ห้องเม่าปีกเหล็ก

FED คงอัตราดอกเบี้ย แต่ยังไม่ได้ส่งสัญญาณหยุดขึ้น

โดย อินทรีย์ไม่บินเป็นฝูง
เผยแพร่ :
66 views

FED คงอัตราดอกเบี้ย แต่ยังไม่ได้ส่งสัญญาณหยุดขึ้น

 

Fed คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามเดิมที่ 5.50% Fed คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามเดิมที่ 5.50% เป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้ อย่างไรก็ดี ยังเปิดโอกาสขึ้นอัตราดอกเบี้ยปลายปีนี้ขึ้นอยู่กับตัวเลขเงินเฟ้อและตัวเลขเศรษฐกิจ

 

โดยคาดการณ์ dot plot บ่งชี้ว่า Fed คลายกังวลต่อทิศทางการเติบโตของสภาวะเศรษฐกิจและแรงกดดันเงินเฟ้อเห็นได้จากการปรับเพิ่มประมาณการอัตราเติบโตของ GDP และปรับลดโอกาสที่จะลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2567

 

ปรับเพิ่มประมาณการ GDP Fed ปรับเพิ่มประมาณ GDP ของปี 2566 และ 2567 ขึ้นเป็น 2.1% และ 1.5% ตามลำดับ จาก 1.0% และ 1.1% ในเดือนมิ.ย. โดย Powell เผยว่าภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ นั้นแข็งแกร่งกว่าที่เคยคาดไว้ แม้ความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะถดถอยยังมีอยู่ แต่โดยรวมแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ เป็นทิศทางของการชะลอตัวลงแบบ soft landing อีกทั้ง Fed คาดว่า core PCE ในปี 2566 จะลดลงมาอยู่ที่ 3.7% จากคาดการณ์ในเดือนมิ.ย. ที่ 3.9%

 

Dot plot คาดว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง อย่างไรก็ดี Dot plot บ่งชี้ว่าคาดการณ์เป้าหมาย Fed fund rate สิ้นปี 2566 ยังอยู่ที่ระดับคงที่เท่าเดิมจากคาดการณ์ในเดือนมิ.ย. ที่ 5.6% แต่เพิ่มคาดการณ์ในปี 2567 สูงขึ้นจาก 4.6% เป็น 5.1% ซึ่งหมายความว่าอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้งที่ 25 bps ในปี 2566 และลดอัตราดอกเบี้ยลง 50 bps ในปี 2567 น้อยกว่าคาดการณ์ในเดือนมิ.ย. ที่มองจะลดดอกเบี้ย 100 bps ในปี 2567

 

อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงสูงส่งผลให้ภาวะการเงินตึงตัว Dot plot บ่งชี้ว่าอัตราดอกเบี้ยอาจจะอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานาน แต่เรามองว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกจากตรงนี้อาจมีความจำเป็นน้อยลง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ในระดับค่อนข้างสูงเมื่อเทียบในอดีตและเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลงกลับมาอยู่ในกรอบเป้าหมายที่ 2% ได้ แม้อาจต้องใช้เวลามากกว่าที่เคยคาดไว้เนื่องจากราคาพลังงานที่กลับมาสูงขึ้นอีกรอบตามการลดกำลังการผลิตของซาอุดิอาระเบีย แต่อย่างไรก็ดี เราคาดว่าผลจากราคาพลังงานที่สูงขึ้นจะส่งผ่านไปยังแรงกดดันเงินเฟ้อไม่มากในรอบนี้

 

แถลงการณ์สะท้อนความพอใจระดับหนึ่ง แถลงการณ์ของ Powell หลังการประชุม FOMC บ่งชี้ถึงความพึงพอใจเนื่องจาก Powell กล่าวว่าข้อมูลตลาดแรงงานที่ผ่อนคลายชะลอตัวลงในช่วงที่ผ่านมาถือเป็นตัวอย่างของสถานการณ์ที่ Fed ต้องการเห็นได้เป็นอย่างดี เนื่องจากตลาดแรงงานที่ผ่อนคลายลงส่งผลให้แรงกดดันเงินเฟ้อจากเรื่องค่าจ้างแรงงานจะลดลง

 

แม้ Fed ยังไม่ตัดสินใจชัดในเรื่องทิศทางของนโยบายการเงิน แต่ Powell กล่าวเรากำลังเข้าใกล้ถึงในสิ่งหรือภาวะที่เราต้องการและการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งอาจไม่ได้เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากเท่าเมื่อก่อนหลังอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ในระดับที่สูงแล้ว

 

คาดมีโอกาส 30-40% ที่ Fed จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้ เราคาดว่ามีโอกาสประมาณ 30-40% ที่ Fed จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมเดือนพ.ย. เมื่อเทียบกับความเป็นไปได้ของตลาดที่ 32.6% สูงขึ้นกว่าคาดการณ์ครั้งวานนี้ก่อนการประชุมที่ 27.4% เราเชื่อว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งของ Fed ในปีนี้อาจไม่สัมพันธ์กับอัตราเงินเฟ้อแบบชัดแล้ว แต่กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขึ้นน่าจะเป็นสาเหตุหลักของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า และจากอัตราตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกตั้งแต่สหรัฐฯ ไปจนถึงญี่ปุ่นและจีนในช่วงเร็วๆนี้

 

ส่งผลให้อัตราตอบแทนพันธบัตรของไทยปรับเพิ่มขึ้นตามเพื่อลดช่องว่างระหว่างอัตราตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยและสหรัฐฯ ระยะเวลา 10 ปี หลังแตะระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2547 โดยอัตราตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นอาจกดดันราคาสินทรัพย์ที่เสี่ยงโดยเฉพาะตลาดหุ้น อย่างไรก็ดี เราเชื่อว่าปัจจัยลบในระยะสั้นเปิดโอกาสให้นักลงทุนทยอยสะสมหุ้นในช่วงปลายปี 2566 เพื่อสร้างพอร์ตเตรียมสำหรับปีหน้าซึ่งเราคาดว่าทิศทางดูดีขึ้น

 

 


อินทรีย์ไม่บินเป็นฝูง