ห้องเม่าปีกเหล็ก

"ไทย-เวียดนาม" กลายเป็นศูนย์กลางการซื้อขายคริปโทฯในอาเซียน

โดย Analog
เผยแพร่ :
1,433 views

"ไทย-เวียดนาม" กลายเป็นศูนย์กลางการซื้อขายคริปโทฯในอาเซียน

 

สำนักข่าว Nikkei Asia รายงานเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2565 ว่า ไทยและเวียดนามกลายเป็นศูนย์กลางการซื้อขายคริปโทเคอเรนซีอันดับต้นๆ ในบรรดา 10 ประเทศสมาชิกของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเอาชนะแม้แต่ศูนย์กลางทางการเงินอย่างสิงคโปร์ ที่กำลังต่อสู้กับกฎหมายใหม่เพื่อควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัล 
 

Chainalysis แพลตฟอร์มข้อมูลบล็อกเชน ระบุเมื่อวันที่ 21 ก.ย.2565 ว่ามูลค่าการซื้อและขายคริปโทฯในอาเซียนมากกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2564 ถึงมิถุนายน 2565 

Chainalysis กล่าวว่า “ผู้ใช้ในประเทศที่มีรายได้ระดับกลางล่างและระดับกลางบนมักพึ่งพาสกุลเงินดิจิทัลในการส่งเงิน รักษาเงินออมของพวกเขาในช่วงเวลาที่ fiat currency ผันผวน ...ประเทศเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะพึ่งพาบิทคอยน์และ stablecoin มากกว่าประเทศอื่นๆ”

โดยประเทศไทยและเวียดนามมีการเข้าถึงตลาดสูงสำหรับโทเคนที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้ ซึ่งทำให้เจ้าของสามารถดำเนินการกับสิ่งของต่างๆ เช่น งานศิลปะเสมือนจริงบนบล็อกเชน ประเทศไทยบันทึกมูลค่าคริปโทฯที่ 1.359 แสนล้านดอลลาร์ในระหว่างปี ขณะที่เวียดนามมีมูลค่า 1.126 แสนล้านดอลลาร์ สิงคโปร์อยู่ที่ 1.003 แสนล้านดอลลาร์ เนื่องจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงินกำลังอยู่ระหว่างการร่างกฎเกณฑ์เพื่อกลั่นกรองการซื้อขายของโทเคนเหล่านั้นอย่างเข้มงวด

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วการอัพเกรด Ethereum ที่รอคอยมานาน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีบล็อกเชนที่สนับสนุนอีเธอร์ ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากบิทคอยน์แทบไม่สามารถเขย่าราคาคริผโทฯได้ แม้จะเป็นสิ่งที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเหตุการณ์สำคัญสำหรับสินทรัพย์เสมือน ซึ่งการอัพเกรดนี้ทำให้เห็นการเคลื่อนย้ายเครือข่ายไปยังระบบที่ลดการใช้พลังงานลงอย่างมาก ซึ่งในทางทฤษฎีแล้วจะทำให้การลงทุนใน Ethereum นั้นน่าพึงพอใจยิ่งขึ้นสำหรับผู้ที่กังวลเกี่ยวกับความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมจากอุตสาหกรรมคริปโทฯ

Vijay Ayyar รองประธานฝ่ายพัฒนาองค์กรและการขยายตัวทั่วโลกของ Luno แพลตฟอร์มคริปโทฯในลอนดอน กล่าวว่า  “ตลาดที่มีความเสี่ยงทั้งหมดกำลังได้รับผลกระทบจากปัจจัยมหภาค เช่น อัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ย ซึ่งนำไปสู่ภาวะถดถอยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต"

ด้วยเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นไปทั่วโลกจากการรุกรานยูเครนของรัสเซียในปีนี้ และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กำลังต่อสู้ดิ้นรนเพื่อควบคุมต้นทุนที่สูงขึ้นด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นักลงทุนจึงหนีจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง เช่น คริปโทฯ

 

อ้างอิง : https://asia.nikkei.com/Spotlight/Cryptocurrencies/Thailand-and-Vietnam-emerge-as-ASEAN-crypto-trading-hot-spots

 

 


Analog