มาต่อจากตอนที่แล้วนะครับ...สามารถย้อนอ่านตอนที่ 1 ได้ที่ลิ้งค์นี้ครับ
ราคาหุ้นกับความเชื่อ ว่ามันจะขึ้น ว่ามันจะลง ตอนที่ 1
หลังจากที่เราให้มุมมองแบบความเชื่อไปแล้วว่าราคานั้นจะถูกหรือผิดมันขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ที่แสดงผลขึ้นมาในช่วงเวลาขณะหนึ่ง...และมันจะถูกสำหรับผลลัพธ์ที่ออกมาแล้วได้กำไรสำหรับนักลงทุนผู้นั้น
แต่วันนี้เราลองมามองแบบมุมมองของสิ่งที่ราคาสามารถเคลื่อนตัวไปได้กันดูครับ
ราคานั้นสามารถเคลื่อนตัวไปได้ทั้งหมด 3 ทิศทางครับ
1. ทิศทางขึ้น
2. ทิศทางเท่าเดิม
3. ทิศทางลง
::: รูปที่ 1 : ทิศทางขึ้น :::
::: รูปที่ 2 : ทิศทางเท่าเดิม :::
::: รูปที่ 3 : ทิศทางลง :::
นักลงทุน...ลงทุนในหุ้นเพื่อคาดหวังกำไร...เราลองมาดูกันครับว่าจาก 3 รูปแบบราคาที่เคลื่อนที่ไปได้นั้นส่งผลกระทบอย่างไรบ้างต่อนักลงทุน
1. หากเราลงทุนในหุ้นนั้นทิศทางที่จะทำให้เราได้กำไรจากส่วนต่างราคาหุ้นนั้นๆคือ ราคาต้องเป็นไปตามรูปที่ 1 คือเป็นในทิศทางขึ้น
2. หากเราลงทุนในหุ้นที่มีทิศทางราคาตามรูปที่ 2 คือเป็นทิศทางที่ราคานิ่งเท่าเดิมตลอดเวลา เราก็จะไม่ได้สูญเสียหรือขา่ดทุนในส่วนของเงินทุน แต่จะสูญเสียเวลาหรือโอกาสสร้างกำไรจากการลงทุนในหุ้นตัวอื่นแทนครับ
3. หากเราลงทุนในหุ้นแล้วราคาหุ้นมีทิศทางราคาตามรูปที่ 3 คือเป็นทิศทางลง การลงทุนนั้นจะส่งผลให้มูลค่าพอร์ตการลงทุนนั้นลดลง แต่จะยังไม่ขาดทุนจริงถ้าเรายังไม่ขาย
ดังนั้นจาก 3 รูปแบบราคาที่เคลื่อนที่ได้...สำหรับกรณีที่แย่ที่สุด คือ การขาดทุนเพราะนักลงทุนคาดหวังกำไรจากการลงทุน...ดังนั้นเราต้องมาคิดว่าระดับความเสี่ยงสูงสุดในการลงทุนของเรานั้น เรายอมรับความเสี่ยงได้ที่ระดับเท่าไหร่หากหุ้นนั้นเกิดเคลื่อนตัวไปตามรูปแบบราคาตามรูปที่ 3 คือเป็นทิศทางลง
ให้เราหาระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ในกรณีที่ราคาหุ้นเคลื่อนที่ไปทิศทางลงโดยแบ่งเป็นโซนๆ เช่น
10%
20%
30%
40%
50%
60%
70%
80%
90%
100%
หากเราตอบระดับความเสี่ยงที่เรายอมรับได้ก่อนที่จะเข้าลงทุนในหุ้นตัวนั้นๆได้..ในการลงทุนของเราหากเจอกรณีที่ราคาเคลื่อนที่ตามรูปที่ 3 คือเป็นทิศทางลง เราก็จะสามารถปกป้องความเสี่ยงสูงสุดของเราในการลงทุนครั้งนี้ได้ตามแผนที่เราวางไว้