ห้องเม่าปีกเหล็ก

หุ้นไทยดิ่ง ต่ำสุดรอบ 5 เดือน สารพัดปัจจัยเสี่ยงถาโถม ชู 3 หุ้นหลบภัย

โดย DAVINCI
เผยแพร่ :
67 views

หุ้นไทยดิ่ง 25.09 จุดต่ำสุดรอบ 5 เดือน สารพัดปัจจัยเสี่ยงถาโถม ชู 3 หุ้นหลบภัย

ตลาดหุ้นไทยร่วง 25.09 จุด สอดรับตลาดหุ้นโลกที่แดงยกแผงจากปมร้อนรัสเซีย-ยูเครน -บอนด์ยีลด์ไทยพุ่ง-เงินบาทอ่อน จับตาเงินเฟ้อสหรัฐฯ แนะถือเงินสด 30% ประเมินกรอบพรุ่งนี้ประเมินกรอบแนวรับแรก 1,600 จุด แนวต้านที่ 1,615-1,630 จุด ชู 3 หุ้นหลบภัย

นายภราดร เตียรณปราโมทย์ รองผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยถึง ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,604.49  จุด ลบ 25.09 จุดหรือ 1.54 % ระหว่างวันซื้อขายสูงสุด 1,624.26 จุด และต่ำสุดที่ 1,604.06 จุด มูลค่าการซื้อขาย 81,607.55   ล้านบาทว่า  ตลาดหุ้นไทยปิดลบตามตลาดหุ้น โลกที่ส่วนใหญ่ปิดแดงยกแผงจากความกังวลสงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อการแพร่ระบาดโควิดในจีน ขณะที่นักลงทุนมีความวิตกในเรื่องของเงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำให้ธนาคารกลางทั่วโลกเร่งขึ้นดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อส่งผลให้หุ้นผันผวน

 

สำหรับตลาดหุ้นในภูิมิภาคที่ปรับตัวลง เช่น อินโดนีเซียร่วง 4.42% ญี่ปุ่น 2.5%ไต้หวัน 2.2% โดยหุ้นที่กดตลาด เช่น GULF 3% EA 2.6% GPSC 5.2%อย่างไรก็ตาม การที่ดัชนีปรับตัวลงแตะระดับ 1,604 จุด ถือเป็นจุดต่ำสุดในรอบ5 เดือน ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าแตะระดับ 34.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐนิวไฮในรอบ 5ปี และเป็นปัจจัยที่ทำให้ฟันด์โฟลว์ชะลอไหลเข้าหุ้นไทย

นอกจากนี้อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลไทยหรือบอนด์ยีลด์ที่ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 3.28%สูงกว่าสหรัฐฯที่อยู่ในระดับ  3.18% ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่ากนง.อาจจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ ขณะเดียวกันการที่ดัชนีปรับลงหลุดเส้นค้าเฉลี่ย EMA  200 วัน 1,630 จุด มีโอกาสที่หุ้นจะย่อตัวลง 

 

สำหรับปัจจัยที่ติดตามคือเรื่องเงินเฟ้อสหรัฐฯในเดือนเม.ย.ที่จะประกาศในวันที่ 11 พ.ค.นี้คาดว่าจะอยู่ที่ 8.1% หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ถ้ามากกว่าตลาดคาดจะเป็น

ปัจจัยลบต่อตลาดให้เกิดความผันผวนได้

 

ด้านกลยุทธ์การลงทุนให้ถือเงินสด 30% ส่วนที่เหลือ 70% ให้ลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะแนะนำหุ้นโรงพยาบาลคือ BH ราคาเป้าหมาย 190 บาท หุ้นได้รับผลบวกจากบอนด์ยีลด์ปรับเพิ่มขึ้นคือ BLA ราคาเป้าหมาย 52 บาท และหุ้นได้รับผลบวกจากเงินบาทอ่อนค่าคือ VNGราคาเป้าหมาย 12.90 บาท ประเมินกรอบแนวรับแรก 1,600 จุด และรับถัดไปที่ 1,580 จุด   แนวต้านที่ 1,615-1,630 จุด

ที่มา : นายภราดร เตียรณปราโมทย์ รองผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส

ภาพประกอบ :  บล.เอเซีย พลัส 

 


DAVINCI