ถอดบทเรียน 5 ปัจจัยความสำเร็จ จากนักเทรดระดับโลก
จากเนื้อหาของหนังสือ “สุดยอดความลับแห่งความสำเร็จของนักเทรดระดับโลก” Secret Conversations with Trading Tycoons ซึ่งได้สัมภาษณ์ 12 กูรูด้านการลงทุนแถวหน้าของโลก เพื่อเป็นแนวทางสำหรับนักลงทุนรุ่นใหม่ โดยผู้เขียน Mario Singh ได้สรุปถึง 5 ปัจจัยที่ทำให้การลงทุนของนักเทรดระดับโลกประสบความสำเร็จเอาไว้ค่ะ
1. ต้องรู้จัก Stop Loss เพื่อปิดความเสี่ยง
บทเรียนราคาแพงของการลงทุน คือ การไม่ยอมทำ stop loss ซึ่งนักเทรดหลายคนมักจะไม่ยอมทำ และรู้สึกผิดถ้าหากทำ stop loss อีกทั้งหลายคนยังมักจะอ้างว่า “ต้องให้เวลาบ้าง” หรือไม่ก็จะอ้างว่า “โบรกเกอร์กำลังคอยดูให้อยู่”
ในความเป็นจริงแล้ว ข้ออ้างดังกล่าวไม่มีมูลเลย เพราะถ้าคุณไม่ทำ stop loss อาจเสี่ยงที่จะขาดทุนหมด หรือไม่มีโอกาสในการเข้าเทรดเมื่อโอกาสมาถึง
เพราะการขาดทุน 25% หมายถึง คุณต้องทำกำไรให้ได้ถึง 33% เพื่อให้ถึงจุดคุ้มทุน และถ้าขาดทุน 33% หมายถึงต้องทำกำไร 100% ดังนั้นจะเห็นว่า ถ้าคุณยิ่งขาดทุนมากเท่าไร ก็ต้องยิ่งทำกำไรให้มากกว่าเดิมเพื่อให้ถึงจุดคุ้มทุน
2. สนใจข้อเท็จจริงมากกว่าสิ่งที่เป็นความเห็น
หลายคนอาจเคยได้ยินสุภาษิตที่กล่าวว่า เวลาใดที่คุณต้องการความเห็นคุณจะได้มันในทันที เพราะว่ามนุษย์เราทุกคนมีความเห็นกันทั้งนั้นในทุกๆ เรื่อง ซึ่งเรื่องของตลาดหุ้นก็เช่นเดียวกัน หากเราถามคน 10 คน ว่าเงินดอลล่าร์กับเงินยูโรจะเป็นอย่างไร? คุณจะได้ยินความเห็นต่างๆ กันทั้ง “คิดว่าค่าเงินจะต้องขึ้น” และ “คิดว่าจะต้องลง”
แต่สำหรับนักเทรดระดับโลก เขาจะไม่ฟังเรื่องความเห็น แต่จะให้ความสนใจไปที่ข้อเท็จจริงมากกว่า เพราะสิ่งที่ทำให้ความเห็นกับข้อเท็จจริงแตกต่างกัน มาจากที่ข้อเท็จจริงโฟกัสไปที่เนื้อหา ขณะที่ความเห็นโฟกัสการเล่าเรื่องราว
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ คือ ถ้าตัวเลขการว่าจ้างแรงงานในอเมริกา หรือที่เรียกกันว่าการว่า การจ้างงานที่ไม่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมทางการเกษตร อยู่ที่ 245,000 อัตรา ก็หมายความว่าเดือนที่ผ่านมา การว่าจ้างแรงงานในอเมริกาอยู่ที่ 245,000 คน
นี่คือข้อเท็จจริง ที่ได้มาจากสำนักงานสถิติแรงงานของสหรัฐฯ
แต่ความเห็นเกิดขึ้นมา เมื่อผู้คนหรือนักข่าว รวมถึงสื่อและนักวิเคราะห์ นำเอาข้อเท็จจริงดังกล่าว และไปปะปนเข้ากับความคิดของตัวเอง ซึ่งสิ่งที่ได้มาคือ
“การว่าจ้างงานจำนวน 245,000 จะทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น”
“การว่าจ้างงานจำนวน 245,000 จะทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง”
“การว่าจ้างงานจำนวน 245,000 จะทำให้เงินยูโร และเงินดอลลร์แข็งค่าขึ้น”
“การว่าจ้างงานจำนวน 245,000 จะทำให้เงินยูโร และเงินดอลลร์อ่อนค่าลง”
ดังนั้น นักเทรดที่เก่งจะไม่ฟังและกังวลต่อสิ่งที่เรียกว่าความเห็นเลย เพราะพวกเขาฟังข้อเท็จจริง และดูว่าตลาดมีปฏิกิริยาอย่างไร แล้วเทรดตามข้อเท็จจริงนั้น ที่สำคัญที่สุด คือ พวกเขารับผิดชอบ 100% ในสิ่งที่ตัดสินใจทำลงไป และไม่โทษใคร
3. ไม่หยุดเรียนรู้ และพัฒนาทักษะตนเองอยู่เสมอ
ผู้นำทุกคน คือนักอ่าน นักเทรดก็ไม่แตกต่างกันในข้อนี้ เพราะพวกเขาจะเรียนรู้สิ่งต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และปรับปรุงทักษะตนเองให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่เคยเฉื่อยชา และนอกจากการหาความรู้อย่างต่อเนื่องแล้ว มักจะทำการวิเคราะห์ รวมถึงทบทวนการเทรดที่ผ่านมา
การเทรดเป็นไปตามแผนหรือไม่? คำตอบเรื่องนี้นักเทรดที่ประสบความสำเร็จ รู้ว่าสูตรความสำเร็จในการเทรดนั้น จะต้องโฟกัสไปที่กระบวนการ คือ เลือกราคาเทรดตอนเข้าตลาดถูกต้องหรือไม่ การบริหารความเสี่ยงถูกตามแผนหรือไม่ ตอนทำ stop loss มีอะไรมาขัดขวางหรือไม่
ดังนั้น หากการเทรดเป็นไปตามแผน เวลาจะเป็นตัวบอกคุณเองว่า แผนการเทรดของคุณประสบความสำเร็จ และจำไว้เสมอว่า นักเทรดมือสมัครเล่นโฟกัสไปที่กำไร แต่นักเทรดที่ยิ่งใหญ่โฟกัสไปที่กระบวนการในการเทรด
4. ตัดความกังวลที่มารุมเร้าจิตใจ
มนต์คาถาของนักเทรดที่ประสบความสำเร็จคือ “เมื่อทำการเทรดแล้ว ก็ลืมมันไป” นี่คือสิ่งที่น่าจดจำไว้ เพราะว่า ชีวิตนั้นเต็มไปด้วยความกังวลอยู่แล้ว อย่านำเอาเรื่องเทรด มาเพิ่มความกังวลให้กับชีวิตคุณอีกเลย
5. เลือกโบรกเกอร์ที่เก่งและมุ่งมั่น
ข้อนี้อาจจะเหมาะกับนักลงทุนที่มีพอร์ตค่อนข้างใหญ่ แต่สำหรับนักลงทุนรายย่อยก็สามารถนำแนวคิดไปประยุกต์ใช้ได้เช่นกัน โดยหากนำเอาความสำเร็จของนักเทรดผู้ยิ่งใหญ่ที่ประสบความสำเร็จระดับโลกมาสรุป เราจะสังเกตได้ว่า ปัจจัยสำคัญหลักๆ มีอยู่สองประการด้วยกัน คือ มาจากนิสัยของผู้เทรด และการมีโบรกเกอร์ที่เก่งและมุ่งมั่น
ทั้ง 2 สิ่งนี้แยกจากกันไม่ได้ เพราะอุปนิสัยสร้างความมั่นใจแก่นักเทรดให้ประสบความสำเร็จ ขณะที่โบรกเกอร์ที่เก่งและมุ่งมั่น ทำให้การเทรดดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยการหาโบรกเกอร์ที่เก่งและมุ่งมั่น สามารถหาได้จากการตั้งคำถาม 3 ข้อด้วยกัน
1) ความแข็งแกร่งในการบริหารงานของบริษัทโบรกเกอร์คืออะไร
2) เงินทุนของคุณถูกดูแลอย่างปลอดภัยหรือไม่
3) พวกเขามีการสนับสนุนที่ดีและมั่นคงหรือไม่
โลกของโบรกเกอร์มีการแข่งขันสูง ยิ่งในปัจจุบันการแข่งขันก็ยิ่งรุนแรงมากขึ้น
ผู้เทรดสามารถเลือกโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดได้ อย่างไรก็ตาม สามข้อที่เสนอไปนั้น ทำให้เราสามารถแยกระหว่างโบรกเกอร์ที่เก่งและโบรกเกอร์แบบปานกลางได้อย่างดี เพราะโบรกเกอร์เก่งๆ ในระดับโลก จะดูแลเงินของคุณโดยมีการทำประกันวงเงินลงทุนของคุณ เพื่อให้คุณมั่นใจว่าเงินของคุณจะได้รับการดูแลอย่างปลอดภัย
ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก...