จับตาหุ้นใหญซื้อ ‘แอดวานซ์’ เพิ่ม ‘บิ๊กล็อต’ ปริศนาโผ่ 1.07 หมื่นล้าน คาดผู้ถืออันดับ 10 เทขาย
- พบรายการซื้อขายหุ้น ADVANC บนกระดานใหญ่ (บิ๊กล็อต) จำนวน 35.7 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 1.07 หมื่นล้านบาท
- บล.ยูโอบี เคย์เฮียน คาดการณ์ว่าผู้ขายคือ MOUNT BATUR LIMITED ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 10 เนื่องจากจำนวนหุ้นที่ขายตรงกับจำนวนที่ถืออยู่
- ผู้ซื้อยังคงเป็นปริศนา แต่แหล่งข่าวในวงการเงินคาดว่าอาจเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของ ADVANC ที่เข้าซื้อเพิ่มเอง
- GULF ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ได้ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อครั้งนี้ โดยระบุว่าเป็นการทำธุรกรรมของฝั่งผู้ถือหุ้นต่างชาติ
พบปริศนาบิ๊กล็อต “หุ้นแอดวานซ์” 35 ล้านหุ้น มูลค่า 1.07 หมื่นล้าน จับตาหุ้นใหญ่อันดับ 1 “แอดวานซ์” เป็นผู้ซื้อเอง “บล.ยูโอบี เคย์เฮียนฯ” คาดผู้ถือหุ้นอันดับ 10 “MOUNT BATUR LIMITED” เทขาย ‘กัลฟ์’ แจงไม่มีเอี่ยว ผู้ถือหุ้นต่างชาติขาย ด้านครึ่งหลังปีนี้เดินหน้าหาโอกาสลงทุนใหม่ๆ ทั้งโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ลุยลงทุน “ดาต้า เซนเตอร์” ต่อ

วานนี้ (27 ส.ค.2568) ความเคลื่อนไหวหุ้น บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC พบรายงานการซื้อขายหลักทรัพย์บนกระดานใหญ่ (บิ๊กล็อต) ของหุ้น ADVANC-F จำนวน 2 รายการ กว่า 35,701,800 หุ้น ในราคาเฉลี่ยที่ระดับ 300 บาท คิดเป็นมูลค่า 10,711 ล้านบาท
แหล่งข่าววงการเงิน เปิดเผยว่า คาดจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของ ADVANC เป็นผู้ซื้อหุ้นผ่านรายการบิ๊กล็อตดังกล่าว ด้วยศักยภาพของธุรกิจของ ADVANC สามารถต่อยอดออกไปได้อีกมาก
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ รองกรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ให้สัมภาษณ์ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า ช่วงเช้าวานนี้พบบิ๊กล็อตหุ้น ADVANC มูลค่าสูงถึง 10,000 ล้านบาท โดยมีการซื้อขายหุ้นจำนวน 35,701,800 หุ้น และ 33,708,000 หุ้น ณ เวลา 10.10 น.
ทั้งนี้ คาดผู้ขายคือ MOUNT BATUR LIMITED ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 10 ของ ADVANC เนื่องจากจำนวนหุ้นที่ขายออกไปนั้น ตรงกับจำนวนที่ผู้ถือหุ้นรายนี้ถืออยู่พอดี อย่างไรก็ตาม ผู้ซื้อยังคงเป็นปริศนาอยู่ เพราะข้อมูลของผู้ซื้อยังคงไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ เนื่องจากการรายงานข้อมูลผู้ซื้อจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อผู้ซื้อเป็นผู้บริหาร หรือเป็นผู้ถือหุ้นที่เกินสัดส่วน 5% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ทำให้ในกรณีนี้ เราอาจจะไม่เห็นการรายงานข้อมูลจากฝั่งผู้ซื้อ
โดยการขายหุ้นแบบบิ๊กล็อตไม่ใช่การซื้อขายในกระดานปกติ แต่เป็นการเจรจาตกลงกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ซึ่งหมายความว่า ดีลนี้อาจเริ่มต้นจากฝ่ายผู้ซื้อหรือฝ่ายผู้ขายก็ได้ ซึ่งหากดีลนี้เริ่มต้นจากฝ่ายผู้ซื้อ นั่นแปลว่าผู้ซื้อ มองเห็นศักยภาพในหุ้น ADVANC ณ ระดับราคาปัจจุบัน เพราะหากพิจารณาความสามารถในการสร้างกระแสเงินสด หุ้นกลุ่มสื่อสารอย่าง ADVANC ถือว่ามีราคาที่ถูกกว่ากลุ่มโรงพยาบาล
นอกจากนี้ ADVANC ซื้อขายที่อัตราส่วน EV/EBITDA จากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานประมาณ 9-10 เท่า ในขณะที่หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลขนาดใหญ่ เช่น BDMS ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 14 เท่า เมื่อเทียบกับกระแสเงินสด ซึ่งในระยะสั้น ADVANC ยังมีแนวโน้มที่ผลประกอบการจะปรับตัวดีขึ้น
นายกรรณ์ หทัยศรัทธา หัวหน้านักกลยุทธ์การลงทุน และ นักเศรษฐศาสตร์ สายงานวิจัย บล.ซีจีเอส-อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) กล่าวว่า การขายหุ้นบิ๊กล็อตครั้งนี้ มีโอกาสเป็นไปได้ว่า น่าจะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ที่ถือหุ้นอยู่เป็นจำนวนมากอยู่แล้ว เนื่องจากหากเป็นนักลงทุนต่างชาติที่เพิ่งเข้ามาลงทุนในกลุ่มสื่อสารหลังจากที่มีการปรับพอร์ตขายหุ้นธนาคารออกไป ก็ไม่น่าจะขายออกไปในทันที
นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF และในฐานะ กรรมการบริหาร ADVANC กล่าวว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวมาจากฝั่งผู้ถือหุ้นต่างชาติ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับเรา ไม่มีการเข้าซื้ออีกแล้ว
สำหรับ แนวโน้มผลดำเนินงานครึ่งหลังปี 2568 คาดจะเติบโตขึ้นจากครึ่งแรก และผลักดันให้ผลการดำเนินงานทั้งปี 2568 บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมีรายได้เติบโตขึ้นประมาณ 25% จากปี 2567 และมีกำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เติบโตขึ้น 40% โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ของโรงไฟฟ้าใหม่ พร้อมกับมีแผนซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนทั้งในและต่างประเทศเพิ่ม
ขณะที่ ยังคงมองหาโอกาสลงทุนใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในพลังงานหมุนเวียนในประเทศ และมีแผนเข้าไปซื้อโซลาร์ โรงไฟฟ้าโซลาร์แบตเตอรี่ และโรงไฟฟ้าพลังงานลมเพิ่มขึ้น และเขื่อน ด้านธุรกิจดาต้า เซนเตอร์ มีแผนจะขยายไปยังเฟส 2 เฟส 3 และ เฟส 4 ด้วย โดยมองว่าความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากการใช้ดาต้า เซนเตอร์ เพราะมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยมีการใช้โซเชียลมีเดียเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะคีย์เซกเตอร์ต่างๆ ทั้ง ไฟแนนซ์ อีคอมเมิรซ์ เฮลแคร์ เป็นต้น
ที่มา. https://www.bangkokbiznews.com/finance/stock/1196148