ในบางครั้งพฤติกรรมของราคามีการพัฒนาไปในวิถีที่ค่อนข้างยากที่จะตัดสินว่าเป็นรูปแบบหนึ่งหรือไม่ ตัวอย่างเช่น Chart 7-16 ของ Sysco แสดงรูปแบบ H & S ด้านล่าง (H & S bottom) ที่มีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในช่วงที่ราคาทะลุผ่านขึ้นไป ส่วน Chart 7-17 ก็เป็นของ Sysco ในช่วงเวลาเดียวกัน แต่คราวนี้ผมลากเส้นคู่ขนานสองเส้นเป็นกรอบของราคาในรูปแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยมีราคาขึ้นถึงราคาเป้าหมายที่มีหลายระดับได้ถึงสองเท่า ดังนั้นมันจึงไม่สำคัญว่าเราจะต้องตั้งชื่อรูปแบบพฤติกรรมราคาว่าเป็นอะไร เพราะจุดสำคัญก็คือเมื่อราคามันร่วงลง, มีการต่อสู้ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย (trading range) และมีการทำราคาทะลุผ่านแนวต้านขึ้นไปตามมาพร้อมกับมีปริมาณการซื้อขายรองรับ ผมยกเรื่องนี้ขึ้นมาก็เพราะมันเป็นเรื่องง่ายมากที่จะยึดติดกับชื่อหรือนิยามใดก็ตาม แต่ขอให้คุณตีความการฟอร์มตัวโดยใช้ความรู้สึกของคุณโดยไม่ต้องไปยึดติดกับสูตรใดตายตัวมากนัก ให้พยายามที่จะทำความเข้าใจบนพื้นฐานทางจิตวิทยาของภาวะการซื้อขายเพราะมันเป็นสิ่งที่รูปแบบทั้งหมดจะสะท้อนออกมาให้เห็นในที่สุด นั่นคือถ้าคุณสามารถจับการกลับตัวของราคาที่เคลื่อนไหวแบบ peak-and-trough ในช่วงเวลาที่ราคาทะลุแนวรับ/แนวต้านของเส้นแนวโน้มได้ นั่นแสดงว่าคุณเห็นแนวโน้มการกลับตัวแล้ว ยิ่งมีปริมาณซื้อขายมาสนับสนุนก็ยิ่งช่วยคุณตัดสินใจดีขึ้น โปรดจำไว้ว่าที่เราตั้งชื่อรูปแบบราคาของราคาก็เพียงเพื่อให้ทำความเข้าใจปรากฏการณ์การกลับตัวได้ง่ายขึ้นเท่านั้น
Chart 7-16 ราคารายวันของ Sysco ในระหว่างปี 1981- 1983
Chart 7-17 ราคารายวันของ Sysco ในระหว่างปี 1981- 1983
การฟอร์มรูปแบบ Head-and-Shoulders แบบต่อเนื่อง
การฟอร์มรูปแบบ H & S และ H & S กลับหัว มักอยู่บนกราฟเหมือนรูปแบบต่อเนื่องบนเส้นแนวโน้ม ความหมายของการวัดและลักษณะของปริมาณการซื้อขายจะเหมือนกับรูปแบบการกลับตัวของแนวโน้ม แต่มีความแตกต่างเพียงอย่างเดียวตรงที่รูปแบบราคาเหล่านั้นพัฒนาขึ้นในช่วงระหว่างที่เกิดแนวโน้มมากกว่าในช่วงสิ้นสุดแนวโน้ม ดังตัวอย่างในรูปที่ 7-13 และ 7-14
รูปที่ 7-13 การฟอร์มรูปแบบ Head-and-Shoulders กลับหัวแบบต่อเนื่อง
รูปที่ 7-14 การฟอร์มรูปแบบ Head-and-Shoulders ด้านบน แบบต่อเนื่อง
บทความตอนที่ผ่านๆ มาอ่านได้จาก: http://www.chiangmaifx.com/price-patterns.html
www.facebook.com/275391639215535/photos/pcb.1603468543074498/1603467323074620/