CPALL เผยกำไร Q3/65 ที่ 3,677 ลบ. โต 146.3% จากงวดเดียวกันปีก่อน รับรายได้ 7-11 และ แม็คโคร สูงขึ้น พร้อมรับรู้รายได้ของธุรกิจโลตัสส์เข้ามา หนุน 9 เดือนกำไรโต 61% ทะลุหมื่นลบ.
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL เปิดเผยผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/65 มีกำไร 3,676.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น146.3% จากงวดเดียวกันปี 64 ที่มีกำไร 1,493 ล้านบาท
ในไตรมาส 3/65 บริษัทฯมีรายได้รวม 213,808 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 64% โดยมีสาเหตุมาจากการปรับเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายและบริการของธุรกิจร้านสะดวกซื้อ รวมถึงธุรกิจค้าส่งค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ธุรกิจแม็คโครนั้นมีการเติบโตของรายได้จากการขายและบริการดีขึ้นเช่นกัน ประกอบกับมีการรับรู้รายได้ของธุรกิจโลตัสส์เข้ามา แทงบอลสเต็ป
นอกจากนี้กลยุทธ์ O2O ของแต่ละหน่วยธุรกิจยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเติบโตของรายได้นั้นยังคงได้รับปัจจัยบวกอย่างต่อเนื่องจากการเปิดประเทศ การกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ และการบริโภคภายในประเทศปรับตัวดีขึ้น
บริษัทฯมีกำไรขั้นต้นจากการขายและบริการเท่ากับ 45,188 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71.7% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากรายได้จากการขายและบริการของทุกกลุ่มธุรกิจเพิ่มขึ้น รวมถึงการรับรู้รายได้จากโลตัสส์เข้ามาด้วยเช่นกัน สำหรับอัตรากาไรขั้นต้นในงบการเงินรวม คิดเป็น 21.8% เพิ่มขึ้นจาก 21% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สืบเนื่องจากการบริหารต้นทุนขายสินค้าและต้นทุนการให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น
ส่วนงวด 9 เดือนมีกำไร 10,133.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61.33% จากงวดเดียวกันปี 64 ที่มีกำไร 6,281.76 ล้านบาท บริษัทฯและบริษัทย่อย มีรายได้รวม 627,195 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้นทุกหน่วยธุรกิจตามการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ และการรวมธุรกิจโลตัสส์ เว็บแทงบอลสเต็ปยอดนิยม
สำหรับช่วงที่เหลือของปี บริษัทวางแผนที่จะลงทุนเปิดร้านสาขาใหม่อีกประมาณ 700 สาขาในปี 65 คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 11,500 – 12,000 ล้านบาท
ส่วนการประมาณการรายได้จากการขายและบริการ คาดว่าในปี 2565 บริษัทฯจะสามารถสร้างการเติบโตได้จากอัตราการเติบโตของยอดขายจากร้านสาขาใหม่ และอัตราการเติบโตของยอดขายเฉลี่ยจากร้านเดิม ซึ่งเป็นไปตามทิศทางของอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) การบริโภคภายในประเทศ และอัตราเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจไทยมีฟื้นตัวหลังจากเกิดการแพร่ระบาด COVID-19 แต่บริษัทฯ ยังคงต้องติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบ อาทิเช่น การปรับขึ้นของราคาพลังงาน และสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งกระทบต่อต้นทุนสินค้า ค่าขนส่ง ค่าครองชีพ รวมถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคด้วย สมัครแทงบอลสเต็ป