อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้การใช้งาน Lightning Network เพิ่มขึ้น มาจากการเปิดตัวของ Nostr อ้างอิงจากหน้าเพจ GitHub ที่เกี่ยวกับโปรโตคอลดังกล่าว มีใจความว่า Nostr นั้นสะดวก, decentralized, เป็นโซเชียลมีเดียที่ต่อต้านการคัดกรองของ algorithm และยังเป็นโปรโตคอลที่อนุญาตให้สร้างแอปพลิเคชัน social media ได้อีกด้วย
.
แนวคิดของการสร้างโซเชียลมีเดียที่ให้ความอิสระและปราศจากค่าใช้จ่ายต่างๆ โด่งดังอย่างมากในวงการคริปโท ด้วยการที่ผู้บุกเบิกบิตคอยน์อย่าง Jack Dorsey และ Adam Back นั้นเห็นด้วยอย่างมากกับโปรโตคอล Nostr ซึ่งคู่แข่ง Twitter อย่าง Damus ก็ได้ถูกสร้างบน Nostr โดยมีทั้งเวอร์ชัน iOS และ Android
.
เนื่องจากการมีอุดมการณ์ร่วมกัน Nostr ทำให้การใช้งาน Lightning Network เพิ่มขึ้น ด้วยการที่ Damus ได้ร่วมมือกับกระเป๋า Lightning Network หลากหลายเจ้า เช่น Wallet of Satoshi, Strike, BlueWallet และอื่นๆ
.
อ้างอิงจากรายงานของ Kevin Rooke นักวิเคราะห์ Lightning Network ชี้ให้เห็นว่ามีผู้ใช้กว่า 600,000 ราย ได้ทำการสมัครสมาชิกบน Nostr ซึ่งนี่อาจเป็นการเคลื่อนย้ายผู้ใช้เข้าสู่การใช้งาน Lightning Network เนื่องจาก Nostr นั้นสนับสนุนเครือข่ายธุรกรรม Bitcoin ผ่าน Nostr Zap
.
ที่มา : https://cointelegraph.com/.../bitcoin-lightning-network...
-----------------------------------