แพงแล้ว แพงอีก สงสัยจะทำ New High ไป 2000 จุดคงจะยากไปแล้ว
=============================
บทความจากคุณประกิต น่าสนใจดีครับ
กำไรตลาด เน่าจนไม่อยากนับญาติ
Art of Strategy 18 พ.ย.62
- สรุปกำไรตลาดไทยในงวด 3Q62 SET+MAI 753 บริษัท มีกำไรรวม 219,772 ล้านบาท -16.53% YoY +2.77% QoQ รวม 9 เดือนมีกำไร 676,012 ล้านบาท -13.7% YoY เฉพาะ SET จะเป็นกำไร 214,734 ล้านบาท -17.9% YoY +1.6% QoQ ส่วน SET50 จะมีกำไร 143,227 ล้านบาท -18.3% YoY -2.2% QoQ แต่เมื่อเทียบกับที่ Consensus ถือว่ากำไรออกมาดีกว่าคาด 2.5%
- เห็นกำไรตลาดด้านบนแล้ว สรุปสั้นๆ “เน่า”
- สิ่งที่จะตามมานับจากนี้คือเทศกาล Downgrade หรือปรับลดประมาณการทั้งของปีนี้และปีหน้า EPS ปีนี้มีโอกาสที่จะถูกดดลงมาต่ำกว่า 94 บาทต่อหุ้น เช่นเดียวกับ EPS ปีหน้าจะถูกกดลงมาต่ำกว่า 105 บาทต่อหุ้น (ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 106 บาทต่อหุ้น)
- Valuation ของตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในข่ายแพง เป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัว อย่างไรก็ตามเป็นที่น่าสังเกตุว่า กลุ่มหุ้นที่มีผลประกอบการประคองตัวได้ และมีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวในไตรมาส 4 ราคาหุ้นยังสามารถทรงตัวหรือปรับเพิ่มขึ้นได้ ตรงกันข้ามกับหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการแย่ต่อเนื่องในไตรมาส 4 จะถูกเช็คบิลเทขายรุนแรง
- แรงกดดันจากการถูกปรับลดประมาณการจะทำให้ SET Index ขยับขึ้นยาก แต่คาดว่าจะกินเวลาเพียงช่วงสั้นๆ ก่อนที่ตลาดจะเริ่มไปให้ความสำคัญกับความคาดหวังเศรษฐกิจและกำไรฟื้นตัวในปีหน้า จุดนี้จะทำให้ดัชนีมี Downside Risk จำกัด มอง 1,595 จุด น่าจะเป็นฐานรับสำหรับวันนี้
- กลยุทธ์ให้เน้นไปที่กลุ่มหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการดีขึ้น หรือมีประเด็นบวกเฉพาะตัวดังนี้ PTT KBANK BBL SCBBLA CPALL RS SAWAD CHG BCH AMATA STPI PLANB เป็นตัวเด่นในสัปดาห์นี้
ประกิต สิริวัฒนเกตุ