ห้องเม่าปีกเหล็ก

กรณีศึกษา รัฐช่วยออกเงินดาวน์ที่อยู่อาศัย 50,000 บาท

โดย OttO
เผยแพร่ :
63 views

กรณีศึกษา รัฐช่วยออกเงินดาวน์ที่อยู่อาศัย 50,000 บาท

 

 

เราคงได้ยินข่าวใหญ่โครงการ “บ้านดีมีดาวน์”

ที่รัฐบาลจะช่วยออกเงินดาวน์ที่อยู่อาศัย 50,000 บาทต่อราย ซึ่งจะใช้วิธีใครซื้อก่อน ได้สิทธิก่อน

มีกำหนดระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 – 31 มีนาคม 2563

โดยมีโควต้ามอบสิทธิพิเศษนี้ให้ 1 แสนคน ซึ่งคนที่จะได้รับสิทธิก็คือ ผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 1.2 ล้านบาท/ปี

หรือคิดคร่าวๆ ก็คือคนที่มีเงินเดือนต่ำกว่า 1 แสนบาท/ เดือนนั่นเอง

เหตุผลเพราะรัฐบาลมองว่ากลุ่มคนที่มีรายได้มากกว่านี้ มีกำลังซื้อที่อยู่อาศัยล้นเหลือ ไม่จำเป็นที่รัฐจะต้องไปโอบอุ้ม

ผิดกับกลุ่มคนรายได้ปานกลางถึงรายได้น้อยที่อยากมีที่อยู่อาศัยแต่ยังไม่กล้าตัดสินใจ

การช่วยเงินดาวน์ 50,000 บาทก็เหมือนข้อเสนอที่มาช่วยกระตุ้นให้เขาตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยได้ง่ายขึ้น

ที่สำคัญเวลานี้บริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายรายกำลังเจอวิกฤติครั้งใหญ่

ด้วยตัวเลขที่อยู่อาศัยทุกประเภทค้างสต็อกร่วมกันมากกว่า 3 แสนกว่ายูนิตเลยทีเดียว

ส่งผลให้หลายบริษัทเลื่อนการเปิดตัวโครงการใหญ่ๆ บางรายเลื่อนไปเป็นปีหน้า (2563)

หรือซ้ำร้ายหนักไปกว่านั้นก็คือบางโครงการถูกเลื่อนไปอย่างไม่มีกำหนด

เหตุผลมาจากคนไทยไม่ค่อยเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยที่เวลานี้ดูอ่อนแอ จนถึงมาตราการ LTV

ที่มีกฎเหล็กคือหากใครคิดที่จะซื้อที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 จะต้องใช้เงินดาวน์ 20%

ถือเป็นกลยุทธ์สกัดกั้น นักลงทุนที่ซื้อเก็งกำไร จนถึงการซื้อเพื่อปล่อยเช่า

ผลที่ตามมาก็คือ หลายบริษัทมียอดขายลดลงอย่างน่าใจหาย

โดยมาตรการนี้มีเหตุผลว่าเพื่อไม่ให้เกิด ฟองสบู่แตก ซ้ำรอยประวัติศาสตร์เหมือนอย่างปี 2540

เมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้ มาตราการมอบเงินดาวน์ที่อยู่อาศัย ที่รัฐบาลต้องใช้เงินราวๆ 5,000 ล้านบาท

ก็เพื่อกระตุ้นสร้างยอดขายให้เหล่าบริษัทอสังหาริมทรัพย์ได้เดินหน้าต่อไป เปิดตัวโครงการใหม่ๆ ขายกันในอนาคต

เพราะหากสินค้ายังคงค้างสต็อกมหาศาลขนาดนี้

บริษัทอสังหาริมทรัพย์ก็ย่อมจะไม่ผลิตสินค้าใหม่ๆ ออกสู่ตลาด

ยิ่งธุรกิจนี้ เป็นธุรกิจที่จะส่งผลให้หลายๆ ธุรกิจจะดีจะร้ายตามไปด้วย

กล่าวคือหากบริษัทเปิดตัวสร้างโครงการใหม่ๆ ก็จะต้องใช้ เหล็ก, ปูน, ทราย, เฟอร์นิเจอร์,

และสินค้าอื่นๆ อีกสารพัดมากมายจนไปถึงการจ้างแรงงานที่เพิ่มขึ้น

แต่หาก...บริษัทเหล่านี้ไม่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ ธุรกิจเหล่านี้ก็จะได้ผลกระทบยอดขายลดน้อยลง

และการจ้างงานก็ลดลง เช่นกัน

จึงเป็นเหตุผลที่รัฐบาลเลือกที่จะกระตุ้นธุรกิจภาคอสังหาริมทรัพย์ อย่างเข้มข้น

เพราะคิดว่าหากกระตุ้นสำเร็จระบบเศรษฐกิจไทยน่าจะหมุนเวียนได้ดีขึ้น ไม่มากก็น้อย

แต่...ก็ยังไม่มีใครกล้ารับประกันว่าโควต้า 1 แสนรายที่จะได้รับสิทธิเงินดาวน์ 50,000 บาท

จะมีผลตอบรับมากน้อยแค่ไหน

รวมไปถึงแต่ละธนาคารเองจะมีการลดดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยู่อาศัย

เพื่อเป็นแรงบวกกระตุ้นให้คนที่คิดอยากมีที่อยู่อาศัยตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

ซึ่งหากมีคนใช้สิทธิเต็มโควต้า 1 แสนคนก็จะระบายสต็อกที่อยู่อาศัยในมือของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไปได้มาก

ที่สำคัญยังช่วยให้เกิดสภาพคล่องทางการเงินของเหล่าบรรดาบริษัทอสังหาริมทรัพย์

ที่จะต้องนำเงินไปจ่ายคืนธนาคารที่กู้มา จนถึงมีความพร้อมที่จะเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ๆ

ขณะเดียวกันก็มีเสียงสะท้อนมาว่ารัฐบาลกำลังกระตุ้นผิดจุดหรือไม่ แทนที่จะไปยกเลิกมาตราการ LTV

เพื่อเปิดโอกาสให้คนที่อยากซื้อที่อยู่อาศัยหลังที่ 2 สามารถซื้อได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการลงทุนหรือซื้ออยู่เอง

ในอีกมุมหนึ่ง ก็มีคนบอกว่าการมอบเงินดาวน์ 50,000 บาทครั้งนี้อาจจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะคนระดับกลางและล่าง อาจมองระยะยาวว่าตัวเองยังไม่พร้อมที่จะเป็น “มนุษย์หนี้” ผ่อนที่อยู่อาศัยนาน 20 -25 ปี

ซึ่งสรุปแล้วคำถามนี้ก็คงไม่ต่างจาก ไก่ กับ ไข่ อะไรจะเกิดก่อนกัน ?

เราคงต้องรอดูว่าเมื่อสิ้นสุดนโยบายมอบเงินดาวน์ 50,000 บาทของรัฐบาลในช่วงสิ้นเดือนมีนาคม ปีหน้า

โควต้า 1 แสนรายจะเต็ม หรือจะเหลือเยอะ จนต้องยืดเวลาแจกเงินดาวน์ต่อไปอีก….

Reference

https://www.youtube.com/watch?v=wAeaw54HEXM

https://www.youtube.com/watch?v=eJB8eXMS6Mw

https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_3091629

 

 

ขอบคุณที่มาเนื้อหาข้อมูลจาก


OttO